SWATCH พุ่งทะยานสู่จักรวาล ด้วยแรงบันดาลใจที่ไร้ขีดจำกัดไปกับ “Space Collection”
“The sky’s not the limit; dreams are” ไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้งไม่ให้ผู้คนไขว่คว้าฝัน หรือทำสิ่งใดให้สำเร็จลงได้ ก็เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่ไม่เคยมีจุดสิ้นสุด บวกกับแนวคิดของ SWATCH ที่ว่า “Time is what you make of it” ที่หมายถึงว่าเวลาเป็นสิ่งที่กำหนดได้ และเกิดเป็นแรงบันดาลใจในคอลเลคชั่นล่าสุด SWATCH Space Collection คอลเลคชั่นที่จะพาทุกคนพุ่งทะยานสู่จักรวาลและดวงดาว ซึ่งถือเป็นการร่วมฉลองให้กับ NASA และก้าวต่อไปของ SWATCH กับนวัตกรรมวัสดุศาสตร์ที่น่าหลงใหลอย่าง ไบโอเซรามิค (BioCeramic)
วัสดุสุดล้ำที่ผลิตจากเซรามิค 2/3 ส่วน และพลาสติคชีวภาพอีก 1/3 ส่วน กับสัมผัสที่นุ่มลื่นดุจผ้าไหม และให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อสวมใส่ โดยนาฬิกา 3 เรือนจาก 5 เรือนในคอลเลคชั่นนี้ จะมีส่วนประกอบที่ผลิตมาจากวัสดุสังเคราะห์ธรรมชาติ บวกกับดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดนักบินอวกาศของ NASA โดยนาฬิกา 3 เรือนกับโมเดลสุดฮิตอย่าง Big Bold ที่ตัวเรือนผลิตมาจากนวัตกรรมวัสดุไบโอเซรามิค ด้วยหน้าปัดขนาด 47 มิลลิเมตร ที่ดีไซน์มาให้โค้งรับกับทุกขนาดข้อมือของผู้สวมใส่ในทุกขนาด บวกกับแรงบันดาลใจของนาฬิกาแต่ละรุ่น โดยมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ 4,300 บาท ถึง 5,600 บาท
เริ่มกันที่เรือนแรกกับสีขาวสะดุดตา Big Bold Chrono Extra Vehicular นาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชุดนักบินอวกาศสีขาว ที่ใช้สวมใส่สำหรับการทำภาระกิจนอกตัวยาน ถูกสวมใส่ครั้งแรกในปี 1983 โดยนักบินอวกาศของ NASA, Story Musgrave และ Donald Peterson โดยสีขาวจะทำให้มองเห็นได้ชัดเมื่ออยู่ในอวกาศ ทั้งยังช่วยสะท้อนแสง และไม่ดูดซึมความร้อนจากดวงอาทิตย์มากจนเกินไป พร้อมดีไซน์สุดพิเศษกับไฮไลท์สีแดง สำหรับการนับถอยหลังช่วง 10 วินาทีสุดท้าย ขอบหน้าปัดเรืองแสง และเป็นนาฬิการุ่นเดียวใน Space Collectionที่มีหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 4 นาฬิกา
ต่อกันที่นาฬิกาเรือนที่สองกับ Big Bold Chrono Launch ในสีส้มสุดจี๊ดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากชุดนักบินอวกาศ The Orange Advanced Crew Escape Suit เพื่อใช้สวมใส่ขณะที่ยานถูกปล่อยขึ้น และยังเป็นที่มาของชื่อรุ่น “Launch” อีกด้วย โดยมีความโดดเด่นกับหน้าปัดสีเงิน ที่ให้ความสว่างและง่ายต่อการอ่านค่าเวลา เพิ่มลูกเล่นด้วยไฮไลท์สีแดงสำหรับการนับถอยหลังช่วง 10 วินาทีสุดท้าย และขอบหน้าปัดเรืองแสงเช่นเดียวกับรุ่น Extrav Vehicular พร้อมสนุกไปกับฟังก์ชั่นปุ่มกดจับเวลา และลูปสีน้ำเงินกับขาว
