HUBLOT Classic Fusion 42MM Elements Special Edition for THE HOUR GLASS
ในฐานะพันธมิตรมากว่า 40 ปี HUBLOT และ THE HOUR GLASS จึงร่วมกันอีกครั้งเพื่อเปิดตัวนาฬิกาเอดิชั่นพิเศษ ซึ่งผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์เฉพาะของหน้าปัดหินธรรมชาติ เข้ากับคอลเลคชั่นอันเป็นสัญลักษณ์ของ HUBLOT อย่าง Classic Fusion ด้วยความกล้าในการเดินหน้าทดลองสิ่งใหม่เสมอ ซึ่ง HUBLOT ได้เลือกธาตุทั้งห้าตามธรรมชาติมาเพื่อแสดงออก และถ่ายทอดถึงตัวตนภายใต้ความสวยงามเหนือจินตนาการ รวมถึงวิถีแห่งการสร้างสรรค์อันมีชีวิตชีวาและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจ ที่ล้วนเป็นหัวใจของปรัชญาแห่งการพัฒนาของแบรนด์นั่นคือ ‘Art of Fusion’ (ศิลปะแห่งการผสมผสาน) ที่โดดเด่นด้วย Tiger’s eye (หินตาเสือ), Red Jasper (ควอท์ซแดง), Malachite (มาลาไคต์), Turquoise (เทอร์ควอยซ์) และ Lapis Lazuli (ลาพิส ลาซูลี)
โดยนาฬิการุ่นพิเศษนี้จะมีตัวเรือนที่ผลิตจากไทเทเนียม ที่ตกแต่งด้วยงานขัดแต่งแบบซาตินสลับแบบขัดเงา พร้อมด้วยเม็ดมะยมและหูขอบตัวเรือนที่ผลิตจากคิงโกลด์แบบขัดเงา โดยหน้าปัดหินเหล่านี้ได้เผยความสวยงามและเอกลักษณ์อันโดดเด่นเฉพาะตัวตามธรรมชาติอย่างแท้จริง ด้วยประกายรัศมีอันเจิดจรัสของแต่ละหน้าปัด ที่เติมเสน่ห์และความโดดเด่นด้วยการผสมผสานองค์ประกอ เช่น สกรูว์บนขอบตัวเรือนรูปทรง ‘H’ ที่ผลิตจากคิงส์โกลด์แบบขัดเงา รวมถึงเข็มแสดงเวลาชั่วโมง นาที และวินาที สีทองขัดเงาวาว คงไว้ซึ่งความแน่วแน่กับปรัชญา ‘Art of Fusion’ ที่ HUBLOT ได้แสดงออกอีกครั้งถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะ ในการผสมผสานระหว่างวัสดุธรรมชาติและวัสดุไฮเทคล้ำสมัย
ซึ่งการตัดแร่แต่ละชิ้นจากธรรมชาติอย่างประณีต จะทำให้หน้าปัดแต่ละชิ้นนั้นมีความโดดเด่นของลวดลายเฉพาะตัว และยังทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนไม่มีโอกาสที่จะมีลักษณะที่เหมือนหรือซ้ำกัน ตั้งแต่Tiger’s Eye ที่มีเสน่ห์จากลายเส้นสีเหลือง ทอง และน้ำตาล ที่คล้ายราวกับขนของเสืออันมีเอกลักษณ์ และเมื่อผ่านการตัดและขัดอย่างพิถีพิถันพร้อมความละเอียดอ่อนแล้วTiger’s Eye ยังได้มอบผลลัพธ์ของหน้าปัดที่สะท้อนความอบอุ่นและดึงดูดใจ ทั้งยังอาบไว้ด้วยบุคลิคสไตล์เอิร์ธโทนได้อย่างงดงามและเปี่ยมด้วยพลัง
