SEIKO Prospex, The Black Series Limited Edition 2022
การดำน้ำในช่วงเวลากลางคืน เป็นวิถีแห่งความท้าทายไปกับประสบการณ์ใต้ทะเล ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการดำน้ำในตอนกลางวัน ดังนั้นนักดำน้ำหลายคนจึงหลงใหลในโลกแห่งความลึกลับ ของมหาสมุทรในช่วงเวลาที่มืดมิด รวมทั้งทำให้กิจกรรมนี้เป็นที่นิยมสำหรับนักดำน้ำมือระดับอาชีพทั่วโลก ซึ่งวันนี้ SEIKO ขอแนะนำนาฬิการุ่นพิเศษ 4 เรือนที่จะชวนให้ทุกคนไปสัมผัส กับโลกใต้น้ำยามค่ำคืนในมุมมองที่แตกต่าง กับสมาชิกใหม่ของ The Black Series ชุดล่าสุด ที่มีตัวเรือนสีดำสะท้อนถึงความมืดและความเงียบของมหาสมุทรยามค่ำคืน ผสมผสานกับสีส้มที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงไฟที่สาดส่อง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการดำน้ำในยามวิกาล โดยนาฬิกา SEIKO Prospex The Black Series ใหม่จะมีทั้งหมด 4 รุ่น โดย 3 รุ่นเป็นผลงานที่ถูกนำกลับมาตีความใหม่ในไสตล์โมเดิร์น จากนาฬิกาดำน้ำระดับแลนด์มาร์คของ SEIKO ในปี 1965, 1968 และ 1970 กับมุมมองใหม่ในโลกของ The Black Series
ที่มาพร้อมชุดกลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 6R35 พร้อมความสามารถในการสำรองพลังลานได้ยาวนานถึง 70 ชั่วโมง โดยมีหน้าปัดและขอบตัวเรือน พร้อมแถบชุดสีส้มที่ได้แนวคิดจากแสงไฟ ที่ส่องลงมายังใต้ท้องทะเลสำหรับการดำน้ำในยามค่ำคืน ผนวกกับลูมิไบร์ทในมาร์กเกอร์แสดงเวลาชั่วโมงและชุดเข็มนาฬิกา ที่ได้รับการเคลือบเพื่อให้สามารถอ่านค่าได้อย่างชัดเจนแม้ในที่มืดสนิท โดยมาพร้อมสายผ้าที่รวมเทคนิคการถักทอแบบดั้งเดิมจากประเทศญี่ปุ่นที่เรียกว่าเซชู (Seichu) ซึ่งเป็นสายผ้าถักที่มีความแข็งแรงและทนทาน ต่อการเสื่อมสภาพที่เกิดจากการโดนแสงเป็นเวลานาน และเป็นไปตามมาตรฐานสูงสุดของนาฬิกาดำน้ำ SEIKO Prospex มาพร้อมกับสายเพิ่มเติมแบบซิลิโคนสีดำเพิ่ม เพื่อเป็นทางเลือกที่รวมอยู่ในชุดที่มาพร้อมกัน และทำให้สามารถใช้งานและสวมใส่ได้ในหลากหลายกิจกรรมตามความต้องการ
เริ่มตั้งแต่นาฬิกาดำน้ำเรือนแรกของญี่ปุ่นที่เปิดตัวขึ้นในปี 1965 และเป็นนาฬิกาที่ได้รับการพิสูจน์ถึงคุณภาพ พร้อมความน่าเชื่อถือเมื่อนำไปใช้งานจริง ในสภาพแวดล้อมที่แปรปรวนของทวีปแอนตาร์คติกาในช่วง 60s ซึ่งการนำกลับมาสร้างสรรค์ใหม่เพื่อสืบทอดมรดกในเชิงการออกแบบนี้ ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้เป็นไปตามมาตรฐานของ Prospex ในปัจจุบัน โดยนาฬิกาเรือนนี้เหมาะกับการสวมใส่และใช้งานในทุกวัน ด้วยรูปทรงเพรียวบางและตัวเรือนที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ โดยนาฬิกา 1965 Mechanical Diver's Modern Re-interpretation ใน Ref. SPB253J นี้จะผลิตขึ้นในแบบจำนวนจำกัด 5,500 เรือนทั่วโลก พร้อมราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 48,000 บาท
