SEIKO Prospex กับมรดกจากการออกแบบด้วยหน้าปัดลวดลายและสีของน้ำแข็ง
ชื่อเสียงของ SEIKO ในด้านนาฬิกาดำน้ำเป็นที่เชื่อถือได้และมีความทนทานสูง โดยนาฬิกาได้ถูกสร้างขึ้นช่วงปี 1960-1970 เมื่อ SEIKO ได้รับเลือกจากนักผจญภัยและนักสำรวจ ในการเดินทางไปทั้งขั้วโลกเหนือและใต้ ณ วันนี้ SEIKO จึงขอแนะนำคอลเลคชั่น Prospex ที่ได้รับการตีความใหม่ให้กับนาฬิกาดำน้ำในตำนานทั้ง 3 เรือน จากแรงบันดาลใจของธารน้ำแข็งที่เหล่าผู้บุกเบิกได้พบเห็น การหล่อหลอมของภูมิทัศน์และท้องทะเลแห่งอาร์คติกและแอนตาร์คติค โดยแต่ละรุ่นมีหน้าปัดที่สะท้อนให้เห็นถึงเฉดสีน้ำแข็งที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่สีน้ำเงินเข้มไปจนถึงสีขาว
จากแรงบันดาลใจของนาฬิกาดำน้ำ SEIKO เรือนแรกที่สร้างขึ้นในปี 1965 สู่พลังอำนาจและความงดงามของธารน้ำแข็งแห่งขั้วโลก ที่ถูกนำเสนออย่างยอดเยี่ยมและสมบูรณ์แบบบนหน้าปัดที่มีลวดลายงดงาม ในโทนสีน้ำเงินเข้มที่รังสรรค์ลงบนนาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของ SEIKO ในปี 1965 ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือจากการถูกเลือกนำมาใช้งาน โดยสมาชิกกลุ่มนักสำรวจแอนตาร์คติคของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1966 ถึง 1969
จนมาถึงการหวนกลับมาอีกครั้งกับนาฬิการุ่นปี 1968 ในสีทูโทนไอซ์บลูพร้อมหน้าปัดสีน้ำเงินอ่อน ตัดกับขอบตัวเรือนสีน้ำเงินเข้มที่ทำให้นาฬิการุ่นที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ จากนาฬิการุ่นดั้งเดิมที่นำเสนอเป็นครั้งแรกในปี 1968 เป็นแลนด์มาร์ค ซึ่งยังคงความเป็นนาฬิกา SEIKO เรือนแรกที่ดำน้ำได้ลึกถึง 300 เมตร และทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติที่ความถี่ระดับ 21,600 รอบต่อชั่วโมง
และสุดท้ายกับการตีความใหม่ของนาฬิกาที่ Naomi Uemura สวมใส่ในปี 1970 พร้อมหน้าปัดสีขาวที่ถูกห่อหุ้มด้วยตัวเรือนรูปทรงโดดเด่นเหมือนกับรุ่นคลาสสิคในปี 1970 ที่ได้รับการพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและทนทาน ที่ได้รับการสวมใส่โดยนักผจญภัยชวยญี่ปุ่นNaomi Uemura ในช่วงปี 1974 ถึง 1976 เมื่อเขาเดินทางด้วยสุนัขลากเลื่อนเพียงลำพังเป็นระยะทาง 12,500 กิโลเมตรจากกรีนแลนด์ไปยังอลาสก้า
นาฬิกาทั้ง 3 รุ่นทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 6R35 ที่ผ่านการทดสอบและเชื่อถือได้ พร้อมพลังสำรองลานที่นานถึง 70 ชั่วโมง กันน้ำที่ระดับ 200 เมตร และนำเสนอคู่กับสายสตีลพร้อมบานพับและชุดล็อค นอกจากนี้ตัวเรือนยังเคลือบซูเปอร์ฮาร์ดโค้ทติ้ง และกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนด้านใน เพื่อให้แน่ใจว่าจะอ่านค่าได้อย่างชัดเจนในทุกมุมมอง นอกจากนี้ยังมีมาร์กเกอร์ทั้ง 12 ที่ผ่านการเคลือบลูมิไบร์ทเช่นเดียวกับเข็มนาฬิกา เพื่อเพิ่มความสามารถในการอ่านค่าขณะอยู่ในที่มืด
SEIKO Prospex Save the Ocean Series, รุ่น 1965 Diver’s Modern Re-interpretation, Ref. SPB297 จะมีขนาดตัวเรือนที่ 40.5 มิลลิเมตร หนา 13.2 มิลลิเมตร ส่วนรุ่น 1968 Diver’s Modern Re-interpretation, Ref. SPB299 จะมีขนาดตัวเรือน 42.7 มิลลิเมตร หนา 13.2 มิลลิเมตร และรุ่น 1970 Diver’s Modern Re-interpretation, Ref. SPB301 จะมีขนาดตัวเรือนที่ 40.5 มิลลิเมตร และหนา 13.2 มิลลิเมตร
โดยนาฬิกาทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้ เป็นหนึ่งในนาฬิกา SEIKO Prospex คอลเลคชั่น Save The Ocean Series โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่าย จะนำไปสนับสนุนด้านการเงินและอีกหลายด้านให้กับองค์กรการกุศลทางทะเล โดยนาฬิกาทั้ง 3 เรือนจะมีจำหน่ายที่บูติคนาฬิกา SEIKO และร้านค้าปลีกบางแห่งทั่วโลกในเดือนมิถุนายน 2022 โดยสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาฬิการุ่นต่างๆ ในโครงการ Save The Ocean ได้ที่: https://www.seikowatches.com/global-en/products/prospex/special/keepgoingforward/savetheocean/
ข้อมูลอื่นๆ โปรดตรวจสอบได้ที่ออนไลน์บูติค: https://www.seikoboutiquethailand.com/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-255-1245 ต่อ 888, เว็บไซท์: https://www.seikowatches.com/th-th/products, เฟสบุค: Seiko Club by Seiko Thailand, ยูทูปแชนแนล: Seiko Club by Seiko Thailand, ไอจี: Seiko_Thailand, ไลน์: @Seiko_Thailand และทวิตเตอร์: @Seiko_Thailand