New KING SEIKO Collection, Ref. SJE089 and SJE091
แม้ว่าจะไม่ใช่นาฬิกา KING SEIKO เรือนแรกที่ผลิตขึ้นแต่ KING SEIKOKSK ในรุ่นปี 1965 ก็มีตัวเรือนที่เฉียบคม มีเหลี่ยมมุม และฟังก์ชั่นการทำงานที่ดีเยี่ยม ซึ่งถือเป็นนาฬิกาที่กำหนดลักษณะอันดีเด่นของ KING SEIKO ในเวลาต่อมา พร้อมด้วยความทนทานต่อน้ำ พร้อมเข็มแสดงเวลาวินาทีที่โดดเด่นและสวยงาม ทำให้นาฬิการุ่นนี้เป็นนาฬิกาที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งได้รับการยอมรับจากแฟนๆ มากมาย ดังนั้นตั้งแต่ปี 2022 SEIKO จึงตัดสินใจรื้อฟื้นสไตล์อันคลาสสิกของ KING SEIKO กลับมาพร้อมด้วยการปรับปรุงให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น จนในปีนี้ที่เป็นการนำเสนอนาฬิกาใหม่อีกสองรุ่น จากแรงบันดาลใจของนาฬิการุ่น KSK สุดคลาสสิก ร่วมด้วยการทำงานจากกลไกประสิทธิภาพสูงคาลิเบอร์ 6L35 อันเพรียวบาง และยังเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในนาฬิกา KING SEIKO
มาพร้อมกับหน้าปัดอันสง่างามที่ถือเป็นลายเซ็นต์ของ KING SEIKOโดยแบบแรกจะเป็นสีเงินลวดลายซันเรย์แบบใหม่ ที่ทำให้นาฬิกามีพื้นผิวอันเรียบง่ายแต่ละเอียดอ่อน และส่งผลให้ได้รูปลักษณ์ที่ใกล้เคียงกับนาฬิการุ่น KSK เรือนดั้งเดิมได้มากยิ่งขึ้น ส่วนแบบที่สองจะเป็นเฉดสีดำใหม่ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ เพื่อให้กลมกลืนกับการออกแบบตัวเรือนใหม่ ช่วยทำให้นาฬิกาดูหรูหรามากยิ่งขึ้นโดยทั้งสองเรือนจะมีเข็มแสดงเวลาชั่วโมงและนาทีแบบเหลี่ยมขัดเงา ที่แสดงให้เห็นถึงงานการผลิตคุณภาพสูง ที่ใช้ในการประดิษฐ์นาฬิกาสมัยใหม่ จากมรดกด้านการผลิตที่ตกทอดมาจาก KING SEIKOในอดีตพร้อมการพัฒนามาสู่ยุคปัจจุบัน ซึ่งในแบบหน้าปัดสีดำ เข็มนาฬิกาจะมีการขัดแต่งแบบเส้นขนที่ละเอียด เพื่อช่วยเพิ่มระดับความแตกต่างกับพื้นผิวสีเข้มของหน้าปัด พร้อมเพิ่มความชัดเจนในการอ่านค่า
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบตัวเรือนที่ประณีต พร้อมตัวเรือนที่บางลงที่ช่วยทำให้นาฬิกาดูมีสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมเหลี่ยมการขัดตัวเรือนที่มีระนาบแบนขนาดใหญ่พร้อมมุมที่แหลมคม โดยพื้นผิวจะได้รับการขัดเงาเพื่อให้ได้ผิวแบบกระจกที่แสดงภาพสะท้อนได้ไม่ผิดเพี้ยน ทำให้ตัวเรือนสามารถสะท้อนแสง ได้ในลักษณะที่สวยงามซึ่งช่วยส่งเสริมกับหน้าปัด ซึ่งการผสมผสานระหว่างตัวเรือนที่มีเหลี่ยมมุม กับหน้าปัดที่เรียบแบนพร้อมเข็มที่ตัดเหลี่ยมคม จะช่วยถ่ายทอดความประณีตตามสไตล์ของนาฬิการุ่น KSK จากปี 1965 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งนาฬิการุ่นใหม่นี้จะไม่เพียงแต่บางกว่านาฬิกา KING SEIKO รุ่นที่นำเสนอก่อนหน้านี้ แต่ยังมีความบางกว่า KING SEIKOKSK รุ่นดั้งเดิมถึง 0.2 มิลลิเมตร แม้ว่าจะใช้กลไกอัตโนมัติพร้อมหน้าต่างแสดงวันที่ ที่โดยปกติจะมีความหนามากกว่านี้ก็ตาม
ซึ่งเกิดขึ้นได้ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างตัวเรือน และกระจกแซฟไฟร์ทรงกล่องที่มีการออกแบบใหม่ พร้อมการผสมผสานอย่างมีศิลปะของสัดส่วน ส่งผลให้นาฬิกามีความสง่างาม บนข้อมือผู้สวมใส่ขณะใช้งานในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่สถานการณ์สบายๆ ไปจนถึงสถานการณ์ที่เป็นทางการ จากการทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 6L35 ที่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง ให้พลังสำรองลานนาน 45 ชั่วโมง กรุกระจกแซฟไฟร์ทรงกล่องที่เคลือบสารกันแสงสะท้อน พร้อมฝาหลังแบบขันเกลียว โดยมีตัวเรือนที่ผลิตจากสตีลในขนาด 38.6 มิลลิเมตร หนา 10.7 มิลลิเมตรและความสามารถในการกันน้ำที่ 5 บาร์ ร่วมกับความต้านทานสนามแม่เหล็กที่ระดับ 4,800A/m โดยนาฬิกาทั้งสองรุ่นใหม่นี้จะวางจำหน่ายที่บูติคนาฬิกา SEIKO และตัวแทนจำหน่ายบางแห่งทั่วโลกตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 ซึ่งจะมีราคาจำหน่ายในยุโรปที่ 3,400 ยูโร