SEIKO Prospex Speedtimer, A Split Second Can Change Everything
ปี 2021 นี้ SEIKO นำเสนอนาฬิกาซีรี่ส์ใหม่จากคอลเลคชั่น Speedtimer จำนวน 6 รุ่นที่ได้แรงบันดาลใจจากนาฬิกาจับเวลาดั้งเดิมของแบรนด์ โดยถือเป็นมรดกแห่งกลไกจับเวลาที่ยอดเยี่ยมของ SEIKO ซึ่งเข้าร่วมอยู่ภายใต้คอลเลคชั่นที่แข็งแกร่งอย่าง Propsex โดยแบ่งเป็นสองส่วนได้แก่ Speedtimer Mechanical Chronograph โดยมีไฮไลท์ในรุ่นที่ผลิตแบบโปรดักชั่นปกติ (หน้าปัดสีเทาชาร์โคล) และรุ่นที่ผลิตแบบจำนวนจำกัด (หน้าปัดสีขาว) ที่มาพร้อมกลไกอินเฮ้าส์โครโนกราฟอัตโนมัติระดับสูงชุดใหม่ ที่ถือเป็นการให้ความยกย่องต่อการออกแบบนาฬิกาจับเวลาต้นแบบในปี 1964 อย่างแท้จริง ส่วนอีกรุ่นคือนาฬิกา Speedtimer Solar Chronograph กลไกจับเวลาโครโนกราฟพลังงานแสงอาทิตย์ที่มาพร้อมกันใน 4 หน้าปัด
โดย Speedtimer Mechanical Chronograph แบบหน้าปัดสีเทาชาร์โคล ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟรุ่นแรกของ SEIKO และของญี่ปุ่นนั่นก็คือนาฬิกา Cronwn Chronograph และนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการผลิตนาฬิกาข้อมือระบบโครโนกราฟของ SEIKO ที่มีกลไกจับเวลาซึ่งควบคุมด้วยปุ่มเดียวที่เรียบง่าย แต่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นด้านความแม่นยำอย่างชัดเจน เช่นเดียวกับชุดกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ 6139 ที่มีการใช้ชุดคอลัมน์วีลในการควบคุมฟังก์ชั่นเริ่มต้นจับเวลา หยุด และรีเซ็ต ในลักษณะเดียวกันกับนาฬิกา Speedtimer ในรุ่นใหม่นี้ที่จะมาพร้อมกลไกอินเฮ้าส์โครโนกราฟอัตโนมัติชุดใหม่คาลิเบอร์ 8R46 ที่พัฒนาจากกลไกอินเฮ้าส์โครโนกราฟอัตโนมัติในตระกูล 8R ที่ล้ำสมัยที่สุดของ SEIKO
ซึ่งมีการออกแบบพื้นหน้าปัดที่สะท้อนให้เห็นถึงงานออกแบบของนาฬิกา Crown Chronograph อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีมาร์กเกอร์แบบเอียง เข็มชั่วโมงและนาทีที่คมชัด ทั้งยังมีการเคลือบลูมิไบร์ท นอกจากนี้ปุ่มกดโครโนกราฟและเครื่องหมายบนวงแหวนหน้าปัดด้านนอก ยังสะท้อนถึงการออกแบบของนาฬิการุ่นดั้งเดิมอย่างครบถ้วน พร้อมเข็มวินาทีที่แสดงการจับเวลาโครโนกราฟ จะมีรูปทรงโค้งตามพื้นหน้าปัดที่โค้งนูนเล็กน้อย เพื่อให้ปลายเข็มชี้แสดงอยู่ใกล้กับขีดเครื่องหมายบนพื้นหน้าปัดให้มากที่สุด และยังขยายความยาวให้ถึงสเกลทาคีมิเตอร์หรือมาตรวัดคำนวณความเร็วรอบขอบหน้าปัดด้วย เพื่อทำให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานจะสามารถอ่านค่าการจับเวลาได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว แม้เพียงชำเลืองมองก็ตาม
