3 เรือนใหม่ล่าสุดจาก SEIKO ที่ถือเป็นนาฬิการุ่นฮ๊อตสำหรับเดือนมกราคมนี้
นาฬิกา 3 เรือนใหม่ล่าสุดที่นักสะสมต่างถามหาตั้งแต่ช่วงการเปิดตัว โดยกำหนดการจำหน่ายจะมีขึ้นในวันนี้ ซึ่งจะจัดจำหน่ายในจำนวนจำกัด ตามจำนวนการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการจำกัดจำนวนตามความต้องการของแต่ละประเทศทั่วโลก โดยทั้ง 3 รุ่นถือเป็นนาฬิการุ่นฮ๊อตที่นักสะสมต้องตามเก็บให้ครบในทั้ง 3 รุ่นพิเศษ ที่ต่างก็มีความพิเศษเฉพาะตัวที่น่าสนใจแตกต่างกันไป โดยเรือนแรก จะมาจากเรื่องราวของยอดมนุษย์ผู้ผดุงความยุติธรรม ที่เดินทางจากดวงดาวแห่งแสงหรือเนบิวลา M78 เพื่อเดินทางมายังโลก เพื่อช่วยต่อสู้และปกป้องโลกอันสวยงาม ให้รอดพ้นจากการรุกรานของมนุษย์ต่างดาวผู้บุกรุก ซึ่งถือเป็นหนึ่งฮีโร่ขวัญใจในวัยเด็กของหลายคน มาสู่ความร่วมมือครั้งใหม่ของ SEIKO 5 Sports กับอุลตร้าเซเว่น ยอดมนุษย์ชื่อดังในโลกของภาพยนตร์ ซึ่งเริ่มเปิดตัวในปี 1968 จนมาถึงในปี 2023 นี้ที่ถือเป็นวาระครบรอบ 55 ปี
นาฬิกาใน Ref. SRPJ79K โดดเด่นด้วยหน้าปัดที่มาพร้อมกับสีและลวดลายในแบบเมทัลลิค และการออกแบบขอบเบเซิลที่อ้างอิงจากรุ่นดั้งเดิมของ SEIKO 5 Sports ผสมผสานสีสันอันเป็นเอกลักษณ์ของหน่วยอุลตร้าการ์ด นำเสนอผ่านรายละเอียดบนตัวเรือน จึงเปรียบเสมือนกับการเป็นเครื่องบอกเวลา ที่ถูกใช้งานในฐานะนาฬิกาคู่กายของเจ้าหน้าที่ หน่วยอุลตร้าการ์ดทุกคนอย่างเป็นทางการ พร้อมแมตช์เข้ากับสายนาโต้ที่มีมาพร้อมกันด้วย โดย SEIKO 5 Sports 55thAnniversary Ultraseven Limited Edition Ref. SRPJ79K จะจำหน่ายในแบบจำนวนจำกัด 3,400 เรือนทั่วโลก และเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ที่บูติคนาฬิกา SEIKO เซ็นทรัลพระรามเก้า ไซโกบูติคออนไลน์ เคาท์เตอร์นาฬิกาไซโก ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และร้านตัวแทนจำหน่ายของ SEIKO ทั่วประเทศ โดยจะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 17,000 บาท
SEIKO ฉลอง 110 ปีของการผลิตนาฬิกาข้อมือ สะท้อนความงามแห่งภูมิทัศน์ของขั้วโลก ผ่านหน้าปัดนาฬิกาดำน้ำรุ่นใหม่จาก Prospex ซึ่งจากประวัติศาสตร์ของนาฬิกา SEIKO ที่เริ่มต้นขึ้นในปี 1881 เมื่อ Kintaro Hattori เปิดร้านตนเองขึ้นในย่านกินซ่า เพื่อซ่อมและขายนาฬิกาจนในปี 1913 สามารถเปิดตัวนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของญี่ปุ่นออกสู่ตลาด และจากนั้น SEIKO ก็ได้เปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการผลิตนาฬิกามาอย่างมากมาย ซึ่งในปี 2023 นี้ SEIKO จึงถือเป็นโอกาสพิเศษในการครบรอบ 110 ปีของการผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกด้วยการเปิดตัวเรือนเวลา แบบดำน้ำรุ่นพิเศษอันโดดเด่นจากคอลเลคชั่น Prospex ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์โดยมีแรงบันดาลใจ มาจากมรดกทางการออกแบบและเทคโนโลยีอันโดดเด่นของ SEIKO เอง พร้อมพื้นผิวของหน้าปัดที่เป็นเสมือนภาพของธารน้ำแข็งขั้วโลก ที่รวมตัวกันจนกลายเป็นภูมิทัศน์และทิวทัศน์ทะเลน้ำแข็ง
ตัวเรือนอ้างอิงมาจากรูปทรงของนาฬิกาดำน้ำ Ref. 6105-8000 ที่เปิดตัวในปี 1968 กับเส้นสายที่เน้นความโค้งมนและมีเม็ดมะยมที่ในตำแหน่ง 4 นาฬิกา พร้อมอีกสิ่งที่โดดเด่นนั่นคือสายสตีลแบบ 5 แถวกับบานพับสายที่ได้รับการออกแบบให้ล็อคได้อย่างแน่นหนา นอกจากนี้ยังมีสายถักพิเศษเพิ่มให้อีกชุด โดยเป็นสายที่ผลิตจากวัสดุโพลีเอสเตอร์ที่ผลิตจากขวดพลาสติคที่ผ่านกระบวนการรีไซเคิล เพื่อเน้นย้ำถึงความเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม ในลวดลายที่ถูกถักทอขึ้นด้วยเทคนิคเฉพาะในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าเซย์ชู ที่มาพร้อมความแข็งแกร่งและทนทานตามมาตรฐานนาฬิกาดำน้ำของ SEIKO โดยนาฬิการุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ Save the Ocean ที่สะท้อนถึงพันธกิจของ SEIKO Prospex ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่าย จะนำไปร่วมสนับสนุนการดำเนินงาน ขององค์การกุศลที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทะเลและท้องมหาสมุทร
