MAURICE LACROIX Pontos Chronograph Monopusher

 

MAURICE LACROIX ฉลองครบรอบ 20 ปีกับนาฬิการุ่น Pontos ที่วางขายเป็นครั้งแรกในปี 2000 ด้วยการนำ Pontos กลับมาตีความใหม่กับรุ่น Chronograph Monopusher ที่โดดเด่นด้วยลุควินเทจและผลิตในแบบจำนวนจำกัด ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความหรูหราร่วมสมัย ที่แสดงถึงมาตรฐานระดับสูงในการออกแบบโดย MAURICE LACROIX ได้เป็นอย่างดี

 

11. Maurice Lacroix Pontos 20th Anniversary Collection Pontos Chronograph monopusher

 

จิตวิญญาณของคอลเลคชั่นนี้ ฝังแน่นอยู่ในเส้นสายของนาฬิกาและตัวเรือนมาตั้งแต่แรก เป็นจิตวิญญาณแห่งความร่วมสมัยที่ยังคงไว้ซึ่งจารีตดั้งเดิมของศิลปะในการประกอบเรือนเวลาชั้นสูง ตลอดจนความรุ่มรวยทว่าไม่เป็นทางการจนเกินไป ผนวกกับความประณีตละเอียดอ่อนที่ไม่ขึ้นอยู่กับเล่ห์กลแห่งดีไซน์ ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยที่ซ่อนอยู่บนตัวเรือนทรงกลมนี้ แสดงถึงลักษณะเฉพาะตัวของ Pontos ได้อย่างชัดเจน

6 Maurice Lacroix Pontos 20th Anniversary Collection Pontos Chronograph monopusher

 

ตัวเรือนขัดเงาด้านหน้าและขัดลายซาตินบริเวณขอบด้านข้าง บนเม็ดมะยมแกะลายร่องแนวเกลียว ซึ่งทำให้นาฬิกามีลุคร่วมสมัยอย่างสมบูรณ์แบบ คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์แห่งการออกแบบของ MAURICE LACROIX ขาตัวเรือนสองชั้นเพิ่มมิติทางสายตา โดยชั้นบนเคลือบผิวและขัดลายซาติน และชั้นถัดมาที่เป็นขอบด้านนอกเคลือบผิวเงา ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งในเอกลักษณ์ของแบรนด์

 

5 Maurice Lacroix Pontos 20th Anniversary Collection Pontos Chronograph monopusher

 

ทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ ML166 โดดเด่นด้วยปุ่มโครโนกราฟปุ่มเดียว ที่สร้างความอสมมาตรและฉีกทุกกฎเกณฑ์ ที่เคยมีมาในนาฬิกากลไกโครโนกราฟจาก MAURICE LACROIX พร้อมลุคเข้มจากตัวเรือนสตีลพีวีดี และสีของหน้าปัดที่ไล่เฉดจากสีดำเข้ม ไปสู่สีเทาที่บริเวณกลางหน้าปัด โดยถูกคั่นด้วยมาตรสีแดงและมาตรวัดความเร็วสีฟ้ากลางหน้าปัด

  

12. Maurice Lacroix Pontos 20th Anniversary Collection Pontos Chronograph monopusher

 

เส้นทั้งสองทับซ้อนด้วยสองหน้าปัดย่อย สำหรับการจับเวลาเป็นหน่วยนาทีและวินาที สร้างเสน่ห์แห่งดีไซน์อันซับซ้อนที่ตรึงใจผู้ชื่นชอบสไตล์แบบดั้งเดิม อีกทั้งรายละเอียดการขัดแต่งของกลไก และโรเตอร์ที่ขัดลายซันเรย์และลายโคตส์เดอเจแนฟ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ผ่านทางกระจกแซฟไฟร์ บนฝาด้านหลังตัวเรือนอย่างงดงาม ผลิตในแบบจำนวนจำกัด 500 เรือนทั่วโลก และมีราคาจำหน่ายในประเทศไทยที่ 139,000 บาท

345