Watches and Wonders Geneva 2022, Part II
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในความสำเร็จด้านการจัดเตรียมงานการแสดงนาฬิกาที่สำคัญนี้ และในสภาวะด้านสุขภาพที่ยากลำบากและของผู้คนทั้งโลก หลังจากสองปีของการระบาดใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องทำงานผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล 100% ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งสำคัญสำหรับ Watches and Wonders คือการรวบรวมแบรนด์จัดแสดงหลักในอุตสาหกรรมของเรากันอีกครั้ง โดยมีแนวคิดตรงกันว่านี่คือสัญลักษณ์ของยุคใหม่ ที่จะนำให้พวกเราไปสู่อนาคตได้อย่างแท้จริง ซึ่งผมอยากขอบคุณผู้คน หุ้นส่วน และผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด รวมไปถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของทุกฝ่าย เพื่อให้แน่ใจว่า Watches and Wonders Geneva จะเป็นงานแสดงนาฬิกาที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” Emmanuel Perrin ประธานมูลนิธิ Fondation de la Haute Horlogerie
กับนาฬิการุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น หลังจากเปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมากับ PARMIGIANI Fluerier Tonda PF สู่การต่อยอดถึงนาฬิการุ่นใหม่ในปีนี้ในฟังก์ชั่นจีเอ็มที ที่มีรูปแบบการกดเพื่อใช้งานอย่างสะดวกสบาย พร้อมยังคงสไตล์เรียบหรูของนาฬิการุ่นนี้ไว้ได้อย่างครบถ้วน และที่สำคัญที่สุดคือความบางของตัวเรือนที่ยังคงเป็นอีกหนึ่ง ในความพิเศษของนาฬิกาจากคอลเลคชั่นนี้เช่นเดิม
ULYSSE NARDIN ปีนี้เปิดตัวนาฬิกา 3 เรือน 3 สไตล์ทั้งรุ่น Freak X Aventurine ที่มาพร้อมหน้าปัดหินอเวนจูรีนอันโดดเด่นเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยนาฬิการุ่น Freak S ที่ต่อยอดมาจากนาฬิการุ่น Freak Vision ในปี 2018 รวมทั้งนาฬิกาอันโดดเด่นจากผลงานการออกแบบในอดีตของ Dr. Ludwig Oechslin กับนาฬิการุ่น Moonstruk ที่ผ่านการปรับปรุงและกลายเป็นนาฬิกา 1 ใน 3 เรือนที่มีการนำเสนอในปีนี้
Square Bang ถือเป็นนาฬิกาในคอลเลคชั่นล่าสุดจาก HUBLOT ที่มีรูปทรงอันแตกต่างไปจากคอลเลคชั่นอื่นๆ โดยนำเสนอในครั้งแรกปีนี้กับรูปแบบวัสดุต่างๆ พร้อมจำนวนการผลิตแบบจำกัด เสริมด้วยนาฬิการุ่น Big Bang Integral Ceramic สีสันสดใสหลากหลาย พร้อมความโดดเด่นของสายที่ผนึกเข้ากับตัวเรือนในวัสดุและสีสันเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีนาฬิการุ่น Spirit of Big Bang ตัวเรือนเซรามิคสีสันต่างๆ และตัวเรือนแบบแซฟไฟร์ที่นำเสนอพร้อมกัน รวมไปถึงนาฬิการุ่น Orlinski รุ่นใหม่กับตัวเรือนสีเงินมันเงาแวววาว
CARTIER ใหม่กับนาฬิการุ่น Santos พร้อมขอบตัวเรือนสีน้ำเงินแบบแปลกตา กับร่องขีดที่รับกันกับหน้าปัดและชุดสายได้ดี นอกจากนี้ยังมีนาฬิการุ่น Pasha ใหม่ที่เพิ่มลูกเล่นเป็นกริดบนหน้าปัด ที่สามารถถอดเข้าออกได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับนาฬิการุ่น Pasha ที่มีชุดแสดงมูนเฟสที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกาที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความคอมพลิเคทมากขึ้น เช่นเดียวกันกับนาฬิการุ่น Tank Chinoise ที่อยู่ในกลุ่มนาฬิกา The CARTIER Privé Collection กับรูปแบบกึ่งสเกเลตันที่แสดงให้เห็นกลไกภายในของนาฬิกา
