KING SEIKO, A 1965 classic is re-born
ในประวัติศาสตร์ของ SEIKO นับตั้งแต่นาฬิกา GRAND SEIKO เรือนแรกออกสู่ตลาดในปี 1960 จนถึงนาฬิกากลไกโครโนกราฟอัตโนมัติในปี 1969 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ในด้านคุณภาพของกลไก ที่ต้องมีทั้งทักษะด้านการผลิต และทักษะด้านการพัฒนาควบคู่กันตลอดเวลา
และช่วงเวลานี้นี่เอง ที่เป็นช่วงเวลาที่ KING SEIKO ได้ถูกแนะนำออกสู่ตลาด เพื่อแสดงถึงศักยภาพด้านความแม่นยำในการแสดงเวลา รวมทั้งการออกแบบตัวเรือนที่ทั้งทรงพลังและสง่างาม โดยในปี 2021 KING SEIKO KSK จะถูกผลิตและวางจำหน่ายเพื่อฉลองเหตุการณ์สำคัญนี้อีกครั้ง
KING SEIKO KSK ถูกสร้างขึ้นในปี 1965 ด้วยกลไกไขลาน มีตัวเรือนที่มีความคม และเหลี่ยมมุมที่โดดเด่น ให้ความรู้สึกร่วมสมัย พร้อมทั้งมีพื้นผิวที่เรียบและขอบมุมที่มีหลายเหลี่ยม ลักษณะแบบเพชรที่จะจับแสงจากทุกมุม รวมทั้งทำให้นาฬิกาดูใหม่และโดดเด่นยิ่งขึ้นตลอดเวลา ด้วยความสามารถในการกันน้ำ พร้อมทั้งเข็มวินาทีที่สามารถแฮ็กได้ จึงทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งรวมไปถึงการออกแบบที่โดดเด่น และทำให้ KING SEIKO KSK เป็นนาฬิกาที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาด และเติบโตอย่างรวดเร็วในญี่ปุ่น
ดังนั้นการนำ KING SEIKO KSK จากปี 1965 มาสร้างใหม่ให้มีชีวิตอีกครั้ง จึงต้องคำนึงถึงในทุกรายละเอียด อย่างเช่นการจัดวางหน้าปัดที่แบนราบ กับดัชนีเหลี่ยมเพชร รวมทั้งเข็มนาฬิกาที่กว้างและมีสันคม ที่จะทำให้เกิดความสง่างามตามแบบฉบับดั้งเดิมได้อีกครั้ง มาร์กเกอร์สลักเหลี่ยมเพชรที่คมชัดและโดดเด่น ด้วยความกว้างแบนและมีเหลี่ยมมุมที่คมกริบ ผ่านการขัดเงาแบบซารัทซึ ที่ให้ความเงางามดั่งกระจกเงาที่ปราศจากความผิดเพี้ยนของสิ่งที่ปรากฏ นอกจากนี้ยังมีรูปแบบของมาร์กเกอร์ต่างๆ ที่ยังคงสไตล์คลาสสิคแบบดั้งเดิมอยู่ครบทุกประการ
อย่างเช่นมาร์กเกอร์อันละเอียดบรรจงที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ที่จะมีประกายสว่างไสวตลอดเวลา พร้อมฝาหลังตัวเรือนที่มีตรา KING SEIKO และโล่ห์แบบเดียวกันกับรุ่นดั้งเดิม ใช้งานเข้ากับหัวเข็มขัดที่ปรากฏฟ้อนท์ SEIKO แบบดั้งเดิม และเครื่องหมาย W ที่แสดงถึงการกันน้ำบนเม็ดมะยม ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติแบบบางในคาลิเบอร์ 6L35 ซึ่งแม้จะอิงรูปแบบเกือบทุกประการจากนาฬิการุ่นดั้งเดิม แต่ก็มีการเลือกใช้เทคโนโลยี ฟังก์ชั่น และรูปแบบที่ทันสมัยเพิ่มเติมเข้ามา เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งานในยุคปัจจุบัน อย่างเช่นการเพิ่มหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา
ความถี่ในการทำงานที่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง (8 ครั้งต่อวินาที) ให้พลังสำรองลานที่นาน 45 ชั่วโมง พร้อมความสามารถในการป้องกันสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ 4,800 A / m ใช้งานเข้ากันกับสายหนังจระเข้เนื้อดีสีดำสนิท และหัวเข็มขัดรูปทรงคลาสสิคตามแบบนาฬิการุ่นดั้งเดิม ตัวเรือนโดดยรวมยังคงรูปลักษณ์ที่บางเฉียบ และมีความหนา 11.4 มิลลิเมตร ซึ่งหนากว่ารุ่นดั้งเดิมเพียง 0.5 มิลลิเมตร เนื่องจากความบางของกลไกคาลิเบอร์ 6L35 โดยตัวเรือนจะมีความกว้างกว่าเดิมเล็กน้อยที่ 38.1 มิลลิเมตร และใช้กระจกแซฟไฟร์แบบบ๊อกซ์ พร้อมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนที่พื้นผิวด้านใน
อันจะทำให้เกิดความชัดเจนในการมองจากทุกมุม นอกจากนี้ตัวเรือนยังเพิ่มความทนทานมากขึ้น จากการเคลือบแข็งพิเศษกับพื้นผิววัสดุ ซึ่งจะช่วยปกป้องนาฬิกาจากรอยขีดข่วนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถในการกันน้ำได้ในระดับ 5 บาร์ตามความต้องการในยุคปัจจุบัน
โดย KING SEIKO KSK จะวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม 2021 ในแบบลิมิเต็ดอิดิชั่นจำนวน 3,000 เรือน เฉพาะที่บูติกของ SEIKO และพาร์ทเนอร์บางรายทั่วโลก โดยสำหรับในประเทศไทย จะมีวางจำหน่ายในราคาเรือนละ 118,500 บาท