นาฬิกาที่ปิดราคาประมูลสูงสุด 10 อันดับแรก จากงานประมูลนาฬิกา ONLY WATCH 2017
งานประมูลนาฬิการายการสำคัญของโลก ONLY WATCH ประจำปี 2017 ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2017 ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีสถาบันการประมูลชื่อดัง Christie’s เป็นผู้ดำเนินการประมูลนาฬิกา ‘ยูนีกพีซ’ ที่แบรนด์นาฬิกาต่างๆ ร่วมสร้างนาฬิกาเรือนพิเศษขึ้นมาในแบบเรือนเดียวในโลก เพื่อนำเข้าร่วมในงานประมูลนาฬิกาการกุศล ONLY WATCH ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อนำรายได้ไปสนับสนุนการวิจัยเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้อเจริญผิดเพี้ยน ดูเชนน์ ของ Monaco Association against Duchenne Muscular Dystrophy โดยในปีนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 7 ของการจัดการประมูล มีนาฬิกา ‘ยูนีกพีซ’ 50 เรือน จาก 50 แบรนด์ชั้นนำส่งนาฬิกาของตนเข้าร่วมทำมหากุศล ซึ่งนาฬิกาที่ปิดประมูลได้ราคาสูงสุดนั้นเป็นนาฬิกา LOT 12 ซึ่งเป็นนาฬิกา PATEK PHILIPPE โดยได้ราคาสูงถึง 6,200,000 สวิสฟรังก์ ทั้งหมดนี้ส่งผลให้งานประมูลครั้งนี้มีรายรับจากยอดประมูลรวมสูงถึง 10,776,500 สวิสฟรังก์
10 อันดับแรกของนาฬิกาที่ทำราคาปิดประมูลได้สูงสุดของรายการ ONLY WATCH 2017 ได้แก่
อันดับที่ 1 : 6,200,000 สวิสฟรังก์ ‘PATEK PHILIPPE’ The Triple Complication Ref. 5208T-010
ตัวเรือนไทเทเนี่ยม ขนาด 42 มม. กลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ R CH 27 PS QI ที่มากับสามคอมพลิเคชั่น (มินิทรีพีทเตอร์, โมโนพุชเชอร์ โครโนกราฟ จับเวลา 12 ชั่วโมง, เพอร์เพทชวลคาเลนดาร์แบบเปลี่ยนค่าทันที) ใช้หน้าปัดทองคำ 18 เค ทำสีน้ำเงินตกแต่งกิโยเช่เป็นลายคาร์บอนด้วยมือ ติดตั้งหลักชั่วโมงทองคำเคลือบสารเรืองแสง สวมคู่กับสายบุผ้าสังเคราะห์ คอร์ดูรา สีน้ำเงิน และตกแต่งชิ้นส่วนกลไกต่างๆ มาเป็นพิเศษ เช่น เคลือบเพลทและบริดจ์ด้วยโรเดียมดำ และตกแต่งลายกิโยเช่ด้วยมือเป็นลายเดียวกับหน้าปัดบนโรเตอร์ขนาดเล็กวัสดุแพลตินั่ม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทางแบรนด์ทำการตกแต่งกลไกเพิ่มเติมให้กับนาฬิกาแบบสเปเชี่ยลเอดิชั่น (ถือเป็นราคาสูงสุดอันดับที่สองของการประมูล ONLY WATCH ทั้งหมดที่เคยจัดมา โดยราคาสูงสุดอันดับที่หนึ่ง คือ 7,300,000 สวิสฟรังก์ ซึ่งเป็นของนาฬิกา PATEK PHILIPPE Ref. 5016 แบบตัวเรือนสเตนเลสสตีล ซึ่งนำออกประมูลในปี 2015
อันดับที่ 2 : 1,150,000 สวิสฟรังก์ ‘F. P. JOURNE’ Chronograph Monopoussoir Rattrapante Bleu (Ref. CMB)
