ความงามของฟากฟ้าอันสดใสแห่งอิวาเตะ
นาฬิการุ่นที่สองเพื่อการรำลึกถึงกลไกคาลิเบอร์ 9S ที่อยู่คู่กับ GRAND SEIKO มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้น โดดเด่นด้วยหน้าปัดสีฟ้าที่แสดงถึงฟากฟ้าอันสดใส และกว้างไกลที่มองเห็นจากยอดเขาอิวาเตะ เพื่อนำพาผู้สวมใส่ให้ออกเดินทางไปยังอิวาเตะ แหล่งกำเนิดของนาฬิกาจักรกลจาก GRAND SEIKO พร้อมลวดลายซันเรย์ดุจแสงอาทิตย์อันโดดเด่น ที่ตกแต่งบนพื้นผิวหน้าปัดที่สามารถสะท้อนแสงได้จากทุกมุม ก่อให้เกิดเป็นฉากหลังสีฟ้าอันน่าทึ่งให้กับทั้งเข็มแสดงเวลาชั่วโมง นาที และหลักชั่วโมงที่ตัดเจียรดุจเพชร ส่วนเข็มแสดงวินาทีนั้นถูกเผาให้เป็นสีน้ำเงินแบบบลูด์ และมีการใช้สัญลักษณ์ของ GRAND SEIKO สีทองบนหน้าปัดเพื่อการรำลึกถึงกลไกคาลิเบอร์ 9S
ด้วยสีน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์ของนาฬิกาจาก GRAND SEIKO ที่ปรากฎให้เห็นบนโรเตอร์ซึ่งเป็นการทำให้เกิดสีด้วยกระบวนการอโนดิคออกซิเดชั่น เช่นเดียวกันกับรุ่นหน้าปัดสีเงิน เพื่อให้ทุกคนสามารถชื่นชมความงดงามของกลไกได้ ผ่านทางกระจกแซพไฟร์ที่กรุบนฝาหลัง กับกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 9S65 ที่ให้อัตราความแม่นยำเฉลี่ยรายวันอยู่ที่ระดับ +5 ถึง -3 วินาทีต่อวัน พร้อมพลังสำรองลานอันยาวนานถึง 3 วัน โดยจัดสร้างขึ้นให้เป็นนาฬิกาในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่น กับจำนวนการผลิตที่จำกัด 1,200 เรือน ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายที่บูติคนาฬิกา GRAND SEIKO และตัวแทนจำหน่ายที่คัดเลือกทั่วโลกในเดือนเมษายน 2023 ที่จะถึงนี้
GRAND SEIKO ใน Heritage Collection, Ref. SBGR325, Caliber 9S 25th Anniversary Limited Edition มีชุดกลไกที่ทำงานในความถี่ระดับ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง หรือ 8 บีทต่อวินาที โดยมีตัวเรือนและสายที่ผลิตจากสตีล กรุด้วยกระจกแซพไฟร์ชนิดโค้งทั้ง 2 ฝั่งเคลือบกันแสงสะท้อน พร้อมฝาหลังแบบขันเกลียว ปลอดภัยด้วยชุดล็อคสายแบบบานพับ 3 ทบที่ปลดล็อคด้วยการกดปุ่ม ให้ความสามารถในการกันน้ำที่ 10 บาร์ และความสามารถในการต้านทานพลังแม่เหล็กไฟฟ้าที่ระดับ 4,800 แอมแปร์/เมตร โดยมีตัวเรือนขนาดคลาสสิคที่ 37 มิลลิเมตร พร้อมความหนาของตัวเรือนที่ 13.3 มิลลิเมตร โดยจะมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 211,100 บาท