ผลงานเรือนเวลาการสร้างสรรค์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามแห่งภูมิทัศน์ของทะเลขั้วโลก SEIKO Prospex 110th Anniversary Save the Ocean Limited Edition ใน Ref. SPB333J จะมีราคาราคาจำหน่ายที่ 54,000 บาท โดยผลิตจำนวน 5,000 เรือนทั่วโลก และนำเข้าจำหน่ายในประเทศไทยในจำนวนจำกัด ในขณะที่นาฬิกาเรือนสุดท้าย ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของนาฬิกาจาก SEIKO ประจำปี 2023 นั่นก็คือนาฬิกาเรือนที่เป็นสัญลักษณ์ของการฉลอง 110 ปีแห่งการผลิตนาฬิกาข้อมือของ SEIKO กับนาฬิกาคอลเลคชั่น Presage ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นใหม่จากนาฬิกาข้อมือรุ่นดั้งเดิมเรือนแรกของญี่ปุ่น จากแนวคิดในปี 1881 ที่ Kintaro Hattori เริ่มผลิตนาฬิกาและออกจำหน่ายโดยทั่วไปในขณะนั้น ซึ่งยังเป็นช่วงที่นาฬิกาข้อมือถือเป็นของใหม่ จนกระทั่งเป็นในปี 1913 กับการเปิดตัวนาฬิกา LAUREL ขึ้นโดยถือเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกจากญี่ปุ่นที่ผลิตขึ้นเอง
ปีนี้จึงนับเป็นปีแห่งการฉลองโอกาสพิเศษในการครบรอบ 110 ปีของการผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรก ที่แม้จะผ่านเวลามานานมากกว่า 100 ปีแล้ว แต่หน้าปัดกระเบื้องเคลือบลงยาของ LAUREL ก็ยังคงสวยงามโดดเด่นไม่เสื่อมคลาย โดยนาฬิการุ่นล่าสุดนี้ถือเป็นถอดแบบดั้งเดิมออกมาในทุกรายละเอียด แต่คงความล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีการผลิตยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าปัดเทคนิคอีนาเมลสีขาวบริสุทธ์ ที่ถูกรังสรรค์ใหม่อย่างประณีตสวยงามจากผลงานของ Mr. Mitsuru Yokosawa ช่างฝีมือระดับปรมาจารย์และทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่ทุ่มเทกับทุกรายละเอียดเพื่อให้ได้ผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ดังจะเห็นได้ในรายละเอียดของเลข 4 ที่อยู่บนหน้าปัด ที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิม แต่ได้รับการออกแบบและตกแต่งใหม่ ให้มีความสวยอย่างโดดเด่นพร้อมความคมชัด พร้อมการออกแบบข้อต่อตัวเรือน ให้สามารถถอดออกได้จากการผนวกเข้ากับสายหนังกวางเนื้อนุ่มด้านหลัง
ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติรุ่นใหม่คาลิเบอร์ 6R27 อันทรงประสิทธิภาพที่มาพร้อมกับมาตรวัดแสดงระดับพลังสำรองลานที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และมีหน้าปัดย่อยในการแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา พร้อมกระจกแซฟไฟร์ทรงกล่อง และเคลือบสารกันการสะท้อนแสงด้านใน เพื่อมอบความชัดเจนในการมองเห็น รายละเอียดที่อยู่บนหน้าปัดไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ตาม โดยนาฬิกา SEIKO Presage Limited Edition, Ref. SPB359J (SEIKO Watchmaking 110th Anniversary) จะผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดเพียง 2,500 เรือนทั่วโลก โดยจะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 75,000 บาท ซึ่งสามารถดูรายละเอียดของนาฬิกาทั้ง 3 รุ่นได้ที่ Website: https://www.seikowatches.com/global-en/products/5sports/special/ultraseven/index, FB: Seiko Club by Seiko Thailand, IG: Seiko_Thailand, LINE OA: @Seiko_Thailand หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888