นาฬิกาที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ ตัวเรือนแบบใหม่ขนาด 44 มม. ที่ทั้งตัวเรือน เม็ดมะยม และปุ่มกด ทำจากวัสดุแทนทาลัม พร้อมสลักข้อความ “Only Watch” บนขอบฝาหลัง ทำงานด้วยกลไกไขลานคอลัมน์วีลโครโนกราฟปุ่มกดเดียวจับเวลา 30 นาที พร้อมระบบสปลิตเซ็กเกินด์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ คาลิเบอร์ 1517 ซึ่งเป็นกลไกทองคำโรสโกลด์ 18 เค และใช้หน้าปัดบลูโครมที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ พร้อมสเกลทาคีมิเตอร์สีส้มและสเกลเทเลมิเตอร์สีเหลือง ร่วมด้วยตัวเลขดีไซน์ใหม่ และวงหน้าปัดขนาดเล็กสีเงินสองวง แสดงค่าด้วยเข็มบลูด์สตีลกับเข็มสีครีม สวมคู่มากับสายหนังจระเข้
อันดับที่ 3 : 800,000 สวิสฟรังก์ ‘AUDEMARS PIGUET’ Royal Oak Perpetual Calendar Black Ceramic Unique Piece (Ref. 26599CE.OO.1225CE.01)
ตัวเรือนขนาด 41 มม. เม็ดมะยม และสายทำจากเซรามิกสีดำ ตกแต่งเป็นพิเศษด้วยการใช้สีน้ำเงิน ‘สกายไลต์’ กับพื้นหน้าปัดลาย กรองด์ ตาปิสซีรี่ ตัดกับวงหน้าปัดขนาดเล็กทั้งสามที่ทำจากเกรย์โกลด์ขัดเงา และใช้พระจันทร์สีส้มที่มีลายบนดวงจันทร์เป็นภาพถ่ายของดวงจันทร์จริงๆ ทั้งยังใช้กลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 5134 ที่มีการเคลือบโรเตอร์เป็นสีดำและตกแต่งด้วยมือ และยังมีการนำฝาหลังวัสดุเซรามิกสีดำผนึกกระจกแซฟไฟร์มาใช้กับนาฬิกา Royal Oak Perpetual Calendar เป็นครั้งแรกด้วย (รุ่นตัวเรือนเซรามิกสีดำตามปกติจะใช้ฝาหลังไทเทเนี่ยม) นอกจากนี้ชิ้นส่วนต่างๆ อย่าง สกรูว์ หลักชั่วโมงและเข็ม แป้นกดปรับตั้งปฏิทิน ยังเป็นสีดำอีกต่างหาก
อันดับที่ 4 : 350,000 สวิสฟรังก์ “TUDOR” Heritage Black Bay Bronze One Ref. 7925/001
ตัวเรือนโลหะผสม อลูมิเนียมบรอนซ์ ขนาด 43 มม. พร้อมฝาหลังสตีลเคลือบพีวีดีเป็นสีบรอนซ์ซึ่งมีการสลัก “ชื่อรุ่นและข้อความ พีซ ยูนีค” เอาไว้ โดยมากับความพิเศษหนึ่งเดียวด้วยการย้ายเม็ดมะยมมาอยู่ทางด้านซ้าย และใช้แผ่นวงแหวนขอบตัวเรือนอลูมิเนียมและพื้นหน้าปัดเป็นสีเขียวกากี จับคู่มากับสายผ้าสีเขียวกากีคาดเส้นกลางสีเบจโดยมีสายหนังสีน้ำตาลมาให้สลับใช้งานอีกเส้นหนึ่ง ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติโครโนมิเตอร์ อินเฮ้าส์ กำลังสำรอง 70 ชั่วโมง คาลิเบอร์ MT5601-LHD
อันดับที่ 5 : 210,000 สวิสฟรังก์ ‘MB&F’ Horological Machine No8 Only Watch
ตัวเรือนไวท์โกลด์และไทเทเนี่ยม ขนาด 49 x 51.5 x 19 มม. ผนึกกระจกแซฟไฟร์ที่สลักตกแต่งด้วยลายภาพวาดของ Cassandra Legendre ศิลปินวัยรุ่นสาวอายุเพียง 15 ปี พร้อมติดตั้งแผ่นเพลทลักษณะของหน้ายิ้ม และติดตั้งรูปสลักช้างวัสดุไวท์โกลด์อยู่ระหว่างปริซึมแสดงชั่วโมงกับนาทีซึ่งนำรูปแบบมาจากช้างในภาพของ Cassandra สายหนังจระเข้สีดำ
อันดับที่ 6 : 150,000 สวิสฟรังก์ ‘HUBLOT’ Big Bang Unico Sapphire Usain Bolt for Only Watch (Ref. 411.JX.4089.RT.OWM17)
