New FRANCK MULLER Boutique in Bangkok
FRANCK MULLER เผยโฉมคอนเซ็ปท์สโตร์แห่งใหม่ ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการล่าสุดในการพัฒนาภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ ซึ่งถ่ายทอดบรรยากาศแห่งการสร้างสรรค์นาฬิกาขึ้นในประเทศไทย อยู่บนชั้น M ของศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยคอนเซ็ปท์ใหม่ของบูติคแห่งนี้ยังเตรียมที่จะเผยโฉม ในอีกหลากหลายประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และเกาหลี ในอนาคตอันใกล้นี้เช่นกัน
ซึ่งภายใต้งานออกแบบที่เชื้อชวนให้นึกถึงคุณภาพ ดั่งพิพิธภัณฑ์ของเหล่าเรือนเวลาอันทรงคุณค่า ที่เชิญชวนให้ผู้มาเยือนได้เดินทางเข้ามา และร่วมค้นพบกับเรือนเวลาแห่งวิจิตรศิลป์ที่จัดแสดงอยู่ โดยการผสมผสานอย่างสมดุลกลมกลืน พร้อมความพิถีพิถันผ่านองค์ประกอบต่างๆ ภายใต้การคัดสรรเฉดสีธรรมชาติที่เป็นดั่งฉากหลัง ให้กับแบรนด์เรือนเวลาสวิสสุดหรูที่กำลังเดินหน้าเติบโตสู่อนาคต
คอนเซปต์สโตร์อันสมบูรณ์แบบนี้จะเป็นพื้นที่ในการจัดแสดงผลงาน และจะเป็นหัวใจอันสำคัญในการถ่ายทอดถึงเรื่องราวแห่งคุณภาพ นับจากประตูทางเข้าซึ่งขนาบด้วยบานกระจกสองด้าน พร้อมทั้งตู้จัดแสดงขนาดยาวทั้งสองบนด้านหนึ่ง ขณะที่อีกด้านหนึ่งถ่ายทอดการแสดงภาพโฮโลกราฟีอันล้ำสมัย โดยทางเข้าของร้านซึ่งประทับไว้ด้วยรูปทรงตอนโน อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้
พร้อมรายล้อมด้วยโลโก้ขนาดใหญ่ ประกบคู่กันบนตัวมือจับประตูทั้งสองด้าน ซึ่งทำให้เกิดความเย้ายวนและดึงดูดใจให้ต้องหยุดยืนชมจากด้านนอก พร้อมกันกับการสำรวจถึงสถาปัตยกรรมอันแข็งแกร่งและหนักแน่น กระนั้นก็ยังเป็นเสมือนเวทีที่ออกแบบมา เพื่อดึงดูดใจให้ผู้คนได้ก้าวเข้ามาสำรวจเพิ่มเติม โดยเมื่อผลักผ่านพ้นประตูเข้ามาแล้ว โลกภายนอกก็แทบจะพลันหายไปในพริบตา
เพื่อต้อนรับทุกคนเข้าสู่การตกแต่งภายในอันหรูหรา ที่ประกอบด้วยพื้นที่หลักและพื้นที่ต้อนรับวีไอพีที่ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง มากไปกว่านั้นคือการรังสรรค์คุณภาพ ราวกับพิพิธภัณฑ์อันเหนือกาลเวลา ที่นำพาทุกคนเดินทางเข้าสู่พื้นที่ของร้าน ที่ทั้งดึงดูดใจให้ได้ร่วมค้นพบไปกับประวัติศาสตร์ และมรดกอันรุ่มรวยตลอดเส้นทางกว่า 30 ปีของ FRANCK MULLER ขณะเดียวกันก็ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นสู่อนาคตด้วย
โทนสีของการตกแต่งนั้นจะอุทิศให้กับเฉดต่างๆ ของสีน้ำตาลอมเทา โดยผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อเชื้อชวนให้หวนนึกถึงหินทราเวอร์ทีน ที่พบได้ทั่วไปในสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่บนอาคารต่างๆ ของยุโรป ที่ซึ่ง FRANCK MULLER ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างมั่นคง ทั้งยังสร้างรูปเป็นดั่งผืนผ้าใบเปล่า ที่ไม่ดึงความสนใจจากเรือนเวลาซึ่งนำมาจัดแสดง ทว่าตอกย้ำได้ดีถึงรายละเอียดอันประณีตวิจิตร
จากการตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเข้มคลาสสิค ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งบนผนังภายในพื้นที่หลักของร้าน ตลอดจนเพดานที่ตกแต่งด้วยสตีลเงาวาวดุจกระจก โดยไม่เพียงเสริมสัมผัสแห่งความสง่างามหรูหรา แต่ยังสร้างสรรค์ความเป็นคู่ขนานและกลมกลืนของพื้นที่ เพื่อย้ำถึงคุณภาพอันหนักแน่นและเข้มแข็ง ที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญหนึ่งเดียวมาโดยตลอดระยะเวลาการดำรงค์อยู่ของ FRANCK MULLER
ตัดด้วยสัมผัสอันนุ่มนวลลุ่มลึกยิ่งกว่า ผ่านองค์ประกอบที่เชื้อชวนให้นึกถึงงานหัตถศิลป์ เชิงสร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังเหล่าผลงานเรือนเวลาของแบรนด์ โดยตอกย้ำอย่างนุ่มนวลและกลมกลืน ถึงการเป็นดั่งผลงานศิลปะล้ำค่าที่ไม่เพียงควรค่าแก่การเลือกซื้อ แต่ยังทรงคุณค่ายิ่งสำหรับการเก็บสะสม กับไฟรูปจี้สตีลทองสีเข้มภายใต้รูปทรงอันซับซ้อนของนาฬิการุ่น Grand Central Tourbillon หนึ่งในกลไกสลับซับซ้อนสูงของแบรนด์
อันถ่ายทอดมาจากเพดานที่อยู่เหนือตู้จัดแสดงขึ้นไปเพียงเล็กน้อย ณ บริเวณใจกลางร้าน ขณะที่ประตูเลื่อนหุ้มด้วยสตีลแบบด้าน ยังซ่อนไว้เบื้องหลังด้วยพื้นที่ต้อนรับวีไอพี ซึ่งตกแต่งอย่างงดงามด้วยลวดลายตัดเลเซอร์ เป็นรูปโลโก้อันแม่นยำบนวัสดุ หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งต่างๆ ก็ล้วนผ่านการออกแบบขึ้นเฉพาะอย่างพิถีพิถันและตั้งใจ พร้อมด้วยโลโก้ที่ซ่อนตัวอยู่อย่างแยบยลกลมกลืนไร้ที่ติ