PATEK PHILIPPE “LE VOYAGE” Exhibition in Bangkok
สื่อมวลชน ลูกค้า และผู้ที่หลงใหลในเรื่องราวของการประดิษฐ์นาฬิกา ล้วนได้รับเชิญเพื่อเข้าร่วมสำรวจโลกแห่งความหลากหลายจากนาฬิกาของ PATEK PHILIPPE ในฟังก์ชั่นแบบไทม์โซนที่สอดคล้องกับการเปิดพรมแดนในการเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง โดยปักหมุดแผนที่สู่งานครั้งสำคัญแห่งการเฉลิมฉลอง ให้กับ เรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันเป็นไอคอนิคของการเดินทางสู่สยาม พร้อมเสริมด้วยหลากหลายเครื่องมือสื่อสารแบบมัลติมีเดีย ที่เติมเต็มความน่าสนใจให้กับการเดินทางและการค้นพบในครั้งนี้
พร้อมการนำเสนอในหลากหลายคอลเลคชั่นของกลไกแบบสลับซับซ้อนที่ PATEK PHILIPPE มีความเชี่ยวชาญทั้งในศาสตร์และศิลปะแห่งการประดิษฐ์นาฬิกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกแบบสลับซับซ้อนสองรายการ ที่เป็นประโยชน์ยิ่งสาหรับเหล่านักเดินทางและผู้ที่ต้องเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจการค้า รวมถึงการสื่อสารในทั่วทุกมุมโลก ซึ่งฟังก์ชั่นทั้งสองก็คือนาฬิกาแบบเวริล์ดไทม์ที่แสดงเวลาทั้ง 24 ไทม์โซนได้พร้อมกันโดยวิธีการหมุนแผ่นดิสก์ของชุดกลไกภายใต้หน้าปัด และนาฬิกาแบบเทรเวลไทม์ ซึ่งสามารถแสดงเวลาของไทม์โซนที่สอง ได้ด้วยการกดปุ่มด้านข้างเพื่อปรับเข็มชั่วโมง
โดย PATEK PHILIPPE เปิดตัวนิทรรศการนี้เป็นคร้ังแรกในไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงสูงสุดในด้านการต้อนรับอย่างอบอุ่น เช่นเดียวกับการเป็นเสมือนศูนย์กลางแห่งหมู่เกาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ทำให้ราชอาณาจักรแห่งนี้เป็นดั่งจุดบรรจบของอาหารที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมกับวัฒนธรรมอันหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งตลอดระยะเวลาของการจัดงานตั้งแต่วันที่ 18 ถึง 21 มกราคม 2022 ที่ผ่านมานั้น ทาง PATEK PHILIPPE ได้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติไปกว่า 500 ท่านโดยแบ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ ในการเยี่ยมชมและเข้าร่วมงานในคร้ังนี้ โดยงานจัดขึ้น ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ใจกลางกรุงเทพมหานครพร้อมทิวทัศน์ริมแม่น้าเจ้าพระยา เพื่อนำทุกท่านออกเดินทางสู่ “LE VOYAGE” (เลอ โวยาจ) และได้ร่วมสำรวจคอลเลคชั่นนาฬิกาในปัจจุบันท้ังหมดของ PATEK PHILIPPE รวมไปถึงผลงานอีกหลากหลาย
ซึ่งโลกแห่งนาฬิกาสำหรับการเดินทางของ PATEK PHILIPPE ที่ถ่ายทอดผ่าน “LE VOYAGE” จะเปรียบเสมือนการได้พาผู้มีเกียรติทุกคน ออกเดินทางสู่ฉากอันแสนคลาสสิกและโรแมนติกของจุดเริ่มต้น ผ่านราชอาณาจักรแห่งนี้ โดยต้อนรับด้วยภาพแผนที่แห่งสยามอันเก่าแก่ ซึ่งทำหน้าที่เป็นหนึ่งในฉากหลังอันน่าประทับใจ จากการรวบรวมภาพเหตุการณ์อันสื่อถึงความหมายสาคัญต่างๆ ทันทีที่ผู้มีเกียรติได้ก้าวเข้าสู่เลาจน์ต้อนรับอันหรูหรา พร้อมการตกแต่งที่ถอดบรรยากาศชานชาลาเพื่อเป็นบาร์สำหรับพักรอ ก่อนที่จะได้เริ่มต้นการออกเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสองรูปแบบของการเดินทางหลักในอดีต
