For the Bold and the Brave of the High Seas
ULYSSE NARDIN แบรนด์นาฬิกาอิสระสัญชาติสวิส ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการนาฬิกาชั้นสูงมาตั้งแต่ปี 1846 มีความตื่นเต้นที่จะแนะนำ Diver NET Vendée Globe นาฬิกาที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดที่สร้างขึ้นสำหรับนักสู้ในท้องทะเล ในฐานะนักเล่นเรือยอทช์ทั้งชายและหญิงที่มีส่วนร่วมในเรือ Vendée อันแสนทรหด จากความที่ ULYSSE NARDIN เป็นผู้บุกเบิกด้านความเที่ยงตรง ที่สร้างชื่อเสียงในเรื่องนาฬิกาโครโนมิเตอร์ ทางทะเลที่มีความแม่นยำและเชื่อถือได้ ให้กับกองทัพเรือต่างๆ ของโลกในช่วงศตวรรษที่ 19
จะทำหน้าที่เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ พร้อมกับการเป็นผู้จับเวลาอย่างเป็นทางการของ VENDÉE GLOBE เป็นครั้งที่สอง จากการทำหน้าที่นี้เป็นครั้งแรกในปี 2020-21 จากการแข่งขันที่จัดขึ้นในทุกๆ สี่ปี พร้อมนำเสนอนาฬิการุ่น Diver NET VENDÉE GLOBE ที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวน 300 เรือน ที่ได้รับแรงบันดาลใจไม่เพียงแต่จากการแข่งขัน ของชายและหญิงผู้กล้าหาญที่ลงแข่งขันเท่านั้น แต่ยังมาจากวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการมุ่งเน้น ที่จะผลิตนาฬิกาแบบยั่งยืนซึ่งเน้นย้ำถึงความเปราะบางของมหาสมุทร
ซึ่งนาฬิกาที่ก้าวข้ามขีดจำกัดนี้ จะประกอบด้วยความน่าทึ่งของวัสดุรีไซเคิลและอัพไซเคิล ซึ่งรวมถึงสตีลรีไซเคิล คาร์บอนไฟเบอร์รีไซเคิล และอวนจับปลารีไซเคิล รวมไปถึงชิ้นส่วนในชุดกลไก ที่ผลิตจากซิลิคอนที่นำกลับมาใช้ใหม่ อันเป็นองค์ประกอบในการบุกเบิก และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของโลกเป็นหลัก ที่ทำให้ Diver NET VENDÉE GLOBE ถือเป็นนาฬิกาที่มีความยั่งยืนมากที่สุด เท่าที่เคยมีมาจากสายการผลิตของ ULYSSE NARDIN ในเลอโลค พร้อมความยิ่งใหญ่ของการแข่งขันที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 ในปี 2024 นี้
นาฬิกาที่ท้าทายแนวคิดแบบเดิมๆ นี้มีพื้นฐานมาจากนาฬิกา ULYSSE NARDIN รุ่น Diver ซึ่งเป็นนาฬิกาดำน้ำประสิทธิภาพสูง ที่ต่อยอดมาจากมรดกทางทะเล อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งมีจุดกำเนิดขึ้นเมื่อเกือบ 180 ปีที่แล้ว โดยมาพร้อมความสามารถในการกันน้ำลึกถึงระดับ 300 เมตร กับขอบเบเซิลที่หมุนได้ทิศทางเดียว สำหรับจับเวลาในการดำน้ำ และรายละเอียดการเรืองแสงในจุดที่ต้องแสดงค่า ร่วมกันกับเข็มแสดงค่าเวลาวินาที ที่จะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน และจะบ่งบอกได้ว่านาฬิกากำลังทำงานอยู่ปกติ
Diver NET VENDÉE GLOBE มาจากการออกแบบพร้อมการทะลายขอบเขตทางด้านเทคนิค เพื่อให้นาฬิกาเรือนนี้กลายเป็นนาฬิกา ที่มีความยั่งยืนมากที่สุดเท่าที่แบรนด์เคยสร้างมา โดยการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิลที่ทันสมัย เช่น คาร์บอนฟอยล์ (CarbonFoil) และไนโลฟอยล์ (NyloFoil) โดยจะผลิตขึ้นเพียงจำนวน 300 เรือนสำหรับตลาดทั่วโลกเท่านั้น โดยนอกจากจะมีความยั่งยืนสูงแล้ว องค์ประกอบบางส่วนยังบอกเล่าเรื่องราว ของการแข่งขันและความร่วมมือระหว่าง ULYSSE NARDIN และ VENDÉE GLOBE อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น อวนจับปลารีไซเคิลที่ใช้ในด้านข้างตัวเรือน สายดึงและฝาหลังของนาฬิกา เป็นการจัดหาจากแหล่งโดยตรง โดยอวนเหล่านี้ถูกรวบรวมโดยชาวประมงอิสระชื่อFLORIAN ซึ่งส่งต่อให้กับบริษัทรีไซเคิลสัญชาติฝรั่งเศส FIL & FAB ซึ่งเป็นหุ้นส่วนระยะยาวของ ULYSSE NARDIN พร้อมความเชื่อในเรื่องความยั่งยืน และสอดคล้องกับภารกิจ "One Globe, One Ocean" ของ VENDÉE GLOBE โดยใช้การแข่งขันเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์มหาสมุทร และมุ่งความสนใจไปยังภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องนี้
และสำหรับการแข่งขัน ที่จะมีผู้เข้าแข่งขันเพียงครึ่งเดียวใน VENDÉE GLOBE เท่านั้นที่จะทำสามารถทำภารกิจที่ท้าทายนี้ให้สำเร็จได้ โดยจะต้องอยู่บนผืนน้ำเป็นเวลาหลายเดือน พร้อมการเอาชนะในด้านต่างๆ สำหรับการดำรงอยู่ และยืดจิตใจพร้อมร่างกายให้เกินกว่าขีดจำกัดที่มี เพื่อที่จะทำให้สามารถเข้าสู่เส้นชัยได้ในที่สุด อย่างที่ ULYSSE NARDIN มุ่งมั่นให้เกิดความแข็งแกร่งในร่างกายของผู้คน พร้อมจิตใจที่เข้าใจในเรื่องของธรรมชาติ รวมไปถึงทรัพยากรที่มีอยู่ และหวงแหนเพื่อให้ดำรงอยู่อย่างยั่งยืนกับโลกนี้ตลอดไป