SEIKO Prospex Save the Ocean Limited Edition, Ref. SPB333

ประวัติศาสตร์ของนาฬิกา SEIKO เริ่มขึ้นในปี 1881 เมื่อ Kintaro Hattori เปิดร้านในย่านกินซ่า เพื่อซ่อมและจำหน่ายนาฬิกา จนในปี 1913 บริษัทของเขาได้ผลิตนาฬิกาข้อมือเรือนแรกในญี่ปุ่น และตามมาด้วยนวัตกรรมมากมายในเวลาต่อมา ที่ทำให้ศิลปะแห่งการผลิตนาฬิกาของญี่ปุ่นก้าวหน้าขึ้น ซึ่งรวมไปถึงนาฬิกาข้อมือระบบควอท์ซเรือนแรกในปี 1969 และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่างกลไกสปริงไดร์ฟในปี 1999 ดังนั้นในปี 2023 นี้ SEIKO จึงฉลองวาระการครบรอบ 110 ปี ด้วยการเปิดตัวซีรี่ส์นาฬิการุ่นพิเศษต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงนาฬิกาแบบดำน้ำ Prospex รุ่นใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากมรดกทางเทคโนโลยี และการออกแบบอันมีคุณค่ามาอย่างยาวนานของ SEIKO เช่นเดียวกันกับนาฬิกาทั้งหมดในซีรี่ส์อันโด่งดังนี้ ที่มีความโดดเด่นและเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกในปัจจุบัน

 

Screenshot 2566 01 04 at 00.17.54

 

กับหน้าปัดพื้นผิวที่ประณีต อันมาจากการสร้างจากเทคนิคแบบใหม่ ที่รวมพลังของธารน้ำแข็งขั้วโลก ที่สร้างให้เกิดภูมิทัศน์และทิวทัศน์ ในทะเลของแถบอาร์กติกและแอนตาร์กติก ที่ซึ่งชื่อเสียงของ SEIKO ในด้านการแสดงเวลาที่เชื่อถือและทนทาน ได้รับการหล่อหลอมขึ้นตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1960s และ 70s เมื่อนักผจญภัยและนักวิจัย ต่างเลือกสวมนาฬิกาเหล่านี้ในการเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือและใต้ โดยตัวเรือนของนาฬิการุ่นใหม่นี้จะอ้างอิงมาจากนาฬิกาดำน้ำ SEIKO ซีรี่ส์ 6105-8000 จากปี 1968 ซึ่งมีรูปทรงโค้งมนและมีเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา อันเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบนาฬิกา สำหรับนักดำน้ำที่โด่งดังอีกหลายรุ่นตามมา โดยนำเสนอกับสายสตีลแบบ 5 แถว พร้อมชุดล็อคและชุดขยายสาย และยังมีสายเพิ่มเติมอีกหนึ่งชุด ที่สร้างจากวัสดุโพลีเอสเตอร์ของขวดพลาสติกรีไซเคิลทั้งหมด

 

Screenshot 2566 01 04 at 00.05.39

 

สายผ้านี้มีเทคนิคการถักเปียแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่าไซชู (Seichu) ที่มีความแข็งแรงและความทนทานต่อการเสื่อมโทรมที่เกิดจากการสัมผัสกับแสงแดด และยังเป็นไปตามมาตรฐานของนาฬิกาดำน้ำจาก SEIKO ที่เหมาะสำหรับการใช้งานใต้น้ำ พร้อมด้วยรูปแบบการถักอันเป็นเอกลักษณ์ และทำให้สายมีความยืดหยุ่นพร้อมการซึมผ่านของอากาศที่เหมาะสม เพื่อรับประกันถึงความสบายบนข้อมือเมื่อสวมใส่ ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 6R35 ที่ผ่านการทดสอบและเชื่อถือได้ที่ความถี่ 21,600 รอบต่อชั่วโมง ให้พลังสำรองลานนาน 70 ชั่วโมง โดยตัวเรือนและสายสตีลมีการเคลือบแบบแข็งเป็นพิเศษ พร้อมการเคลือบป้องกันแสงสะท้อน ที่พื้นผิวด้านในของกระจกแซฟไฟร์ เพื่อช่วยให้สามารถอ่านค่าเวลาได้อย่างชัดเจนจากทุกมุม ซึ่งมาร์กเกอร์และเข็มนาฬิกาจะผ่านการเคลือบลูมิไบร์ท สำหรับการอ่านค่าในที่มืด

Screenshot 2566 01 04 at 00.06.01

 นาฬิกาในซีรี่ส์ Save the Ocean นี้ แสดงออกถึงพันธกิจของ SEIKO Prospex ในการอนุรักษ์มหาสมุทรของโลกสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปในอนาคต โดยร่วมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ชายฝั่งทั่วโลก และสำหรับนาฬิการุ่นนี้จะเริ่มวางจำหน่ายที่บูติคนาฬิกา SEIKO และตัวแทนจำหน่ายที่คัดเลือกทั่วโลก ตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 เป็นต้นไป โดยผลิตในแบบจำนวนจำกัด 5,000 เรือน และมีราคาจำหน่ายในยุโรปที่ 1,350 ยูโร
Screenshot 2566 01 04 at 00.06.21
 
Screenshot 2566 01 04 at 00.44.58