CARTIER Les Éléments
CARTIER จัดแสดงคอลเลคชั่นไฮจิวเวลรี่กว่า 200 ชิ้นจากหลากหลายคอลเลคชั่นภายใต้คอนเซ็ปท์ Les Éléments หรือ The Elements ที่เป็นการรวบรวมเครื่องประดับชั้นสูง ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในแบบของ CARTIER พร้อมการบอกเล่าเรื่องราวของไฮจิวเวลรี่ทั้งหมด ผ่านองค์ประกอบทั้งสี่ของโลกอันได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งเป็นเสมือนปัจจัยล้ำค่าของทุกสรรพสิ่ง เช่นเดียวกับ CARTIER ที่ได้รังสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงที่เป็นเสมือนผลงานทางศิลปะอันล้ำค่า ที่จะคงอยู่และกลายเป็นมรดกที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น
เครื่องประดับชั้นสูงหรือไฮจิวเวลรีของ CARTIER มีเอกลักษณ์และความเป็นมาเฉพาะตัว โดยมีเบื้องหลังในการรังสรรค์ที่ก่อกำเนิดขึ้น ณ สตูดิโอสร้างสรรค์ของ CARTIER ใจกลางปารีส สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งตัดขาดจากความวุ่นวายของโลกภายนอก ที่บรรดานักสร้างสรรค์และเหล่าดีไซเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญทางหัตถศิลป์ต่างๆ มารวมตัวกันเพื่อสานต่อคุณค่าของเมซง พร้อมความรู้แจ้งทางด้านงานฝีมือและวัสดุต่างๆ ที่ถือเป็นพลังงานอันทรงอานุภาพประจำแผนกอัญมณี
จุดเริ่มต้นการรังสรรค์ทุกงานศิลป์ ที่เป็นบ่อเกิดแห่งแรงบันดาลใจที่สร้างชิ้นงานอันประณีต จนไม่เหลือช่องว่างให้ความผิดพลาดใดๆ โดยเหล่าอัญมณีล้ำค่าและวัสดุธรรมชาติที่ CARTIER เลือกใช้ล้วนตอบโจทย์เกณฑ์จำเพาะที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งนอกจากคุณภาพที่เหนือใครแล้ว ยังต้องเป็นอัญมณีเม็ดเดี่ยวที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทั้งประกายน้ำและความเข้มจัดของสี และยังเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณที่จะยิ่งช่วยขับเน้นเสน่ห์และลักษณะเฉพาะตัวให้อัญมณีเจิดจรัสราวกับมีชีวิต
โดยซัพพลายเออร์ทั่วโลกต่างตระหนักดีว่า CARTIER ต้องมีมาตรฐานด้านคุณภาพที่สูงที่สุด และจะสงวนอัญมณีล้ำค่าหายากที่เข้าเกณฑ์ไว้สำหรับเมซง CARTIER โดยเฉพาะ เนื่องจากไฮจิวเวลรีแต่ละชิ้นของ CARTIER จะมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และการถ่ายทอดภาพวาดของชิ้นงานให้ออกมาเป็นชิ้นงานจริงเหล่านี้ ต้องอาศัยความใส่ใจในการเลือกรูปแบบการฝังอัญมณีให้ตรงกับผลลัพธ์ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการฝังแบบ Grain, การฝังแบบ Claw, การฝังแบบ Fur, การฝังแบบ Bezel, การฝังแบบ Closed, การฝังแบบ Angled และอีกหลากหลายรูปแบบ
โดยต้องทำให้เกิดสมดุลยภาพตามขนาดชิ้นงานโดยมีเทคนิคพิเศษประจำแผนกไฮจิวเวลรีของCARTIER ที่เรียกว่าโอเพ่นเวริ์ค (Openwork) เป็นส่วนสำคัญ ที่ช่างจะเพิ่มช่องว่างเล็กๆ ไว้ใต้ฐานของอัญมณีทุกเม็ดเพื่อให้แสงส่องผ่านได้ และทำให้อัญมณีทุกเม็ดยังส่องประกายระยิบระยับล้อแสงยิ่งขึ้น เพราะไฮจิวเวลรีสำหรับ CARTIER นั้นหมายถึงศิลปะของสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยเช่นกัน ดังนั้นข้อต่อชิ้นเล็กชิ้นน้อยจึงถูกซ่อนเอาไว้อย่างประณีตบรรจง เพราะยามเมื่อสวมใส่นั้น เครื่องประดับสูงค่าก็จะเปรียบราวกับเสื้อผ้าอาภรณ์ที่ลื่นไหลขยับไปกับผิวกาย
โดยชิ้นงานจะถูกส่งมอบให้ช่างขัดเคลือบเงา ผ่านขั้นตอนกลับไปกลับมาหลายครั้ง ทั้งก่อนและหลังการประกอบแต่ละขั้นตอน ตลอดจนหลังการฝังและหลังการเก็บความเรียบร้อยของชิ้นงานในขั้นตอนสุดท้าย โดยดีไซเนอร์จะทำงานร่วมกับทั้งเมซงอย่างใกล้ชิด ตลอดทุกขั้นตอนการสร้างสรรค์เพื่อให้มั่นใจว่าชิ้นงานจะยังคงสะท้อนรูปแบบตามแนวคิดแรกเริ่มได้อย่างครบถ้วน
นิทรรศการ Les Éléments หรือ The Elements จะเป็นการเล่าเรื่องไฮจิวเวลรี่ผ่านทฤษฎีปฐมธาติ หรือธาตุทั้งสี่ของโลก ที่เป็นเสมือนปัจจัยของทุกสรรพสิ่งบนโลกทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น หนึ่งชีวิตไม่สามารถเติบโตและอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากปราศจากการพึ่งพาอาศัยองค์ประกอบอื่นๆ ในปฐมธาติเหล่านี้ เมื่อรวมกันจึงได้สรรสร้างมรดกต่างๆ ให้กับโลกใบนี้ เช่นเดียวกับ CARTIER ที่ได้รังสรรค์เครื่องประดับชั้นสูงที่เป็นเสมือนผลงานทางศิลปะอันล้ำค่า ที่จะคงอยู่และกลายเป็นมรดกที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น
ดังนั้นบริเวณนิทรรศการจึงประกอบไปด้วยเครื่องประดับกว่า 200 ชิ้นจากหลากหลายคอลเลคชั่น เพราะสำหรับ CARTIER แล้ว การสร้างสรรค์เครื่องประดับอัญมณี อาจตีความได้ว่าเป็นภารกิจแห่งการส่งต่อความคลาสสิคเหนือกาลเวลา จากช่างฝีมือคนรุ่นเก่าที่สุดสู่ช่างฝีมือรุ่นใหม่ที่สุด ทว่ายังเป็นการส่งต่อที่ร่วมสมัยในเวลาเดียวกัน งานฝีมือที่ผลิตขึ้นตามขนบธรรมเนียมประเพณี ได้ถูกอนุรักษ์ไว้ด้วยผลงานที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ซึ่งได้รับมาด้วยภูมิปัญญาผนวกเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสานต่องานหัตถศิลป์ที่จะสร้างคุณลักษณะพิเศษให้กับชิ้นงานไฮจิวเวลรี่ของ CARTIER ต่อได้ในอนาคต