เรือนสุดท้ายคือ Big Bold Jumpsuit นาฬิกาที่มีโทนสีน้ำเงินของกาแล็กซี่ ที่สะท้อนให้เห็นถึงชุดจั๊มสูทสีน้ำเงินของนักบินอวกาศ NASA มาพร้อมดีไซน์ของหน้าปัดที่โชว์กลไกกับโลโก้SWATCH ที่เรืองแสง พร้อมกับลูกเล่นกระจกหน้าปัดมิเรอร์เอฟเฟ็คท์สะท้อนแสง ที่เมื่ออยู่กับสีน้ำเงินและลูปสีขาว ก็จะได้โทนสีสันที่เข้ากันได้อย่างลงตัวแบบสุดๆ
นอกจากนี้ SWATCH Space Collection ยังมีนาฬิกาอีก 2 เรือนที่เอาใจสายมินิมอล กับนาฬิกาที่มีขนาดตัวเรือน 41 มิลลิเมตร ดีไซน์สุดคลาสสิคที่จับคู่สีขาว-ดำ เพิ่มลูกเล่นกระจกหน้าปัดมิเรอร์เอฟเฟ็ท์สีเงินสะท้อนแสงที่สื่อถึง NASA ในยุคแรกที่เป็นอดีตคู่แข่งทางอวกาศในยุคสงครามเย็นกับสหภาพโซเวียต และเป็นที่มาของชื่อรุ่นว่า Space Race ที่ซึ่งการแข่งขันนี้นำมาสู่ความสำเร็จ และความก้าวหน้าทางด้านการสำรวจอวกาศของ NASA อีกมากมายตั้งแต่ยุคบุกเบิกจนถึงปัจจุบัน ในราคาจำหน่ายที่ 3,150 บาท
และนาฬิกาเรือนสุดท้ายที่ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากภาระกิจการเดินทางสำรวจดวงจันทร์ที่ NASA ส่งยาน Apollo 11 และพา Neil Armstrong ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จเป็นคนแรกของโลก และเป็นที่มาของชื่อรุ่น Take me to the Moon โดยมีตัวเรือนและสายที่สื่อถึงพื้นผิวของดวงจันทร์ที่เป็นสีเงินวาว กับตัวเรือนในขนาด 34 มิลลิเมตร โชว์กลไกควอท์ซสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีประจำของ NASA และยังเป็นสีของธงชาติสหรัฐอเมริกาอีกด้วย กับราคาจำหน่ายที่ 2,800 บาท
และสำหรับเด็กๆ ที่อยากท่องโลกไกลโพ้นกับนักบินอวกาศทั้งหลาย 3-2-1 Lift Off นาฬิกาสำหรับเด็กจาก FLIK FLAK ที่จะพาเด็กๆ ท่องไปในอวกาศ เอาใจนักสำรวจตัวน้อยที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักบินอวกาศ โดยมีตัวเรือนที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมด มาพร้อมกับดีไซน์พิเศษพิมพ์โลโก้ NASA บนสายสีขาวตัดด้วยลายเส้นสีแดงและสีน้ำเงิน เข้ากับเข็มแสดงเวลาชั่วโมงสีน้ำเงินและเข็มแสดงเวลานาทีสีแดง ในราคาจำหน่ายที่ 1,200 บาท
ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะนาฬิกา SWACH Space Collection ยังมีการนำเสนอในแบบเอ็กซ์คลูซีพเซ็ทที่ผลิตในแบบจำนวนจำกัดเพียง 800 เซ็ททั่วโลกเท่านั้น ประกอบไปด้วยนาฬิกา SWATCH Space Collection ทั้งหมด 6 เรือน โดยเป็นนาฬิกา SWATCH จำนวน 5 เรือน และ FLIK FLAK อีก 1 เรือน บรรจุในกล่องอะลูมิเนียมดีไซน์พิเศษทรงแคปซูลอวกาศ ในราคาจำหน่ายเซ็ทละ 33,000 บาท