Albatross, L’EPEE 1839 × MB&F

หลังจากใช้เวลากว่า 10 ปีกับนาฬิกา 15 เรือนที่มีความแตกต่างกันไป L’EPÉE 1839 X MB&F Albatross ก็ถือเป็นผลงานการร่วมสร้างสรรค์ ที่กล้าหาญทางเทคนิคมากที่สุดของทั้งสองบริษัท ด้วยส่วนประกอบทั้งหมดถึง 1,520 ชิ้นทำให้ Albatross สามารถแสดงฟังก์ชั่นชั่วโมงอันโดดเด่น โดยจะส่งเสียงแสดงเวลาชั่วโมงนั้นๆ และการส่งเสียงเพียงหนึ่งเคาะในทุกครึ่งชั่วโมง พร้อมฟังก์ชั่นการแสดงแบบออโตเมตอน ที่ประกอบไปด้วยใบพัดถึง 16 คู่ที่จะเริ่มทำงานในทุกๆ ชั่วโมง

 

MBandF Epee 1839 Albatross clock 3

 

Albatross เป็นผลงานของดีไซเนอร์ Eric Mayer โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือเหาะ “Albatross” ในนวนิยายเรื่อง Robur the Conqueror ของ Jules Verne ผนวกเข้ากับแรงบันดาลใจจากจรวด และบอลลูนลมร้อนที่จินตนาการขึ้น โดยนักเขียนชาวฝรั่งเศสผู้หลงใหลในวัตถุแห่งการบินอีกด้วย โดยมีน้ำหนัก 17 กิโลกรัม พร้อมขนาดความยาว 60 สูง 60 และกว้าง 35 เซ็นติเมตร โดยยานเหาะนี้จะเริ่มทำงานเมื่อนาฬิกาแสดงเวลา และเตรียมบินขึ้นด้วยใบพัดที่หมุนวนประมาณ 7 วินาที

 

MBandF Epee 1839 Albatross clock 7

 

โดยภายในยานเหาะจะใช้กลไกจำนวนสองชุด พร้อมระบบแสดงออโตเมตอนสองแบบ ซึ่งชุดหนึ่งจะให้พลังลานในการแสดงเวลาด้วยตลับลานสองชุด ในขณะที่อีกชุดหนึ่งจะใช้พลังลานไปกับการหมุนใบพัด และจะขึ้นลานด้วยมือทางใบพัดที่อยู่ด้านหน้าของยานเหาะ จากการหมุนตามเข็มนาฬิกาสำหรับการขึ้นลานชุดแสดงเสียง และหมุนทวนเข็มนาฬิกาสำหรับการแสดงค่าเวลา ส่วนใบพัดที่อยู่ทางด้านหลังจะใช้ขึ้นลานระบบออโตเมตอนของยานเหาะนี้

 

MBandF Epee 1839 Albatross clock 6

 

กับตัวโครงสร้างที่ผลิตขึ้นจากบราส สตีล และอลูมิเนียม ที่นำมาผสมผสานกัน พร้อมการลงสีด้วยแลคเกอร์เย็นโปร่งแสง ในโทนสีน้ำเงิน สีแดง สีเขียว สีแชมเปญ หรือสีดำ แสดงฟังก์ชั่นเวลาชั่วโมงและนาที ที่แสดงบนแผ่นดิสก์แบบหมุนในแต่ละแผ่น โดดเด่นด้วยการตีระฆังในชั่วโมงที่ต้องการ หรือเคาะครั้งเดียวในทุกครึ่งชั่วโมง ผนวกเข้ากับระบบออโตมาตันที่ประกอบไปด้วยใบพัด 16 คู่ที่จะเริ่มทำงานในทุกๆ ชั่วโมง โดยสามารถเปิดใช้งาน/ปิดใช้งานฟังก์ชั่นการเคาะระฆังและใบพัดได้

 

LuxExpose MBF Albatross 9

 