ส่วน Red Jasper นั้นจะมีชื่อเสียงและคุณสมบัติในด้านการรักษาพร้อมบำบัดฟื้นฟู โดยมีความสวยงามจากเฉดสีแดงสดใสมีชีวิตชีวา และยังคงถูกเลือกสวมใส่เป็นดั่งเครื่องรางนำโชคของผู้คนทั่วโลก ในด้านของ Malachite นั้นจะมีเอกลักษณ์ของสีเขียวสดที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย และเป็นที่นิยมตลอดช่วงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ จากทั้งคุณสมบัติด้านความสวยงามสำหรับเครื่องประดับตกแต่งและในทางพิธีกรรม โดยเฉดสีเขียวอันเปล่งประกายนี้ชวนให้นึกถึงผืนป่าอันเขียวขจีและเขียวชอุ่มไปด้วยแมกไม้
สำหรับ Turquoise นั้นเป็นชื่อที่มาจากภาษาฝรั่งเศสโบราณว่า “turkeise” ซึ่งมีความหมายว่า “Turkish” (ตุรกี) ด้วยเพราะเป็นแร่ธรรมชาติชนิดแรก ที่ถูกนำเข้าสู่ยุโรปผ่านตุรกีจากเหมืองต่างๆ ทางตะวันออกกลาง โดยมีเฉดสีฟ้าอันโดดเด่นและแตกต่างของเทอร์คอยซ์ ที่ถูกนำมาใช้ผสมผสานกับงานออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมทั่วโลก เพื่อมอบซึ่งมิติอันงดงามและยิ่งใหญ่ และสุดท้ายกับ Lapis Lazuli ในโทนสีโคบอลต์บลู (cobalt blue) เฉดสีน้ำเงินเข้มที่ถูกเลือกใช้โดยเหล่าราชวงศ์ สำหรับเครื่องประดับและการตกแต่งตลอดช่วงเวลาหลายศตวรรษ และเมื่อถูกขัดเงาแล้วจะมีประกายระริบระยับในเฉดสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งมอบภาพราวดั่งท้องฟ้ายามราตรีที่พร่างพราวระยิบระยับไปด้วยมวลหมู่ดาวมากมาย
นาฬิกาเอดิชั่นพิเศษในครั้งนี้จะมีจำนวนการผลิตแบบจำกัดเพียง 10 เรือนสำหรับในแต่ละเวอร์ชั่นหน้าปัด ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ HUB1100ที่ความถี่ 4 เฮริทซ์ พร้อมความสามารถของพลังสำรองลานนาน 42 ชั่วโมง โดยสามารถมองเห็นกลไกการทำงานได้ ผ่านทางกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลังกรอบไทเทเนียม ที่ตกแต่งด้วยงานปัดแบบซาตินพร้อมการแกะสลักข้อความ “SPECIAL EDITION” “XX/10” โดยรอบขอบฝาหลัง ใช้งานคู่กันกับสายหนังจระเข้สีดำผสานยาง และเย็บตะเข็บด้วยเส้นทองคำ 5N และหัวเข็มขัดแบบบานพับ
HUBLOTClassic Fusion 42mm Elements Special Edition for The Hour Glass จะมีจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่บูติคแห่งต่างๆ ของ The Hour Glass ในสิงคโปร์ มาเลเซีย และบูติคของ PMT The Hour Glass ในประเทศไทย โดยในหน้าปัดแบบ Tiger’s Eye จะเป็น Ref. 542.NX.849E.LR.THG21 ในราคาจำหน่ายที่ 700,000 บาท, Red Jasper ใน Ref. 542.NX.849J.LR.THG21 ราคา 700,000 บาท, Malachite ใน Ref. 542.NX.849M.LR.THG21 ราคา 700,000 บาท,
Turquoise Ref. 542.NX.849T.LR.THG21 ราคา 811,000 บาท และ Lapis Lazuli ใน Ref. 542.NX.849L.LR.THG21 กับราคาที่ 811,000 บาท