14 years of Journey from Maximilian Büsser and Friends
ปี 2019 นี้ นับเป็นเวลาเกือบ 14 ปีแล้วที่แบรนด์นาฬิกาอิสระ เจ้าของผลงานเรือนเวลาสุดสร้างสรรค์ระดับแถวหน้าอย่าง MB&F ที่เริ่มเปิดตัวครั้งแรกจากแนวคิดแหวกแนวเป็นแบรนด์แรกของโลก ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ในการสร้างเรือนเวลาที่แตกต่างออกสู่อุตสาหกรรมนาฬิกา ที่ในวันนี้ MB&F ยังคงเดินหน้าและเจริญรอยตามวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ Maximilian Büsser ในการสร้างสรรค์ศิลปะแห่งจักรกลแบบ 3 มิติอย่างต่อเนื่อง โดยทลายขนบธรรมเนียมดั้งเดิมของการประดิษฐ์เรือนเวลาไป และสร้างสรรค์ขึ้นใหม่อย่างมีสไตล์เป็นของตัวเอง โดยยืนยันได้จากความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลงานการพัฒนากลไกที่มากถึง 16 คาลิเบอร์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา
หัวใจและรากฐานอันมั่นคงของเครื่องบอกเวลาทั้ง Horological Machine (HM) เครื่องบอกเวลาที่มีรูปลักษณ์และกลไก ที่ได้แรงบันดาลใจจากยวดยานพาหนะ ที่ล้ำหน้าเหนือจินตนาการในช่วงเวลาทั้งในอดีตและอนาคต และ Legacy Machine (LM) ผลงานจากการจินตนาการหน้าตาของเรือนเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ของ MB&F ตามแบบฉบับที่หากสามารถย้อนเวลากลับไปและสร้างสรรค์ขึ้นมาได้ ทั้งหมดหลายต่อหลายรุ่น จนมาถึงในปีนี้ที่ MB&F ก้าวข้ามสู่พรมแดนใหม่ในการสร้างสรรค์ผลงาน กับการเปิดตัว LM FlyingT ผลงานสร้างสรรค์ของเครื่องจักรกล MB&F รุ่นแรกที่อุทิศให้กับสุภาพสตรี พร้อมรางวัลจาก GPHG ที่ได้รับในสาขานาฬิกายอดเยี่ยมสำหรับสุภาพสตรี
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า MB&F คือการรวมตัวกันของบุคลากรผู้มากด้วยพรสวรรค์ ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ ทั้งในเชิงศิลปะและวิศวกรรมไมโครเอ็นจิเนียริ่ง ไม่ว่าจะเป็น วิศวกร ช่างศิลปะ ช่างนาฬิกา โดยต่างมีความเป็นมืออาชีพในแต่ละสาขา แต่สามารถร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานบนพื้นฐานของการให้ความเคารพนับถือซึ่งกันและกันเฉกเช่นคำว่า “เพื่อน” (Friends) ที่ผนึกอยู่ในชื่อของแบรนด์ Maximilian Büsser and Friends ที่คนทั่วโลกต่างยอมรับว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาแนวอิสระหมายเลข 1 ของวงการในปัจจุบัน ซึ่งมีจุดศูนย์รวมของที่ Maximilian Büsser ผู้ก่อตั้งและสร้างแนวคิดดังกล่าวให้เกิดขึ้นในโลกของเครื่องบอกเวลา
นอกจากนี้ MB&F ยังสร้างสรรค์ผลงานอีกสองประเภทได้แก่ Performance Art เครื่องจักรกลอันเปี่ยมด้วยสมรรถนะของ MB&F ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ด้วยความร่วมมือ ของเหล่านักประดิษฐ์ผู้เปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์จากแหล่งผลิตต่างๆ และ Co-creations ผลงานประเภทอื่นๆ ของเครื่องจักรกล ที่ไม่ใช่นาฬิกาข้อมือ แต่ผ่านการพัฒนาด้านวิศวกรรมและประดิษฐ์ขึ้น โดยผู้ผลิตจากสวิตเซอร์แลนด์ชื่อดัง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากแนวคิดและงานออกแบบของ MB&F อาทิ เครื่องบอกเวลาในรูปแบบนาฬิกาคล็อค ที่สร้างสรรค์ขึ้นร่วมกับ L’Epée 1839 แบรนด์ผู้ผลิตนาฬิกาตั้งโต๊ะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก
ในช่วงที่ผ่านมา Maximilian Büsser ยังได้ก่อตั้ง M.A.D. Gallery แกลลอรี่ที่มีแนวคิด และรูปแบบเฉพาะตัว เพื่อเป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานแต่ละชิ้นที่ MB&F ช่วยพัฒนาขึ้น ร่วมกับอีกหลากหลายรูปแบบของศิลปะแห่งจักรกล ที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยศิลปินอื่นๆ ที่ในปัจจุบันมีรวมกันกว่า 1,000 ชิ้น โดยคำว่า M.A.D. ในสไตล์ของ MB&F จะหมายถึงอุปกรณ์ศิลปะจักรกล (Mechanical Art Devices) ที่มีความแหวกแนว และเปิดกว้างสำหรับงานสร้างสรรค์ทุกชนิด โดยเปิดตัวแกลลอรี่แห่งแรกในเจนีวา และตามมาด้วย M.A.D. Gallery ในประเทศต่างๆ หลายแห่งในโลกทั้ง ไทเป ดูไบ และล่าสุดที่ฮ่องกง
และสำหรับผลงานด้านต่างๆ MB&F ยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติและโดดเด่นอยู่มากมาย ตั้งแต่รางวัลจาก GPHG (Grand Prix d'Horlogerie de Genève) ในปี 2016 ที่นาฬิการุ่น LM Perpetual ได้รับรางวัลสาขานาฬิกาแสดงปฏิทินยอดเยี่ยม (Best Calendar Watch), ปี 2012 จาก Legacy Machine No.1 ที่ได้รับทั้งรางวัลขวัญใจมหาชน (Public Prize) (โหวตโดยแฟนๆ ที่ชื่นชอบเครื่องบอกเวลา) และนาฬิกายอดเยี่ยมสำหรับสุภาพบุรุษ (Best Men's Watch Prize) (โหวตโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพ) และในปี 2010 กับรางวัลนาฬิกายอดเยี่ยมด้านคอนเซ็ปท์ (Best Concept Watch) และนาฬิกายอดเยี่ยมด้านการออกแบบ (Best Design Watch) จากนาฬิการุ่น HM4 Thunderbolt รวมทั้งล่าสุดนี้กับ LM FlyingT ในสาขานาฬิกายอดเยี่ยมสำหรับสุภาพสตรี
โดยสำหรับเวทีอื่นๆ ที่ผ่านมา ในปี 2015 MB&F ยังได้รับรางวัล Red Dot: Best of the Best ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่สูงสุดบนเวทีประกาศผลงานระดับโลก Red Dot Awards จากผลงานรุ่น HM6 Space Pirate ที่ยืนยันถึงความพิเศษจาก MB&F ว่าไม่ใช่แค่เพียงชนะใจคนผู้คลั่งไคล้เรือนเวลาเท่านั้น แต่ยังสามารถครองใจผู้รักงานออกแบบในแขนงต่างๆ ทั่วทั้งโลกอีกด้วย