เจ้าบุญจัง อุ้ม ธีราทร บุญมาทัน กับ SEIKO
อุ้ม "ธีราทร บุญมาทัน" นักเตะทีมชาติไทยที่ชาวญี่ปุ่นให้ฉายาว่า บุญจัง นักฟุตบอลอาชีพชาวไทย ที่ปัจจุบันเล่นฟุตบอลอยู่ในตำแหน่งแบ๊คซ้ายและเป็นกับตันทีมชาติไทย ด้วยผลงานท๊อปฟอร์มในลีกต่างๆ ที่ทำให้อุ้มได้รับอีกหนึ่งฉายาว่า “เท้าซ้ายปีศาจ” จากในวัยเด็กที่อุ้มมีโอกาสได้เล่นฟุตบอลเยาวชนร่วมกับ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลระดับนักเรียนด้วยกันหลายรายการ โดยเส้นทางสายลูกหนังของอุ้มหลังจากจบมัธยมปลายแล้ว ก็เริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพให้กับสโมสรราชประชาในปี 2008 ก่อนที่ต่อมา เขาจะมีโอกาสย้ายไปสร้างชื่อในสโมสรชั้นนำในประเทศไทยอีกมากมาย
ตลอดเส้นทางการค้าแข้งในวงการลูกหนัง อุ้มได้สร้างชื่อให้กับตัวเองและต้นสังกัดอย่างต่อเนื่อง เช่นในปี 2011 ที่เขาสามารถพาทีมคว้าทริปเบิ้ลแชมป์หรือแชมป์ 3 รายการภายในปีเดียว ซึ่งนับเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทยที่ทำได้ และในปี 2013 ที่อุ้มได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของไทยลีกประจำฤดูกาล พร้อมกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในเส้นทางอาชีพในปี 2018 เมื่อเขาถูกยืมตัวไปเล่นในเจลีกของประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลาหนึ่งฤดูกาลกับสโมสรวิสเซลโกเบ ที่ทำให้เขาได้มีโอกาสเล่นกับนักฟุตบอลระดับโลกอย่าง Andrés Iniestaและ Lukas Podolski ที่เคยผ่านการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาแล้ว
และทำให้อุ้มต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อการแย่งตำแหน่งภายในทีม ก่อนที่สุดท้ายเขาจะได้รับโอกาสลงเล่นในลีกไป 28 เกม และสามารถทำได้ 2 แอสซิสต์ จากนั้นในปีถัดมาความท้าทายครั้งใหม่ก็ได้เข้ามาทดสอบอุ้มอีกครั้ง กับต้นสังกัดใหม่อย่างโยโกฮาม่าเอฟมารินอส ยอดทีมจากแดนอาทิตย์อุทัย ด้วยสัญญาการยืมตัว 1 ปี ก่อนที่การตัดสินใจครั้งนี้จะกลายเป็นสิ่งที่เค้าต้องจดจำไปตลอดกาล เมื่อเขาได้สร้างประวัติศาสตร์ กลายเป็นนักเตะไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์เจลีกหรือลีกสูงสุดของญี่ปุ่นได้สำเร็จ ซึ่งช่วงเวลาที่น่าจดจำของอุ้ม เกิดขึ้นในเกมส์นัดสุดท้ายของฤดูกาล ที่เป็นเกมส์ตัดสินแชมป์ของคู่แข่งที่แย่งแชมป์กันโดยตรง
ระหว่างโยโกฮาม่าเอฟมารินอส ทีมต้นสังกัด กับเอฟซีโตเกียวในนาที 26 เมื่อเขาสามารถยิงประตูขึ้นนำแบบสุดสวย ก่อนที่สุดท้ายทีมของเขาจะเอาชนะไปได้ 3-0 และทำให้ทีมสามารถคว้าแชมป์เจลีก 2019 ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ สร้างความประทับใจให้กับชาวเมืองโยโกฮาม่า และแฟนบอลชาวไทยทั้งประเทศ โดยจากผลงานอันสุดยอดของอุ้มในตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ต่างก็เป็นบทพิสูจน์ที่สามารถชี้ชัดได้แล้วว่า นักเตะแข้งทองคนนี้คือแบ็กซ้ายระดับแถวหน้าของเอเชีย และอุ้มจะยังคงไม่หยุดการตามล่าหาความสำเร็จเพียงเท่านี้อย่างแน่นอน เพราะเค้าเชื่อเสมอว่า ความเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดได้เพียงในเสี้ยววินาทีเสมอ
ในครั้งนี้นับเป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของ 2 เรื่องราวความสำเร็จระหว่างนาฬิกา SEIKO Prospex Speedtimer ที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีการพัฒนาต่อยอด มาจากนาฬิกาจับเวลาที่ใช้สำหรับการแข่งขันในกีฬาระดับโลก และอุ้ม-ธีราทร บุญมาทัน กับผลงานอันน่าชื่นชม รวมถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดพัฒนา บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จึงเลือกให้อุ้มมาร่วมเป็นแบรนด์เฟรนด์คนที่ 2 ในปี 2022นี้ กับแคมเปญ Keep Going Forward ต่อจาก อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม แบรนด์เฟรนด์คนแรก โดยอุ้มได้จับคู่กับอีกหนึ่งคอลเลคชั่นหลักของ SEIKO Prospex นั่นก็คือนาฬิการุ่น Speedtimer
ที่ถือเป็นเรือนเวลาที่โดดเด่นด้วยระบบจับเวลาที่สะท้อนแรงบันดาลใจของ “นักสู้ผู้ยิ่งใหญ่” โดยอยู่เคียงข้างกับนักกีฬามาอย่างยาวนาน โดยนาฬิกา SEIKO Prospex Speedtimer ได้ถูกนำกลับมาเปิดตัวอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ทั้งแบบกลไกอัตโนมัติในชื่อรุ่น Speedtimer Mechanical Chronograph และแบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสง Speedtimer Solar Chronograph ที่ถือเป็นการผสมผสานที่ลงตัว ของรูปลักษณ์นาฬิกาแบบจับเวลาเรือนแรกของโลก เข้ากับกลไกโซล่าร์อันล้ำสมัย โดยนาฬิกาจับเวลาพลังงานแสงรุ่นใหม่ทั้ง 3 เรือน จะมาพร้อมกับตัวเรือนที่ถูกออกแบบโดยอ้างอิงนาฬิการุ่นสำคัญในอดีต
โดยนาฬิกาใน Ref. SSC911, SSC913 และ SSC915 จะเริ่มวางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในวันที่ 1 พฤจิกายน 2022 ที่บูติคนาฬิกา SEIKO เซ็นทรัลพระรามเก้า, SEIKO บูติคออนไลน์, เคาท์เตอร์นาฬิกา SEIKO ณ ห้างสรรพสินค้าชั้น และร้านตัวแทนจำหน่ายของ SEIKO ทั่วประเทศ ในราคาจำหน่ายที่ 30,000 บาท โดยสามารถดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซท์https://www.seikowatches.com/global-en/products/prospex/special/speedtimer/index, เฟสบุค SEIKO Club by SEIKO Thailand, อินสตราแกรม Seiko_Thailand และไลน์โอเอ@Seiko_Thailand หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888