ตัวเรือนแซฟไฟร์ ขนาด 45 มม. หน้าปัดแบบโครงสเกเลตันเคลือบเยลโลว์โกลด์ เข้ากับสีของเม็ดมะยม ปุ่มกด และระบบล็อคสาย ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์ Unico คาลิเบอร์ HUB1242 ฟังก์ชั่นโครโนกราฟกลไกคอลัมน์วีลพร้อมระบบฟลายแบ็ค มีสายมาให้ 2 เส้น คือ สายยางแบบโปร่งแสง กับสายยางสีดำที่ผนึกด้านบนด้วยหนังวัวสีเยลโลว์โกลด์ตกแต่งลายธงจาเมกา เพื่อสื่อถึง ยูเซน โบลต์ นักวิ่งชื่อดังเจ้าของฉายา “เจ้าสายฟ้าแลบ (The Lightning Bolt)”
อันดับที่ 7 : 110,000 สวิสฟรังก์ ‘BREGUET’ Classique Quantième Perpétuel En Ligne (Ref. 7715)
นาฬิกาเพอร์เพทชวลคาเลนดาร์ในตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ ขนาด 39 มม. ที่มากับกลไกอัตโนมัติ กำลังสำรอง 45 ชั่วโมง คาลิเบอร์ 502QPLT ที่มีโครงสร้างแบบดั้งเดิม แต่ใช้วัสดุสมัยใหม่อย่างซิลิคอนมาทำบาลานซ์สปริงและฮอร์นของเอสเคปเม้นท์ เด่นด้วยการแสดงค่าปฏิทินต่างๆ ทั้งวัน เดือน วันที่ และลีพเยียร์ แบบเรียงตามแนวดิ่ง และหน้าปัดทองคำ 18 เค สีเงิน ตกแต่งเอ็นจิ้น-เทิร์นด์ด้วยมือเป็นลายกิโยเช่สุดละเอียด สวมคู่กับสายหนังจระเข้สีน้ำตาล และมีการสลักข้อความ “Only Watch 2017” และ “Pièce unique” บนขอบฝาหลังด้วย
อันดับที่ 8 : 100,000 สวิสฟรังก์ ‘LAURENT FERRIER & URWERK’ Arpal One (Ref. LF-UR1)
นาฬิการุ่นพิเศษที่ Laurent Ferrier ร่วมมือกับ Urwerk สร้างขึ้นเพียงเรือนเดียวเท่านั้น ตัวเรือนขนาด 40.9 x 60.8 x 20.7 มม. ทำจากอัลลอยชนิดพิเศษ ‘อาพาล พลัส’ ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ สวมคู่กับสายหนังสีทราย แสดงชั่วโมงและนาทีแบบ ‘แวนเดอริง อาวร์’ ตามแบบฉบับของ Urwerk ด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ UR5.03 ที่ลดระดับการขึ้นลานของโรเตอร์ได้ด้วยระบบเทอร์ไบน์คู่ ตัวเลขต่างๆ ของการแสดงเวลาเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวาสีขาว
อันดับที่ 8 : 100,000 สวิสฟรังก์ ‘DE BETHUNE’ DB1318-OW2017 Pièce Unique
นาฬิกาสุดพิเศษเพียงหนึ่งเดียวเรือนนี้สร้างขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ของทางแบรนด์ที่มีต่อประวัติศาสตร์การสร้างเรือนเวลาและสถาปัตยกรรม ตัวเรือนขนาดใหญ่ 80 x 130 x 70 มม. ทำจากไทเทเนี่ยมและกระจกมิเนอรัล แสดงชั่วโมงกับนาทีด้วยเข็มบลูด์สตีล และแสดงมูนเฟสด้วยพระจันทร์ดวงกลมวัสดุไทเทเนี่ยมขัดเงาร่วมกับไทเทเนี่ยมสีน้ำเงิน ขณะที่พื้นหลังเป็นไทเทเนี่ยมสีน้ำเงินขัดเงาดุจกระจกเงาประดับด้วยดวงดาวไวท์โกลด์ ขับเคลื่อนด้วยกลไกไขลาน กำลังสำรอง 8 วัน คาลิเบอร์ 1318-020 ความถี่ 18,000 ครั้งต่อชั่วโมง ที่เอสเคปเม้นท์เป็นแบบ คอนสแตนท์-ฟอร์ซ โดยกลไกนี้สามารถแสดงมูนเฟสได้อย่างแม่นยำถึงขนาดที่ต้องการการปรับตั้งเพียงครั้งเดียวในรอบ 1,225 ปี ซึ่งแม่นยำกว่ากลไกมูนเฟสทั่วไปถึง 457 เท่า
