iamwatch

30 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน ด้วยความร่วมมือของรัฐเจนีวา เหล่าแบรนด์นาฬิกาหลากหลายต่างรวมตัวกันเพื่อจัดงาน GENEVA WATCH DAYS อีกครั้งซึ่งในปีนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งที่สองต่อจากปี 2020 ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้การจัดงานในช่วงต้นปีอย่างที่เคยเป็นมาตลอดในวงการนาฬิกา ต้องมีอันเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปจากเดิม ซึ่งช่วงเวลาต้นปีในทั้งสองปีที่ผ่านมาก็เป็นช่วงที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นไปอย่างมีนัยยะและทำให้กลุ่มนาฬิกาที่เคยจัดงานจากเดิมทั้ง WATCHES AND WONDERS (ชื่อเดิมคือ SIHH) รวมทั้ง BASELWORLD ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งรูปแบบและการจัดงานไปโดยปริยาย

และทำให้เกิดแนวคิดในการจัดงานในช่วงครึ่งปีหลังขึ้นจนเกิดเป็นงาน GENEVA WATCH DAYS ขึ้นเมื่อปีที่แล้วเป็นครั้งแรก จากการร่วมมือของรัฐเจนีวาและแบรนด์นาฬิกากลุ่มแรกที่ร่วมกันทำงานทั้ง BVLGARI, BREITLING, DEBETHUNE, GERALD GENTA, GIRARD-PERREGAUX, GREUBEL FORSEY, H.MOSER&CIE., MB&F, ULYSSE NARDIN และ URWERK จนกระทั่งเพิ่มเติมในปีนี้ทั้ง ARNOLD&SONS, BIENCHET, CZAPEK, DOXA, FERDINAND BERTHOUD, FREDERIQUE CONSTANT Group, LOUIS ERARD, MAURICE LACROIX, PARMIGIANI, ORIS และ REUGE

โดย www.iamwatch.net เป็นสื่อนาฬิกาเพียงหนึ่งเดียวจากประเทศไทย ที่เกาะติดสถานการณ์และนำภาพนาฬิกาเรือนจริงมานำเสนอ รวมทั้งบอกเล่าถึงความรู้สึกในการได้ชมนาฬิกาเรือนจริงเหล่านี้ ที่ผู้สนใจในเรื่องของนาฬิกาต่างก็ต้องการสัมผัสนาฬิกาเรือนจริงเหล่านี้ แม้ในภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ทั่วโลก และเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาในขณะนี้

PARMIGIANI เสริมทัพนาฬิกาในคอลเลคชั่น Tonda ด้วย Tonda PF อันมีที่มาจากชื่อของ PARMIGIANI Fleurier ทั้งนาฬิกาแบบอุลตราธินไมโครโรเตอร์ นาฬิกากลไกโครโนกราฟแบบอินทริเกรด หรือนาฬิกากลไกแอนนวลคาเลนดาร์ รวมทั้งกลไกแบบไฮคอมพลิเคชั่นอย่าง โครโนกราฟสปลิทเซคคันด์ ซึ่งทั้งหมดจะใช้กลไกอินเฮ้าส์ที่เคยบรรจุอยู่ในนาฬิการุ่นต่างๆ พร้อมการปรับเปลี่ยนให้ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับนาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้ พร้อมความสะดวกสบายจากขนาดของตัวเรือนที่เหมาะกับข้อมือ รวมไปถึงขาตัวเรือนและสายที่เต็มไปด้วยดีเอ็นเอของ PARMIGIANI ที่จะทำให้คอลเลคชั่นนี้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น

ส่วน URWERK ก็นำเสนอเรือนเวลารุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางปีกับ UR-220 SL Asimov กับความเรืองแสงของสเกลแสดงเวลา และชุดแสดงเวลา รวมทั้งหัวเข็มชี้ นอกจากนี้ยังพิเศษด้วยชุดแสดงการใช้งานของนาฬิกาด้านหลังตัวเรือน เพื่อช่วยให้ทราบถึงช่วงเวลาการใช้งานนาฬิกามาแล้ว และสามารถส่งกลับเข้าบำรุงรักษาได้หลังจาก 36 เดือนไปแล้ว โดยมี UR-100 Electrum กับภาพลักษณ์ของทองคำพร้อมลายเส้นกลมรอบขอบตัวเรือน ที่มีแรงบันดาลใจมาจากหลากหลายอารยะธรรมโบราณ

LEDERER สองสามีภรรยา Bernhard Lederer และ Ewa Lederer ผู้เป็นเจ้าของนาฬิกาแบรนด์ BLU ก่อนหน้านี้ นำเสนอนาฬิกากลไกจากแรงบันดาลใจของ George Daniels ในเรื่องของเซ็นทรัลอิมพัลส์โครโนมิเตอร์ กับนาฬิกาที่มีตัวเรือนบางเฉียบ โดยมีกระจกแซฟไฟร์ด้านหน้าทรงบ๊อกซ์ พร้อมกับกระจกแซฟไฟร์ด้านหลังทรงบ๊อกซ์เช่นเดียวกัน กับความสวยงามแบบปฏิเสธไม่ได้ของชุดกลไกด้านหลัง ที่มีชิ้นบริจด์กลางพร้อมบาลานซ์วีลขนาดใหญ่ที่เด่นเป็นสง่า ตั้งตรงมาจากแกนเม็ดมะยม พร้อมบาเรลสองชุดขนาบแกนเม็ดเอาไว้ ซึ่งถ้าได้เห็นเรือนจริงคงปฏิเสธไม่ได้ว่างดงามตระการตาในทันทีที่เห็นจริงๆ

และในปีนี้กับการก้าวหน้าของคอลเลคชั่น Streamliner จาก H. MOSER & CIE. สู่การใช้งานควบคู่กับกลไกไขลานเพอเพทชวลคาเลนดาร์คาลิเบอร์ HMC812 ที่พัฒนามาจากคาลิเบอร์ HMC341 อันโด่งดังของแบรนด์ จากความเรียบง่ายแต่สามารถแสดงเวลาได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับนาฬิกาที่มีคาแรคเตอร์เรียบง่ายแต่ดูแข็งแกร่งของนาฬิกาในคอลเลคชั่นStreamliner รวมกันเป็น Streamliner Perpetual Calendar ที่จะเป็นนาฬิกาอีกหนึ่งเรือนที่จะมีเวทติ้งลิสท์ในตลาดอีกเช่นเคย

กรุณาติดตามบทความของ GENEVA WATCH DAYS 2021 ครั้งต่อไปในวันพฤหัสที่ 2 กันยายน