โดยพื้นที่แรกของการจัดแสดงนิทรรศการนั้นจะแบ่งออกเป็นเจ็ดส่วน โดยบอกเล่าถึงเหตุการณ์สำคัญที่เชื่อมโยงแต่ละก้าวของโรงงานการผลิตนี้อย่างใกล้ชิด ร่วมกับประวัติศาสตร์ของการกำหนดไทม์โซนต่างๆ รวมไปถึงอีกหลากหลายการพัฒนาของรูปแบบการเดินทางต่างๆ เริ่มที่การฉลองด้วยตราแห่งสถานีรถไฟกลาง (Central Railway Station) ของกรุงเทพฯ พร้อมทั้งการจำลองรถรางและตู้โดยสารขึ้นใหม่อย่างสวยงามโดยภายในตู้โดยสาร ยังจัดแสดงภาพผลงานทางประวัติศาสตร์ของนาฬิกาเวริล์ดไทม์ในอดีตเอาไว้ด้วย
และเมื่อเดินทางต่อเนื่องเข้าสู่พื้นที่จัดแสดงชุดกลไก โรงงานการผลิต ณ เจนีวาแห่งนี้ก็ได้มอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษ ผ่านการผสมผสานสื่อวีดิทัศน์บนแท่นเสาจัดแสดง ที่ถ่ายทอดภาพได้อย่างชัดเจนถึงความซับซ้อนของกลไกรุ่นบุกเบิกทั้งหกชุด ก่อนที่จะออกเดินทางต่อเพื่อค้นพบกับการสาธิตที่ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นจากช่างนาฬิกาของ PATEK PHILIPPE ผู้ซึ่งเชี่ยวชาญและสามารถอธิบายได้ถึงเทคนิคและความซับซ้อนของกลไกคาลิเบอร์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี และถัดมาจึงเป็นการต้อนรับผู้มีเกียรติด้วยส่วนของ Digital Animated Movement และ Creativity ซึ่งจัดแสดงถึงฟังก์ชั่นและองค์ประกอบต่างๆ ของกลไกผ่านหน้าจอมัลติมีเดียแบบอินเตอร์แอคทีฟอันแสนดึงดูดใจ และช่วยให้ผู้มีเกียรติสามารถซูมขยายภาพและมีส่วนร่วมได้อย่างสะดวกและใกล้ชิดยิ่งขึ้น
จากน้ันจึงเดินทางต่อสู่ตู้จัดแสดงพร้อมหน้าจอแบบบิลท์อินภายในห้อง Creativity ซึ่งถ่ายทอดถึงความโดดเด่นและความสวยงามอันน่าอัศจรรย์ ของบรรดานาฬิกาสำหรับการเดินทางที่รังสรรค์ขึ้นโดย PATEK PHILIPPE นับต้ังแต่การออกแบบตัวเรือน ตลอดจนถึงการสร้างสรรค์รูปทรงเข็มนาฬิกาสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมทั้งการประดับและตกแต่งหน้าปัดนาฬิกา จนมาถึงห้องแสดงสุดท้ายคือการจัดแสดงนาฬิกาแบบ Advanced Research โดยแสดงผ่านวิดีโอแบบอินเตอร์แอคทีฟอย่างละเอียดลออถึงองค์ประกอบของแต่ละชิ้นส่วน ที่ยืดหยุ่นและยืดขยายได้ซึ่งนับเป็นความมหัศจรรย์ทางเทคนิคจาก PATEK PHILIPPE
ปิดท้ายด้วยส่วนของรถไฟที่อุทิศให้กับการเดินทางแห่ง “LE VOYAGE” ด้วยห้องโปสการ์ดอันอบอุ่นที่ฉายแสดงภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ของ PATEK PHILIPPE ซึ่งไม่เคยเผยแพร่ต่อสาธารณชนในวงกว้างมาก่อน โดยถ่ายทอดเรื่องราวและภาพการเดินทางของครอบครัว Stern ผู้เป็นเจ้าของโรงงานการผลิตแห่งนี้นับแต่ยุคทศวรรษ 1930 จวบจนถึงปัจจุบัน เพื่อเดินทางไปพบกับผู้ประกอบการ ตัวแทนจำหน่าย เหล่าลูกค้า และนักสะสม ผู้ซึ่งหลงใหลในแบรนด์และเพื่อค้นพบต้นกำเนิดของแรงบันดาลใจใหม่ๆ มาโดยตลอด