GLASHUTTE ORIGINAL Sixties and Sixties Chronograph, edition of 2020
นับตั้งแต่ปี 2018 นาฬิการุ่น Sixties จะนำเสนอนาฬิกาในสีหน้าปัดใหม่เป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้สีฟ้าธารน้ำแข็งทำให้ Sixties ใหม่นี้มีลักษณะของหน้าปัดที่ลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงเท่านั้น ในปีนี้ยังเสนอพร้อมกันกับนาฬิการุ่น Sixties Chronograph ใหม่ กับหน้าปัดสีเดียวกันเป็นครั้งแรกสำหรับรุ่นประจำปี
การมองทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ และธารน้ำแข็งอันสง่างาม ถือเป็นเสน่ห์อันตรึงตรา ที่มีพร้อมทั้งความสงบและความแข็งแกร่ง โดยมีสีสันของธรรมชาติที่ช่างนาฬิกาของ GLASHÜTTE ORIGINAL นำมาใช้กับหน้าปัดที่สื่อถึงความทรงพลัง พร้อมลุคเท่ห์ ในมาดของนาฬิการูปแบบคลาสสิคสไตล์แซ็กซอน
โดยมีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของการออกแบบในยุค 60s นั่นก็คือกระจกแซฟไฟร์ทรงโค้ง พร้อมตัวเลขอาร์บิคที่เป็นเอกลักษณ์ ที่เผยให้เห็นเสน่ห์ของนาฬิกาเรือนนี้ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับสีหน้าปัดใหม่นี้ โดยมีการนำเสนอในนาฬิการุ่น Sixties Chronograph พร้อมกันอีกด้วย
เทคนิคพิเศษที่ใช้สำหรับผลิตหน้าปัดนี้ จะทำโดย GLASHÜTTE ORIGINAL เองในโรงงานของตัวเอง เน้นให้เห็นถึงลวดลายเส้นเล็กๆ มากมายบนหน้าปัดที่เคลือบนิคเกิลกัลป์วานิค และเพื่อให้ได้เอฟฟ็กซ์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น จึงต้องมีขั้นตอนการพ่นสีด้วยแลกเกอร์อีกชั้น เพื่อให้เกิดสีสันบริเวณขอบที่เข้มกว่า
ซึ่งงานสร้างด้วยมือเช่นนี้ จะทำให้หน้าปัดแต่ละชิ้น มีสีสันในโทนที่แตกต่างกันไป ไม่ซ้ำกันในแต่ละชิ้นงาน ในขณะที่ยังคงเทคนิคการใช้สารเรืองแสง ซุปเปอร์-ลูมิโนว่า ในหลักชั่วโมงหมายเลขอาร์บิค เพื่อความสะดวกของการใช้งานในชีวิตประจำวัน
Sixties ใหม่ ตัวเรือนผลิตจากสตีลขนาด 39 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 39-52 ในขณะที่รุ่น Sixties Chronograph ใหม่ จะมีตัวเรือนผลิตจากสตีลเช่นกัน แต่มีขนาดตัวเรือนที่ 42 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 39-34 โดยทั้งสองรุ่นจะมีพลังสำรองลานนาน 40 ชั่วโมง
ที่สำคัญคือนาฬิกาทั้งสองรุ่นจะมีกระจกแซฟไฟร์ด้านหลัง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสวยงาม และความประณีตของกลไกแบบธรีควอเตอร์เพลท พร้อมชุดปรับบาลานซ์วีลแบบสวอนเนคอันโด่งดังตามสไตล์ของ GLASHÜTTE ORIGINAL และโรเตอร์แบบโปร่งที่ผลิตจากทองคำ
Sixties และ Sixties Chronograph ใหม่ จะมาพร้อมสายหนังวัวสีน้ำตาลเทา ที่ใช้การเย็บเดินเส้นตลอดเส้น พร้อมบัคเกิลแบบหัวเข็มขัด โดยนาฬิกาทั้งสองรุ่นประจำปีนี้ จะเป็นการผลิตแบบจำนวนจำกัดเช่นเคย และจะมีจำหน่ายเฉพาะในบูติคนาฬิกาของ GLASHÜTTE ORIGINAL ทั่วโลกเท่านั้น