EDOX stands by CHRISTIAN REDL for new world record attempt
Christian Redl นักดำน้ำเอ็กซ์ตรีม เจ้าของสถิติการดำน้ำที่ระดับความลึก 200 ฟีตใต้น้ำแข็ง ตัดสินใจที่จะสร้างบททดสอบครั้งใหม่อีกครั้งเพื่อทะลุขีดจำกัดเดิมของตนให้จงได้ด้วยการเข้าร่วมในโปรเจ็คต์ทางวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเรียกว่าโปรเจ็คต์ Gokyo ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-27 ตุลาคม 2012 นี้
ที่จุดความลึก 203 ฟีต บริเวณทะเลสาบ Gokyo ในประเทศเนปาลนี้ จะอยู่ในระดับอัลติจูดระหว่าง 15,400 กับ 16,900 ฟีต ซึ่งถือเป็นสารบบทะเลสาบที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่สูงที่สุดของโลกใบนี้ ปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็นและหิมะท่ามกลางสายลมแรงทำให้อุณหภูมิของน้ำมีความเย็นยะเยือกและเมื่อบวกกับระดับความสูงลิบของระดับน้ำแล้วช่างท้าทายขีดความสามารถของร่างกายมนุษย์เป็นยิ่งนัก จึงเป็นกิจกรรมท้าความตายของคนเหนือคนโดยแท้
การทำสถิติครั้งใหม่ของเขาจะอยู่ภายใต้การทดลองและการควบคุมโดยนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ ทุกขั้นตอนจะต้องถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี โดยการดำดิ่งครั้งนี้ของเขาจะเป็นการทดสอบและประเมินการเปลี่ยนแปลงของกระแสเลือดของมนุษย์ในระหว่างดำลงสู่ใต้น้ำ ณ ระดับอัลติจูดสูงๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อวงการวิทยาศาสตร์และการแพทย์ต่อไป
เครื่องมือที่เขาจะต้องใช้ในการปฏิบัติการณ์ Gokyo ครั้งนี้ก็คือ นาฬิกาดำน้ำอันแข็งแกร่ง และผู้ที่ให้การสนับสนุนเขาก็ยังคงเป็นแบรนด์ Edox (แอด็อกซ์) เช่นเคย โดยครั้งนี้จะเป็นนาฬิกาดำน้ำรุ่น Iceman II Limited Edition ทรงสวยเปี่ยมสมรรถนะทางเทคนิครุ่นที่เห็นอยู่นี้
แล้วมารอผลกันครับว่า เขาจะทำสำเร็จหรือไม่ และนาฬิกา EDOX บนข้อมือของเขาจะอยู่รอดปลอดภัยมั้ย หลังเสร็จสิ้นภารกิจในเดือนตุลาคมก็จะได้ทราบกันครับ
ข้อมูลทางเทคนิคของ EDOX Iceman II Limited Edition
จำนวนการผลิต: 203 เรือน (มาจากระดับความลึก 203 ฟีต ของทะเลสาบ Gokyo)
ตัวเรือน: สเตนเลสสตีลขนาด 45 มิลลิเมตร เคลือบพีวีดีดำ ขอบตัวเรือนทำจากเซรามิกดำ มาร์กเกอร์บนขอบตัวเรือนใช้สัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีแดง กันน้ำลึกได้ในระดับ 1,000 เมตร กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารกันแสงสะท้อน เม็ดมะยมและปุ่มกดอยู่ทางด้านซ้ายของตัวเรือน
เครื่อง: โครโนกราฟ Calibre Edox 103 ปรับปรุงจากพื้นฐานของ Ronda 5021.D
หน้าปัด: พื้นหน้าปัดสีดำ หลักชั่วโมงสีดำขอบแดง หน้าปัดย่อย 2 วง บอกนาทีจับเวลาและวินาที มีหน้าต่างบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
สาย: ยางสีดำ บัคเกิ้ลสเตนเลสสตีล
พร้อมจำหน่ายทั่วโลก: ปลายปี 2012
By: Viracharn T.