iamwatch

Twitter

องค์กร Geneva Watchmaking Grand Prix (GPHG – Grand Prix d’horlogere de Geneve) จัดงานฉลองและมอบรางวัลนาฬิกายอดเยี่ยมประจำปี 2012 ซึ่งเป็นครั้งที่ 12 ของการมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ขึ้นเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ณ Grand Theatre de Geneve โดยมีการมอบรางวัลทั้งหมด 7 ประเภทด้วยกัน กับอีก 1 รางวัลชนะเลิศสูงสุดอันทรงเกียรติที่เรียกว่า The Aiguille d’Or Grand Prix (รางวัล The Golden Hand) ซึ่งชนะใจคณะผู้ตัดสิน และอีก 1 รางวัลมหาชน Public Prize ที่มาจากการโหวตเลือกจากผู้เข้าชมนิทรรศการนาฬิกาในกรุงเจนีวาซึ่งจัดแสดงนาฬิกา 70 รุ่นที่ถูกคัดเลือกเข้าสู่การพิจาณารางวัลรวมกับการโหวตผ่านเว็บไซต์ www.gphg.org และ www.worldtempus.com

บรรยากาศด้านหน้า Grand Theatre de Geneve ซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน GPHG

ขั้นตอนการพิจารณาในเบื้องต้นนั้น ทางคณะผู้ตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิจะคัดเลือกนาฬิกาที่น่าสนใจประจำปี 2012 จากหลากหลายแบรนด์เข้าสู่การพิจารณารางวัลต่างๆ จำนวนทั้งหมด 70 รุ่น โดยทั้งหมดนี้ได้ถูกนำไปตระเวณจัดแสดงในหลายประเทศด้วยกันตามธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติมาโดยเริ่มจากที่ Les Ambassadeurs บูติกในซูริกเป็นแห่งแรกก่อนจะบินไปจัดแสดงที่ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ และกลับมาปิดท้ายด้วยการจัดแสดงที่ Cité du Temps ในกรุงเจนีวา ต่อด้วยการประกาศผลและมอบรางวัลในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2012 

ผลรางวัล GPHG ประจำปี 2012 ที่มอบให้กับสุดยอดนาฬิกาในแต่ละประเภท มีดังนี้

Jean-Christophe Babin แห่ง TAG HEUER ขึ้นรับรางวัล Aiguille d’Or ที่มอบให้กับ TAG HEUER Mikrogirder 

ผู้ชนะเลิศสูงสุดในหมู่นาฬิกาทั้งมวล รางวัล The Aiguille d’Or Grand Prix ได้แก่ 

TAG HEUER Mikrogirder

นาฬิกาตัวเรือนสตีล เครื่องอัตโนมัติโครโนกราฟ กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง ความถี่สูงถึง 7,200,000 ครั้งต่อชั่วโมงเพื่อให้แสดงค่าจับเวลาได้ละเอียดถึงระดับ 1/100 และ 5/10,000 ของวินาที จัดอยู่ในคอลเลคชั่น Carrera ผลิตขึ้นเพียงเรือนเดียว 

ประเภทนาฬิกาผู้หญิง (Ladies Watch) ได้แก่ 

CHANEL Flying Tourbillon Premiere 

นาฬิกาตัวเรือนไวท์โกลด์ประดับเพชร เครื่องไขลานพร้อมจักรกลตูร์บิยอง กำลังสำรอง 40 ชั่วโมง ผลิตขึ้นเพียง 20 เรือน

ประเภทนาฬิกาผู้ชาย (Men’s Watch) ได้แก่ 

MB&F Legacy Machine No.1

นาฬิกาตัวเรือนไวท์โกลด์ เครื่องไขลาน กำลังสำรอง 45 ชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มทีแสดงเวลาเป็นชั่วโมงกับนาทีบน 2 หน้าปัดแยกกันแต่ควบคุมโดยบาลานซ์และเอสเคปเม้นท์เดียวกัน โดยมีบาลานซ์ลอยเด่นอยู่เหนือหน้าปัด พร้อมฟังก์ชั่นแสดงกำลังสำรองแนวตั้งอันแปลกใหม่ 

ประเภทนาฬิกานวัตกรรม (Innovation Watch) ได้แก่ 

HYT H1 Titanium Black DLC

นาฬิกาตัวเรือนไทเทเนียมทำดีแอลซีดำ เครื่องไขลาน กำลังสำรอง 65 ชั่วโมง แสดงเวลาแบบเรกูเลเตอร์ แสดงชั่วโมงด้วยของเหลวภายในหลอดสุดแหวกแนวอันเป็นนวัตกรรมใหม่ของวงการ

ประเภทนาฬิกาอัญมณีและงานช่างศิลป์ (Jewellery and Artistic Crafts Watch) ได้แก่ 

CHOPARD Imperiale Tourbillon Full Set

นาฬิกาประดับเพชรเต็มพื้นที่ของตัวเรือนไวท์โกลด์ หน้าปัด และสายโลหะ กลไกไขลาน L.U.C พร้อมจักรกลตูร์บิยอง ให้กำลังสำรอง 216 ชั่วโมง (9วัน) ด้วย กระปุกลานคู่ 4 ชุด ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงโครโนมิเตอร์จาก COSC และมาตรฐาน Poincon de Geneve มีมาตรแสดงกำลังสำรองบนหน้าปัด

ประเภทนาฬิกาคอมพลิเคทยอดเยี่ยม (Best Complicated Watch) ได้แก่ 

GREUBEL FORSEY Invention Piece 2

นาฬิกาตัวเรือนเร้ดโกลด์ เครื่องไขลาน จักรกลตูร์บิยอง 4 ชิ้น กำลังสำรอง 56 ชั่วโมง แสดงนาทีด้วยจานดิสก์ พร้อมมาตรแสดงกำลังสำรอง ผลิตจำนวน 11 เรือน 

ประเภทนาฬิกาสปอร์ต (Sport Watch) ได้แก่ 

HABRING 2 Doppel 2.0

นาฬิกาตัวเรือนสตีล เครื่องไขลานโครโนกราฟแบบสปลิตเซ็กเกินด์ กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง จากผู้ผลิตนาฬิการายเล็กๆ ในออสเตรีย ผลิตจำนวนจำกัด 20 เรือน

ประเภทนาฬิกายอดเยี่ยม รางวัล Petite Aiguille ได้แก่ 

ZENITH Big Date Special

นาฬิกาตัวเรือนสตีล เครื่องอัตโนมัติโครโนกราฟ El Primero ความถี่ 36,000 ครั้งต่อชั่วโมง แสดงวันที่แบบบิ้กเดท กำลังสำรอง 50 ชั่วโมง จากคอลเลคชั่น Pilot 

ประเภทรางวัลมหาชน (Public Prize) ได้แก่ 

MB&F Legacy Machine No.1

By: Viracharn T.