BREGUET Celebrates Tourbillion Day on June 26, 2019
26 มิถุนายน 1801 คือวันที่ช่างนาฬิกาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก Abraham-Louis Breguet จดทะเบียนสิทธิบัตรเรกูเลเตอร์ใหม่ล่าสุดในตอนนั้นของเขา ในชื่อที่เรียกว่า “ตูร์บิยอง” และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็เป็นจุดกำเนิด ที่ทำให้โลกนาฬิกาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
Abraham-Louis Breguet
5 ปีต่อมาในปี 1806 ในงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมแห่งชาติที่ปารีส ที่ถือเป็นงานแสดงสินค้า และนวัตกรรมใหม่ของโลกในขณะนั้น BREGUET ได้เชิญผู้คน ผู้ที่สนใจ และนักสะสมเพื่อรวมฉลองวันแห่งตูร์บิยองเป็นครั้งแรก ซึ่งในปัจจุบัน BREGUET บูติคทั่วโลก ก็ยังคงเชิญผู้คนจำนวนมาก ให้เข้าร่วมเปิดโลกทัศน์ และทำความรู้จักกับโลกของตูร์บิยองอย่างแท้จริง ซึ่งรวมไปถึงกลไกสลับซับซ้อนต่างๆ ไปในขณะเดียวกันด้วย
เรื่องราวอันน่าทึ่ง จากมันสมองของมนุษย์ในช่วงนั้น มาจากจุดเริ่มต้นของนาฬิกากลไกจำนวนเพียง 35 เรือนที่ Abraham-Louis Breguet ได้สร้างขึ้นตลอดช่วงชีวิตของเขา ที่เวลาอันยาวนานในช่วงชีวิตของคนๆ หนึ่งนี้ น่าจะบอกได้ถึงความสลับซับซ้อน และความยุ่งยากในระดับสูง สำหรับการผลิตในยุคนั้น ที่ซึ่งยังไม่มีระบบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์ใดๆ เข้าเป็นตัวช่วยเช่นในปัจจุบัน และจากเหตุผลนี้เองที่ทำให้กลไกนี้ ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางถึงความพิเศษ และความเป็นกลไกนาฬิกาที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับผู้คนในยุคต่อๆ มาจวบจนถึงปัจจุบัน ทั้งในแง่เทคนิคและศิลปะในการผลิต
โดยสิทธิบัตรที่จดในปี 1801 นั้น Abraham-Louis Breguet ต้องผ่านขั้นตอนการเฝ้าสังเกต พัฒนา ทดลอง และทดสอบครั้งแล้วครั้งเล่า ในช่วงเวลากว่า 10 ปีจากปี 1795 จนถึงปี 1805 ในขณะที่นาฬิกาในขณะนั้นยังอยู่ในรูปแบบของนาฬิกาพก และตำแหน่งการใช้งานจะอยู่ในแนวตั้ง เนื่องจากนาฬิกาพกจะถูกเก็บอยู่ในเสื้อโค๊ทเป็นส่วนใหญ่ และแม้จะแก้ปัญหาเรื่องพลังสำรองลานได้ โดยการเพิ่มให้ลานใหญ่ขึ้นได้ง่าย จากขนาดของนาฬิกาพกที่ใหญ่กว่านาฬิกาข้อมือ แต่ก็ยังติดปัญหาเรื่องของความเที่ยงตรง ที่ผู้ใช้งานยังคงต้องตั้งเวลาใหม่อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากบาลานซ์วีลยังคงทำงานไม่เสถียร และส่งผลให้แสดงเวลาคลาดเคลื่อนไปมากกว่าที่ควรจะเป็นจนกลายเป็นปัญหาใหญ่
ซึ่งจุดเริ่มต้นของปัญหา มาจากเรื่องของแรงโน้มถ่วงโลก ที่วัตถุทุกสิ่งต้องถูกดึงลงสู่ที่ต่ำเสมอ รวมไปถึงบาลานซ์วีล สปริง และเอสเคปเม้นท์ ที่ทำหน้าที่ถ่ายพลังออกสู่เข็มเพื่อแสดงเวลาบนหน้าปัด และถูกแรงโน้มถ่วงของโลกกระทำ จนไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นแนวคิดในการยกชุดบาลานซ์วีลออกมาเป็นกรงต่างหาก จึงกลายเป็นคำตอบของสมการนี้ เพราะกรงของบาลานซ์วีลนี้ จะหมุนรอบตัวเองตลอดเวลา เพื่อเป็นการชดเชยค่าแรงโน้มถ่วงของโลก โดยในขณะเดียวกันก็ยังคงหมุนเพื่อถ่ายพลังออกสู่เข็มเพื่อแสดงเวลาได้อย่างเดิม
ซึ่งจากจุดนี้เอง แนวคิดจากมันสมองของมนุษย์ในนามของ Abraham-Louis Breguet ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาของวงการนาฬิกาโลก ผู้ซึ่งรักและอุทิศตัวเองให้กับโลกของเครื่องบอกเวลามาชั่วชีวิต และสรรค์สร้างรูปแบบของกลไกการแสดงเวลาชั้นสูง ที่แม้เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วในปัจจุบัน แม้ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์อาจสามารถคำนวณค่าต่างๆ ได้อย่างแม่นจำก็จริง แต่โปรแกรมเมอร์ผู้ซึ่งเป็นผู้วางแผนและป้อนข้อมูล กลับกลายเป็นฮีโร่ตัวจริงที่จะสามารถเริ่มต้นสรรค์สร้างสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นจริงได้ และนี่เอง ที่ผู้คนจำนวนมากทั่วโลก ต่างยอมรับให้กลไกนาฬิกา เป็นเสมือนอีกหนึ่งแขนงของงานศิลปะ ที่คงทั้งความงดงาม และการทำงานอย่างเที่ยงตรงในขณะเดียวกันด้วย