ส่วนปุ่ม “ตามต้องการ” สองปุ่มใช้เพื่อเคาะระฆังตามต้องการ และ/หรือหมุนใบพัดแยกกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ทำงานด้วยกลไกไขลานที่แยกกัน 2 ระบบ ออกแบบและผลิตโดย L’EPÉE1839 โดยชุดหนึ่งสำหรับการแสดงเวลาและการเคาะระฆัง ส่วนอีกชุดสำหรับระบบออโตเมตอน ซึ่งโครงสร้างทั้งหมดจะผสมผสานกัน ระหว่างการขัดแต่งลายซาตินและการขัดเงา ในส่วนประกอบและชิ้นส่วนทั้งหมดรวม 1,520 ชิ้น ในสัดส่วนขนาดยาว 600 มิลลิเมตร กว้าง 350 มิลลิเมตร และสูง 600 มิลลิเมตร กับน้ำหนักรวม 17 กิโลกรัม

 

MBandF Epee 1839 Albatross clock 2

 

จาก “เด็กที่โตแล้ว” แต่ยังคงทำงานเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ ที่ยังจำได้ดีว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรในวัยเด็ก ดังนั้นพวกเขาจึงได้รวมระบบการป้องกันความผิดพลาดไว้ด้วย เพื่อว่าการควบคุมใบพัดโดยไม่ได้รับอนุญาตจะไม่ทำให้สิ่งใดเสียหาย นอกจากนี้ยังได้สร้างห้องนักบิน ขนาดเล็กพร้อมด้วยแผงหน้าปัด ด้านหลังช่องหน้าต่างสำหรับเด็กโตผู้อยากรู้อยากเห็น จากในตอนแรกที่ไม่มีแผนสำหรับแผงหน้าปัด แต่ทันทีที่มีการพูดคุยถึงแนวคิดเรื่ององค์ประกอบที่มองเห็นได้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะเพิ่มรายละเอียดที่เป็นความลับเหล่านี้ไป

MBandF Epee 1839 Albatross clock 5

ซึ่งผลงานของ Jules Verne ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับการสร้างสรรค์ชิ้นงานของ MB&F หลายครั้งแล้ว รวมถึงคอลเลกชั่น Legacy Machines และโดยเฉพาะอย่างยิ่งซีรีส์ยูนีคพีซ ที่มีพื้นฐานมาจาก LM Split Escapement พร้อมการแกะสลักโดยปรมาจารย์ Eddy Jaquet ดังนั้น L’EPÉE 1839 ผู้ผลิตนาฬิกาคล็อคที่มีชื่อเสียงมาเป็นเวลากว่า 185 ปี และปัจจุบันเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวในสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตนาฬิกาคล็อคระดับไฮเอนด์ จากก่อตั้งขึ้นในปี 1839

 

MBandF Epee 1839 Albatross clock 4

จึงรับหน้าที่เป็นผู้ผลิตชิ้นงานพิเศษชิ้นนี้อีกครั้ง โดยปัจจุบัน L’EPÉE 1839 มีโรงงานอยู่ในเทือกเขาจูร่าของสวิตเซอร์แลนด์ ภายใต้การดูแลของซีอีโอ Mr. Arnaud Nicolas ซึ่งยังคงรักษาความรู้และความชำนาญอันน่าทึ่งนี้เหล่านี้ ในการสร้างสรรค์งานประติมากรรมบอกเวลา อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งผลิตขึ้นเองทั้งหมด โดยการันตีได้จากรางวัลมากมายที่ได้รับ อย่างเช่นในปี 2023 ที่ L'EPÉE 1839 ได้รับรางวัล "นาฬิกาเครื่องกล" จากการประกาศรางวัล Grand Prix de L'Horlogerie de Genève (GPHG) จากนาฬิกาคล็อครุ่น Time Fast II

 

MaxBusser ArnaudNicolas HRES CMYK