SWATCH เปิดตัวอาคารสำนักงานใหญ่ดีไซน์สุดล้ำ

 

หลังการก่อสร้างอย่างยาวนานและพิถีพิถันกว่า 5 ปี SWATCH ก็พร้อมเผยโฉมให้เห็นถึงการออกแบบ และการคัดสรรวัสดุก่อสร้างที่ผ่านกระบวนการคิด มาอย่างละเอียดอ่อนและหลักแหลมโดย Shigeru Ban สถาปนิกชาวญี่ปุ่นผู้ชนะรางวัลพริตซ์เกอร์ (Pritzker Prize) ที่เปรียบเสมือนรางวัลโนเบลทางด้านสถาปัตยกรรม

  

191112 swatch office 1

 

อาคารทรงโค้งแปลกตาความยาว 240 เมตร สะท้อนแสงแดดเป็นประกาย ทำให้เห็นถึงความสง่างามที่ถูกวางพาดกลางเมืองเบียน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยดีไซน์สุดแหวกแนวนี้ ได้เปลี่ยนสำนักงานแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นสถานที่ปลุกจินตนาการของพนักงาน และผู้คนที่สัญจรไปมา ทั้งยังผสมผสานแรงบันดาลใจในการสร้าง เข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบตัวเมืองอย่างลงตัวราวกับงานศิลปะ

 

sd03 swatch hq exterior 18 Original 1

 

เปลือกภายนอกอาคาร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 11,000 ตารางเมตรรอบอาคาร ทั้งด้านในและด้านนอกถูกออกแบบให้เกิดมิติ ที่มีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม พิเศษที่การผสมผสานระหว่างดีไซน์และนวัตกรรม ด้วยการวางแพทเทิร์นซ้ำๆ สลับกับวัสดุที่ต่างกันออกไป บนโครงสร้างเปลือกทำจากไม้สนลายกริด (Grid Facade) ไม่ว่าจะเป็นไม้หรือกระจก ที่โค้งไปตามสรีระโครงสร้างของตัวอาคาร ตอกย้ำความละเอียดและประณีต ด้วยการใช้ไม้สนเป็นวัสดุสำคัญของโครงสร้าง ที่มีความแข็งแรงทนทาน ในขณะเดียวกันกลับมีน้ำหนักที่เบา และให้สีอ่อนสบายตา

 

191112 swatch office 5

 

เปลือกลายกริดถูกยึดกันด้วยคานกว่า 4,600 ชิ้น โดยแต่ละช่องหรือกริด (Grid) ถอดฟอร์มมาจากทรงรังผึ้ง (Honeycomb) ที่ประกอบกันกว่า 2,800 ชิ้น ซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันทีละชิ้น มีทั้งแบบทึบ กึ่งโปร่งแสง และโปร่งแสง โดยส่วนที่ทึบจะครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ ของเปลือกอาคารสลับกับแบบกึ่งโปร่งแสงและโปร่งแสง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในที่แต่ละจุดของอาคาร

 

191112 swatch office 7

 

ความล้ำหน้าของนวัตกรรมอยู่ในทุกดีเทลของการออกแบบ ในส่วนของกริดบนเปลือกอาคาร ที่ถูกเชื่อมเข้ากับไลฟ์สไตล์การทำงานภายในอาคารของพนักงาน เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด อย่างการติดโพลีคาร์โบเนทชีท (Polycarbonate sheet) ที่ช่วยกรองแสงยูวีและทนต่อสภาพอากาศ ตั้งแต่หนาวเย็นไปจนถึงร้อนระอุ หรือกริดกระจกที่สามารถเปิดออกสำหรับผู้ที่ต้องการสูบบุหรี่

 

191112 swatch office 2

 

ภายในอาคาร ถูกออกแบบมาในลักษณะเปิดโล่งสลับกับโซนปิดในบางมุม เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพนักงาน อย่างโซนที่เรียกว่า “Alcove Cabins” สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือ “Reading Stairs” พื้นที่ปลุกสร้างไอเดียสร้างสรรค์ (Brainstorming) ฯลฯ ล็อบบี้พื้นที่กว้างขวาง เปิดโล่งรับกับฟาซาดลายไม้พาดไปมาด้านบน ที่เมื่อขึ้นลิฟต์แก้วแล้ว จะเจอกับทางเดินกระจกลอยฟ้าบนชั้น 3 ที่เชื่อมระหว่างสำนักงานใหญ่และ Cité du Temps Gallery และสถานที่จัดนิทรรศการที่ออกแบบโดย Shigeru Ban ซึ่งภายในประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่สำคัญ คือ PLANET SWATCH, Omega Museum และ  Nicolas G. Hayek Conference Hall

 

Swatch 04

 

เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมสุดอลังการนี้ SWATCH ยังคงเล็งเห็นถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยผสานคอนเซ็ปท์การใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Technology) และการนำน้ำบาดาล (Ground Water) มาวนใช้ในระบบไฟฟ้าขั้นพื้นฐาน ทั้งในส่วนของสำนักงานใหญ่ และ Cité du Temps Gallery อย่างการกระจายชิ้นส่วนแผงโซล่าร์เซลล์ (Solar Cell) ที่กริดแต่ละบานบนเปลือกอาคาร รวมถึงการเฉพาะเจาะจงเลือกใช้ไม้ในการสร้างจากต้นสน Spruce ในจำนวนที่ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงในการปลูกทดแทนเท่านั้น

 

191112 swatch office 3

 

ความยิ่งใหญ่ของเปลือกอาคารที่ทำจากไม้ บวกกับเทคโนโลยีในการทำงานที่ต้องดีเยี่ยม และเอื้อเฟื้อต่อการทำงานได้จริง เกิดเป็นความท้าทายระหว่างสถาปัตยกรรม และระบบวิศวกรรมที่จำเป็นต้องผสมผสานกันอย่างลงตัว โดยมีสิ่งแวดล้อมเป็นตัวเชื่อมความสมดุลระหว่างสองแขนง เรียกได้ว่าสำนักงานใหญ่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงอาคารทำงาน แต่เป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนบ่งบอกตัวตนของ SWATCH ได้เป็นอย่างดี

 

sd03 swatch hq exterior 11 Original