MASERATI MSG Racing join forces with BIANCHET
ก่อนการแข่งขันที่โมนาโก MASERATI MSG Racing มีความภูมิใจที่จะประกาศความร่วมมือแบบไดนามิคกับแบรนด์นาฬิกา BIANCHET เพื่อรวมโลกของเครื่องบอกเวลาระดับสูง และวงการมอเตอร์สปอร์ตเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน พร้อมการทำงานร่วมกันที่จะจุดประกายความหลงใหลอันแรงกล้า ที่หลอมรวมกับความปรารถนาระหว่างกัน ในการที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดต่างๆ พร้อมยังถือเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งความหรูหรา และสมรรถนะที่ออกแบบขึ้นตามความต้องการของตลาด
โดยความร่วมมือของ MASERATI MSG Racing กับ BIANCHET ถือเป็นมากกว่าตัวแทนที่เพียงต้องการรวมแบรนด์เข้าด้วยกัน แต่ยังรวมเอาวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกัน พร้อมความหยั่งลึกถึงรากฐานและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในทั้งแง่ของความสง่างาม ความมีสไตล์ และสมรรถนะในแบบที่เป็นตามธรรมชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อความต้องการ ที่เกินความคาดหมายในทุกอนูของความเป็นนาฬิกาในรุ่นนี้ ภายใต้รูปแบบที่เป็นในแบบของ BIANCHET รวมทั้ง MASERATI อีกด้วย
แรงบันดาลใจจากความปรารถนาร่วมกัน ที่จะกำหนดมาตรฐานในสิ่งที่ไม่มีใครเทียบได้ ทั้งในวงการมอเตอร์สปอร์ตและวงการนาฬิการะดับสูง ซึ่งการทำงานร่วมกันในครั้งนี้เน้นย้ำถึงการอุทิศตนอย่างแน่วแน่ สู่ความเป็นเลิศทั้งในด้านวิศวกรรมและการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการหรือในความซับซ้อนของการผลิตนาฬิกา ด้วยแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของทีมFormula E และมรดกของแบรนด์ MASERATI ในวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตในช่วงปี 1950
ที่ BIANCHET และ MASERATI MSG Racing ได้ร่วมกันฉลองกับความร่วมมือระหว่ากัน ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นที่ผลิตในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นจำนวน 21 เรือนที่มีตราสัญลักษณ์ตรีศูลอันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยโลโก้และสีอันโดดเด่นของ MSG Racing โดยสัญลักษณ์ตรีศูลจะมีความหมาย เสมือนกับศักดิ์ศรีและสมรรถนะที่สูงส่ง ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความงามและความประณีต ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ BIANCHET ที่จะแสวงหาความสง่างามเหนือกาลเวลา
จากการที่ BIANCHET มีแนวคิดในการใช้อัตราส่วนทองคำ สำหรับการออกแบบตัวเรือนและกลไกของนาฬิกา โดยเน้นย้ำถึงความทุ่มเทและความอุตสาหะ ในการสร้างความเที่ยงตรงและความสวยงามที่กลมกลืนกัน ซึ่งเนื่องจาก BIANCHET ถือเป็นหนึ่งในผู้นำแบรนด์นาฬิกาแบบอินดิเพนเดนซ์ ระดับไฮเอนด์อย่างต่อเนื่องในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับถือเป็นสัญลักษณ์ของสไตล์ในสมัยใหม่ ที่รวมเอาเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และงานฝีมืออันประณีตเข้าไว้ด้วยกัน
ซึ่งนาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นเรือนแรกจะได้แก่ Flying Tourbillon B 1.618 Grande Date Carbon ที่ได้รับรางวัลจากการรังสรรค์ขึ้น ด้วยวัสดุคอมโพสิทคาร์บอนความหนาแน่นสูง อันเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ BIANCHETT ที่ผสมผงไทเทเนียมเข้ากันกับคาร์บอนไทเทเนียมฝุ่น ที่มีความหนาแน่นสูง ในขณะที่รุ่นลิมิเต็ดลำดับที่สองก็คือ Flying Tourbillon B 1.618 รุ่น Grande Date Hybrid ที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่าง ไทเทเนียมและคาร์บอนเข้าด้วยกันอย่างแนบเนียน
ตัวเรือนนาฬิกาทั้งสองเรือนมีเส้นยาง ที่พาดผ่านในสไตล์สปอร์ต พร้อมสีสันที่ประณีตและเส้นเรียบตรง ซึ่งเป็นดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ BIANCHET ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบในสไตล์อิตาลี ซึ่งออกแบบมาเพื่อการสวมใส่แบบแอคทีฟ พร้อมความสามารถในการต้านทานแรงกระแทกได้สูงถึง 5000 G และแรงดันน้ำที่ระดับ 10 ATM หรือความลึกระดับ 100 เมตร ผนวกเข้ากับกลไกแบบสเกเลตัน อันประกอบด้วยกลไกฟลายอิ้งตูร์บิญยองบิน ที่ผลิตขึ้นจากวัสุดไทเทเนียมทั้งหมด
และฟังก์ชั่นแสดงค่าวันที่ขนาดใหญ่ ที่แสดงให้เห็นถึงจุดสุดยอดของทักษะการผลิตนาฬิกา พร้อมการขัดแต่งชิ้นส่วนต่างๆ ด้วยมือ และประกอบในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้วยความแม่นยำ พร้อมความใส่ใจในรายละเอียด รวมกันทำให้นาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้ เป็นผลงานจากหัตถศิลป์และความเชี่ยวชาญ ตามแบบสวิสได้อย่างแท้จริง จากแนวคิดของ Mr. Rodofo Bianchet ผู้ก่อตั้งแบรนด์ที่ว่า “สไตล์ ความเป็นเลิศทางวิศวกรรม และความยั่งยืน ที่แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบ ความสมดุล และความเคารพต่อแบรนด์”