ต่อมาคือนาฬิการุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวขึ้นในปี 1968 ด้วยความสามารถในการกันน้ำได้ 300 เมตรอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติที่ทำงานด้วยความถี่ระดับ 10 บีท ในขณะที่ยังคงดีไซน์เฉียบคมและทรงพลังของรุ่นดั้งเดิมเอาไว้ แต่ให้ความสบายและพอดีกับข้อมือด้วยตัวเรือนที่เล็กลงในขนาด 42 มิลลิเมตร โดยนาฬิกา 1968 Mechanical Diver's Modern Re-interpretation ใน Ref. SPB255J จะผลิตในแบบจำนวนจำกัด 5,500 เรือน พร้อมราคาจำหน่ายที่ 48,000 บาท
และรุ่นต่อมาคือนาฬิกาที่เปิดตัวในปี 1970 กับนาฬิกาดำน้ำที่มีรูปทรงเพรียวบางอันเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ ที่ได้รับการใช้งานโดยนักผจญภัยที่มีชื่อเสียงชาวญี่ปุ่น Naomi Uemura (นาโอมิ อูเอมูระ) ในช่วงระหว่างปี 1974 - 1976 เพื่อใช้ในการเดินทางด้วยสุนัขลากเลื่อนแบบโซโลเป็นระยะทาง 12,500 กิโลเมตรจากกรีนแลนด์สู่อลาสก้า ซึ่งช่วยพิสูจน์ความน่าเชื่อถือของการใช้งานท่ามกลางสภาวะที่หฤโหด โดยยังคงรูปแบบตัวเรือนของรุ่นดั้งเดิมเอาไว้ แต่เพิ่มความสามารถในการกันน้ำจาก 150 เมตรเป็น 200 เมตร พร้อมกระจกที่ได้รับการปรับเปลี่ยนเป็นกระจกแซฟไฟร์เพื่อความเหมาะสมในการใช้งานของยุคปัจจุบัน โดยนาฬิกา 1970 Mechanical Diver's Modern Re-interpretation ใน Ref. SPB257J จะผลิตในแบบจำนวนจำกัด 5,500 เรือน พร้อมราคาจำหน่ายที่ 52,000 บาท
พร้อมความพิเศษไปอีกขั้นกับนาฬิกา 1970 Mechanical Diver's Modern Re-interpretationเรือนพิเศษสุดกับหน้าปัดที่มีลวดลายอันสื่อถึงพื้นทรายใต้ทะเล พร้อมเข็มวินาทีสีส้มเพื่อเพิ่มความละเอียดอ่อน และสะท้อนถึงความเงียบสงัดใต้ท้องทะเลอันมืดมิด ในตัวเรือนและสายนาฬิกาตามแบบนาฬิการุ่นดั้งเดิมที่เปิดตัวในปี 1970 ที่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ ที่โลกมาอย่างยาวนาน จากคุณสมบัติเฉพาะในด้านความทนทานและการออกแบบตัวเรือนที่ลื่นไหล พร้อมส่วนต่อขยายแบบอสมมาตรของบ่าปกป้องเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 4 นาฬิกา พร้อมกระจกแซฟไฟร์โค้งเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนด้านใน ส่วนด้านข้างตัวเรือนได้รับการขัดเงาอย่างประณีต ใช้งานคู่กับสายสตีลดีไซน์ 5 แถวเป็นครั้งแรกของ The Black Series เพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่เฉียบคมและทันสมัย โดยมีสายเพิ่มเติมเพื่อเป็นทางเลือกให้ในชุด กับสายซิลิโคนสีดำเพื่อความสะดวกในการใช้งานในอีกระดับ
ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 8L35 ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับนาฬิกาดำน้ำ จากช่างนาฬิกาที่ชิซูกูอิชิวอทช์สตูดิโอ (Shizukuishi Watch Studio) ที่อยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น โดย SEIKO Prospex, The Black Series Limited Edition ในแบบ 1970 Mechanical Diver's Modern Re-interpretation, Ref. SLA061J นี้จะผลิตในแบบจำนวนจำกัด 1,000 เรือน ในราคาจำหน่ายที่ประเทศไทย 123,000 บาท