อันดับที่ 9 : 90,000 สวิสฟรังก์ ‘BARBIER-MUELLER’ Mosaïque by Barbier-Mueller
นาฬิกาตัวเรือนโรสโกลด์ ขนาด 41 มม. ที่เด่นด้วยลักษณะตามแบบฉบับการประดิษฐ์นาฬิกาอันประณีตของชาวเจนีวา ร่วมด้วยศิลปะการตกแต่งอันงดงาม โดยเฉพาะการประดับนิลแจสเปอร์สีอิฐ สีดำ สีขาว และสีเขียว จำนวนถึง 136 ชิ้นในรูปแบบของศิลปะโมเสก ลงบนส่วนต่างๆ (36 ชิ้น บนลายที่รังสรรค์ขึ้นด้วยเส้นทอง เทคนิค ‘คลอยโซนเน่’ บนหน้าปัด, 72 ชิ้น ล้อมรอบชิ้นแพลตินั่มขนาดเล็กบนชิ้นฝาหลังทึบที่สามารถเปิดออกได้ด้วยบานพับ (ซึ่งบนชิ้นแพลตินั่มนี้มีการสลักข้อความ ‘Only Watch’ กับหมายเลข ‘7’ (ซึ่งหมายถึง Only Watch ครั้งที่ 7 เอาไว้ด้วย), 28 ชิ้นบนด้านข้างของตัวเรือน) ทั้งยังสลักหลักชั่วโมงลงบนพื้นเปลือกหอยมุก และเลอค่าด้วยการใช้กลไกทองคำ โรสโกลด์ 18 เค คาลิเบอร์ 1304 ของ F. P. Journe พร้อมให้สายนาฬิกาหนังจระเข้มา 2 เส้น คือ สีน้ำตาล กับสีดำ
อันดับที่ 10 : 80,000 สวิสฟรังก์ ‘BOVET’ Secret Beauty for Only Watch
ตัวเรือนไวท์โกลด์ ขนาด 42 มม. แบบ ชาโต เดอ โมทิเยร์ ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ คาลิเบอร์ 11BA15 งดงามเกินบรรยายด้วยภาพ ‘เกอิชา’ บนหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวซึ่งเป็นการวาดภาพสีขนาดจิ๋วด้วยสีเรืองแสงซึ่งทำให้ชื่นชมภาพได้ในความมืด สวมคู่มากับสายหนังจระเข้สีดำ
หมายเหตุ: ราคาทั้งหมด เป็นราคาที่รวมค่าธรรมเนียมของผู้ซื้อแล้ว
แบรนด์นาฬิกาทั้ง 50 แบรนด์ ที่สร้างนาฬิกา “ยูนีคพีซ” ของตนเข้าร่วมทำการกุศลในงานประมูล ONLY WATCH 2017 ได้แก่:
1) Anderson Genève 2) Arnold & Son 3) Armin Strom 4) Audemars Piguet 5) Barbier-Mueller 6) Bell & Ross 7) Blancpain 8) Boucheron 9) Bovet 10) Breguet 11) Carl F.Bücherer 12) Chanel 13) Chopard 14) Christophe Claret 15) Chronoswiss 16) Czapek 17) De Bethune 18) Dewitt 19) FP Journe 20) Fabergé 21) Frédérique Constant 22) Girard Perregaux 23) H.Moser & Cie 24) Harry Winston 25) Hautlence 26) Hermès 27) Hublot 28) Jacob&Co 29) Jaquet Droz 30) Konstantin Chaykin 31) Laurent Ferrier ร่วมกับ Urwerk 32) Louis Moinet 33) Louis Vuitton 34) Maurice Lacroix 35) MB&F 36) MCT 37) Montblanc 38) Moritz Grossmann 39) Patek Philippe 40) Piaget 41) Rebellion 42) Ressence 43) Speake Marin 44) TAG Heuer 45) Tudor 46) Ulysse Nardin 47) Voutilainen 48) Zenith 49) โปรเจ็คต์พิเศษที่ Agenhor ทำร่วมกับ HEAD Genève 50) Wostep
By: Viracharn T.