การปรับปรุงนาฬิกาสปอร์ตรุ่น H08 ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจาก HERMES โดยนำเสนอในแบบตัวเรือนพีวีดีสีดำที่นำเสนอมาก่อนหน้านี้ โดยในปีนี้ยังต่อยอดด้วยตัวเรือนแบบพีวีดีสีน้ำเงินพร้อมสายผ้าถัก โดยมีไฮไลท์สำคัญที่นาฬิกาฟังก์ชั่นเวริล์ดไทม์ใหม่ล่าสุด ที่โดดเด่นด้วยหน้าปัดแสดงเวลาขนาดเล็กที่จะเดินและชี้ตามตำแหน่งชื่อเมืองต่างๆ รอบหน้าปัด พร้อมทางเลือกในสองขนาดตัวเรือน นอกจากนี้ยังมีนาฬิการุ่น Kelly ใหม่ล่าสุดที่มีการพัฒนาชุดล็อคและสายแบบสตีล ให้เหมาะสมกับการใช้งานยิ่งขึ้น
CHOPARD กับนาฬิการุ่นใหม่หลากหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นแบบไฮจิวเวลรี่ที่นำลิควิดชนิดพิเศษบรรจุลงบนหน้าปัด ที่ช่วยทำให้บรรดาชิ้นงานต่างๆ ที่ประดับเพชร สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างลื่นไหลกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมีนาฬิการุ่น Happy Sport อันโด่งดังกับฟังก์ชั่นโครโนกราฟพร้อมกลไกอินเฮ้าส์ ที่ได้รับการรับรองระดับความเที่ยงตรงโครโนมิเตอร์ รวมไปถึงนาฬิการุ่น Alpine Eagle Chronograph ใหม่ และนาฬิการุ่น Alpine Eagle Tourbillion ที่มีขนาดบางเฉียบให้ทั้งความเป็นนาฬิกาสปอร์ตและลุคเรียบหรูครบถ้วนในเรือนเดียว
CZAPEK&CIE. นำเสนอนาฬิกาในรูปแบบสเกเลตันกับ Antarctique Rattrapante ภายใต้โทนสีไอซ์บลู พร้อมกันกับนาฬิการุ่น Faubourg de Cracovie ในโทนสีใหม่ เพอร์เพิลแพนด้า และ Anmtarctique Frozen Star S กับหน้าปัดวัสดุพิเศษอันล้ำค่าดั่งเพชรน้ำงาม รวมทั้ง Antarctique Passage de Drake กับขนาดใหม่ที่ 38.5 มิลลิเมตรที่ยังคงความเป็นนาฬิกาตามสไตล์ของแบรนด์ได้อย่างครบถ้วน
SPEAKE-MARIN เปิดตัวนาฬิกาสปอร์ตของตัวเองเป็นครั้งแรกอย่างเต็มรูปแบบในชื่อ Ripples โดยมีครบถ้วนทั้งตัวเรือนแบบกึ่งกลมและกึ่งหกเหลี่ยม พร้อมหน้าปัดลายลอนลายคลื่นหนา และชุดวงวินาที ณ ตำแหน่งระหว่าง 1 และ อันเป็นอีกหนึ่งในเอกลักษณ์ของแบรนด์ ผนวกด้วยสายแบบอินทริเกรดเข้ากับตัวเรือนที่ผลิตจากสตีล ที่ร่วมกันทำให้นาฬิกาเรือนนี้ดูแปลกตาไปจากคอลเลคชั่นอื่นของแบรนด์
ปีนี้ TAG Heuer มีการเปิดตัวนาฬิกาหลากหลายรุ่น เริ่มจาก Aquaracer Professional 300 Orange Diver พร้อมสีส้มอันโดดเด่น, Monaco Gluf Special Edition ที่มีการใช้กลไกอินเฮ้าส์กับนาฬิกาในรุ่นนี้เป็นครั้งแรก, Carrera x PORSCHE Limited Edition ใหม่, Aquaracer Professional 1000 Superdiver กับความเป็นนาฬิกาดำน้ำลึกระดับ 1,000 เมตร, Aquaracer Professional 200 Solargraph กับกลไกโซลาร์ครั้งแรกของแบรนด์ และสุดท้ายกับ Carrera Plasma Tourbillon Nanograph กับเทคนิคการประดับและใช้เพชรที่ผลิตขึ้นจากแล็บ
พาวิลเลี่ยนของ TUDOR ยังคงเต็มไปด้วยผู้คนเสมอ พร้อมนาฬิการุ่นไฮไลท์ของงานนั่นก็คือ Black Bay Pro ที่มีทั้งขนาดและลุคแบบวินเทจอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังมี Black Bay GMT S&G ใหม่ และ Black Bay Chrono หน้าปัดและขอบเบเซิลสีสันใหม่ รวมทั้ง Black Bay S&G 31/36/39/41 ที่เป็นหมายเลขตามขนาดตัวเรือนที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย และโดดเด่นด้วยโกลด์แค็ป พร้อมราคาค่าตัวที่เหมาะกับตลาด รวมทั้งนาฬิการุ่น Royal ที่มีการปรับรูปแบบตัวเรือนและขาสายให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น
ZENITH นำเสนอการต่อยอดของนาฬิกาในคอลเลคชั่น Chronomaster Sport ด้วยวัสดุตัวเรือนแบบทองคำและแบบทูโทน พร้อมหน้าปัดสีสันใหม่ รวมทั้ง Chronomaster Open ด้วยเช่นกัน ในขณะที่นาฬิการุ่น Defy ก็มีการนำเสนอในรูปแบบวัสดุตัวเรือนพิเศษมากมายรวมทั้งแซฟไฟร์ด้วย โดยมี Defy Skyline ที่มีการเพิ่มเติมสีสันของหน้าปัดให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับปีนี้ โดยเฉพาะนาฬิกาขนาดตัวเรือนสำหรับสุภาพสตรีที่มีสีสันงดงามพร้อมการประดับเพชรบนหน้าปัดและขอบตัวเรือน