ในขณะที่อีกจุดเด่นคือปุ่มกดและเม็ดมะยม ที่มีโครงสร้างที่ทำให้มั่นใจถึงการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนาฬิกาาสปอร์ตตระกูล Prospex พร้อมสายนาฬิกาผลิตจากสตีลที่ได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นเป็นเป็นพิเศษสำหรับนาฬิกาในซีรี่ส์นี้ โดยมีความหนา น้ำหนัก และจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ที่ทำให้มั่นใจได้ถึงความมั่นคงและความสะดวกสบายสูงสุดเมื่อสวมใส่บนข้อมือ ทำงานด้วยกลไกชุดใหม่คาลิเบอร์ 8R46 ซึ่งแสดงผลบนหน้าปัดย่อยสองหน้าปัด แทนที่จะเป็นสามหน้าปัด พร้อมกับวางช่องหน้าต่างในตำแหน่ง 6 นาฬิกา และด้วยระบบคลัทช์แนวดิ่งและชุดคอลัมน์วีล ที่ช่วยให้มั่นใจในด้านความแม่นยำและความคงทาน พร้อมชุดเอสเคปเม้นท์มีน้ำหนักเบาและแข็งแรงจากการใช้เทคโนโลยี MEMS ที่ช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับชุดกลไก
ส่วนนาฬิกา Speedtimer Mechanical Chronograph อีกรุ่นที่ผลิตแบบจำนวนจำกัดเพียง 1,000 เรือนทั่วโลก จะมีตัวเลขและขีดเครื่องหมายบนสเกลในทุก 10 วินาทีซึ่งเป็นความโดดเด่นเหนือพื้นหน้าปัดสีขาวล้วน และรับประกันการอ่านค่าที่ชัดเจนในระดับสูง พร้อมปุ่มกดแบบเสริมแท่นด้านบน และเม็ดมะยมที่มีบากหนาขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน เช่นเดียวกับชื่อเสียงอันโด่งดังของนาฬิกาพกจับเวลารุ่นดั้งเดิม โดยฝาหลังจะมีการแกะสลักคำว่า “Limited Edition” และหมายเลขประจำเรือนบนฝาหลังกรุกระจกที่ทำให้สามารถมองเห็นการทำงานของกลไกได้ พร้อมทางเลือกของสายสำหรับผู้สวมใส่ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นสายหนังสีดำที่รวมอยู่ในชุด ที่ผ่านการตัดเย็บและได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มความทนทานในการใช้งาน
1969 Speedtimer
พร้อมกันนี้ยังมีการนำเสนอนาฬิกา Speedtimer Solar Chronograph นาฬิกาโครโนกราฟพลังงานแสงอาทิตย์ 4 รุ่นใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจจากนาฬิกา 1969 Speedtimer ที่ทำงานด้วยกลไกโซล่าร์อินเฮ้าส์คาลิเบอร์ V192 มาพร้อมการแสดงเวลาแบบ 24 ชั่วโมง การแสดงวัน แสดงวินาที การจับเวลา 60 นาทีบนหน้าปัดย่อยที่ 6 นาฬิกาและการแสดงพลังงานสำรอง โดยมีหน้าปัดให้เลือก 4 สีคือ สีขาว สีน้ำเงิน สีทองและสีดำ และจะเข้าร่วมคอลเลกชั่นหลักของ Prospex โดยหน้าปัดได้รับการตกแต่งด้วยเทคนิคพ่นทราย ที่รับประกันได้ถึงความชัดเจนในการอ่านค่าระดับสูง อันเป็นคุณสมบัติหลักของนาฬิกา Prospex ทุกเรือน โดยมีรูปทรงตัวเรือนที่ได้รับการดีไซน์ตามรุ่นดั้งเดิม แต่มีการเพิ่มขนาดตัวเรือนเป็น 39 มิลลิเมตรพร้อมการขัดแต่งแบบแฮร์ไลน์
Ref. SRQ035J (Limited Edition)
Ref. SRQ037J (Normal Production)
นาฬิกา SEIKO Prospex Speedtimer Mechanical Chronograph Ref. SRQ035J (Limited Edition) จะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 122,000 บาท, Ref. SRQ037J (Normal Production) ที่ 120,000 บาท ส่วนนาฬิกา SEIKO Prospex Speedtimer Solar Chronograph, Ref. SSC813P, Ref. SSC815P, Ref. SSC817P และ Ref. SSC819P จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่เรือนละ 27,000 บาท