ULYSSE NARDIN Freak X
นาฬิการุ่นนี้ โดดเด่นที่สุดกับหน้าปัดที่มาจากกลไกรูปแบบฟลายอิ้ง แครูเซล ที่ผลิตขึ้นเองจากโรงงานของ ULYSSE NARDIN ที่จะหมุนวนไปรอบแกนโดยไร้ซึ่งหน้าปัดและเข็ม และนี่คือ Freak คอลเลคชั่นเรือนเวลาที่ห้าวหาญที่สุดของ ULYSSE NARDIN ซึ่งเป็นผู้กล้า ในการผลักดันความปรารถนาอันแรงกล้าสู่ระดับสูงสุด และเขย่าลักษณะเรือนเวลาในรูปแบบเดิมๆ ให้สั่นสะเทือน ด้วยกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ให้รูปแบบและดีไซน์การออกแบบ ต้องเป็นไปตามฟังก์ชั่นการทำงานเท่านั้น และก่อกำเนิดเป็นดีไซน์การออกแบบที่แข็งแรงและเทคโนโลยีที่ท้าทายความคาดหมาย ดังนั้น Freak X จึงมิใช่แค่นำแรงบันดาลใจจากการผจญภัยในดินแดนเดิม แต่เรียกได้ว่าเป็นการสำรวจดินแดนแห่งใหม่ทียังไม่มีใครเคยไปถึง!
นวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับ Ulysse Nardin แล้ว จะมีความหมายที่อิงกับวิถีแห่งชีวิต เพื่อการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ๆ อย่างมีสไตล์ และเป็นที่มาของการแนะนำ X-FACTOR ในการประดิษฐ์เรือนเวลา ซึ่ง X เป็นอักษรลำดับที่ 24 ที่ถูกใช้อย่างหลากหลาย รวมไปถึงการเป็นสัญลักษณ์ ณ ตำแหน่งลงนามบนเอกสารทางกฎหมาย เป็นอักษรใช้แทนโครโมโซม รุ่นอายุคน จุดตัดกัน เครื่องหมายคูณ ตลอดจนตำแหน่งบนลายแทงขุมทรัพย์ และ X ยังใช้แสดงถึงสิ่งที่ยังไม่รู้ ยังระบุไม่ได้ หรือปัจจัยที่เป็นตัวแปรอีกด้วย คำที่มีอักษร X เป็นองค์ประกอบหลักอย่าง Xploration (เอ็กซ์พลอเรชัน: การสำรวจ) Xtraordinary (เอ็กซ์ทราออดินารี: เหนือธรรมดา) Xcess (เอ็กเซส: จำนวนที่มากเกินพอ) Xperience (เอ็กซ์พีเรียนซ์: ประสบการณ์) Xcitement (เอ็กไซต์เมนท์: ความเร้าอารมณ์) Xtreme (เอ็กซ์ทรีม: สุดขีด) และ compleX (คอมเพล็กซ์: ความซับซ้อน) ดังนั้น X ในที่นี้จึงเป็นมากกว่าคำแถลงการณ์ที่ย้ำเตือนว่าคอลเลคชั่น Freak นี้จะเป็นการผนึกรวมความกล้าหาญและความคิดสร้างสรรค์ที่ ULYSSE NARDIN วางกลุ่มเป้าหมายไปยังผู้ที่กล้าพอที่จะมีความโดดเด่นในหมู่ผู้คนทั่วๆ ไป
Freak X น้องใหม่แห่งตระกูล Freak ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่คอลเลคชั่น Freak ซึ่งมีความงดงามและองค์ประกอบของการทำงานในลักษณะเดียวกันกับนาฬิการุ่น Freak อื่นๆ ในตระกูล แต่ก็ยังผลักตัวเองออกไปสู่ความแปลกใหม่ ด้วยขนาดที่ลดลงเป็น 43 มิลลิเมตร ทั้งยังสามารถอ่านค่าและใช้งานได้อย่างง่ายดายกว่า จากการใช้เม็ดมะยมสำหรับปรับตั้งเวลา ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนลักษณะของการไร้เม็ดมะยมและปรับตั้งเวลาจากวงขอบตัวเรือน อันเป็นหนึ่งในความโดดเด่นที่สุดของนาฬิการุ่น Freak ต่างๆ ส่วนกลไกรูปทรงบาแกตต์ ซึ่งเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมยาวนั้นยังคงทำหน้าที่เป็นแครูเซล โดยจะหมุนวนรอบตัวเองหนึ่งรอบในทุกชั่วโมงเพื่อแสดงเวลา ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียบง่ายกว่า โดดเด่นกว่า มีวงจักรน้อยกว่า และไม่มีทั้งหน้าปัดและเข็ม โดยสะพานจักรชิ้นกลางจะทำหน้าที่เป็นเข็มนาที และใช้วงจักรอีกวงทำหน้าที่แสดงชั่วโมง
ในส่วนของกลไกนั้น สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงจังหวะการเคลื่อนไหวของหนึ่งในนวัตกรรมอันโดดเด่นที่สุดของนาฬิการุ่นพี่อย่าง Freak Vision นั่นก็คือ จักรกลอกวัสดุซิลิเซียมน้ำหนักแสนเบา ซึ่งมีขนาดกว้างเป็นพิเศษ พร้อมชิ้นนิกเกิลถ่วงน้ำหนัก และใบจักรรักษาเสถียรภาพขนาดเล็ก โดยกลไกของนาฬิการุ่นนี้จะเป็นกลไกรุ่นใหม่ที่มีรหัสว่า UN-230 อันเป็นการผสมผสานกันของกลไก UN-118 ซึ่งเป็นกลไกแบบมาตรฐานของ ULYSSE NARDIN กับกลไก UN-250 ที่ใช้กับนาฬิการุ่น Freak Vision ตัวเรือนทรงกลมที่เต็มไปด้วยเส้นโค้ง ที่ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงด้วยความจงใจ
นาฬิการุ่น Freak X มีให้เลือกสรรทั้งในวัสดุไทเทเนียม โรสโกลด์ ไทเทเนียมเคลือบดีแอลซี และคาร์โบเนียม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ULYSSE NARDIN ในการขยายและเพิ่มเติมคอลเลคชั่นนาฬิกาของตัวเอง โดยผลักดันความรู้ความชำนาญในการประดิษฐ์นาฬิกา สู่ระดับ X ในฐานะของผู้กล้าหาญแห่งโลกสมัยใหม่
รายละเอียดทางเทคนิค
2303-270/03 // 2303-270.1/03
2303-270.1/BLACK // 2303-270/BLACK
2305-270/02
2303-270/CARB // 2303-270.1/CARB
กลไก: คาลิเบอร์ UN-230, กลไกขึ้นลานอัตโนมัติ
ฟังก์ชั่นการทำงาน: กลไกรูปแบบฟลายอิ้ง แครูเซล จักรกลอกวัสดุซิลิเซียม ทำงานที่ความถี่ 3 เฮิร์ตซ์ เข็มและสะพานจักรเคลือบสารเรืองแสงชนิดซูเปอร์ลูมิโนวา
พลังงานสำรอง: 72 ชั่วโมง
ตัวเรือน ไทเทเนียม / ไทเทเนียมเคลือบพีวีดี
ไทเทเนียมเคลือบดีแอลซี
โรสโกลด์ / ไทเทเนียมเคลือบดีแอลซี
คาร์โบเนียม / ไทเทเนียมเคลือบดีแอลซี
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง: 43 มิลลิเมตร
ฝาหลัง: กระจกแซฟไฟร์
การกันน้ำ: 50 เมตร
สาย: สายหนังวัวฉลุร่องโปร่ง หรือสายหนังจระเข้ที่เย็บตกแต่งด้วยรูปแบบ “พ้อยท์ เดอ บรีด์”