SIHH 2018 - MB&F MoonMachine 2 อีกครั้งกับการร่วมรังสรรค์โดย Sarpaneva

 

กลับมาอีกครั้งสำหรับ Stepan Sarpaneva นักประดิษฐ์นาฬิกาหัวสร้างสรรค์จากฟินแลนด์ซึ่งโด่งดังด้วยพระจันทร์มูนเฟสดวงโตดีไซน์รูปใบหน้าที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเองไม่ซ้ำใคร ผู้เคยร่วมสร้างงานปรับแต่งและตกแต่งบนนาฬิกา MB&F มาแล้วครั้งหนึ่งกับ MoonMachine ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2012 โดยนำเอารุ่น HM3 มาเป็นพื้นฐานในการสร้างงาน และผลงานครั้งที่สองของเขากับ MB&F ในครั้งนี้ พวกเขาได้เลือกเอารุ่น HM8 Can-Am มาเป็นพื้นฐานในการสร้างสรรค์

 

Maximilian Stepan

(ซ้าย) Maximilian Busser แห่ง MB&F และ (ขวา) Stepan Sarpaneva

 

MoonMachine  MoonMachine2 1

(ซ้าย) MoonMachine รุ่นแรก ; (ขวา)  MoonMachine 2

 

ย้อนดู HM8 Can-Am รุ่นมาตรฐานกันสักนิด

 

HM8 WT 1  HM8 RT 1

HM8 Can-Am รุ่นมาตรฐาน เรือนซ้ายเป็นเวอร์ชั่นตัวเรือนไวท์โกลด์ร่วมกับไทเทเนี่ยม เรือนขวาเป็นเวอร์ชั่นตัวเรือนเร้ดโกลด์ร่วมกับไทเทเนี่ยม

 

HM8 Can-Am เป็นนาฬิกากลไกอัตโนมัติที่ MB&F เปิดตัวออกมาครั้งแรกในปี 2016 โดยมีลักษณะของรถแข่งพลังสูงแห่งรายการ แคน-แอม ตำนานการแข่งขันรถแห่งแคนาดา-อเมริกา ที่เลิกจัดไปแล้ว เป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบ ประมวลออกมาเป็นลักษณะนาฬิกาสำหรับนักขับรถที่แสดงค่าเป็นตัวเลขชั่วโมงกับนาที ณ บริเวณด้านล่างของตัวเรือน โดยใช้ชิ้นปริซึมแซฟไฟร์สะท้อนภาพจากจานแสดงชั่วโมงและจานแสดงนาทีที่วางตัวอยู่ในแนวระนาบเหนือตัวเครื่อง ในลักษณะเดียวกับรุ่น HM5 กับ HMX แต่ได้กลับด้านกลไกเอาฝั่งโรเตอร์ที่เคยอยู่ด้านล่างขึ้นมาอยู่ทางด้านบนเพื่อให้มองเห็นได้ชัดๆ จากแผ่นกระจกแซฟไฟร์บานใหญ่ทางด้านหน้าในลักษณะเดียวกับรุ่น HM3 โดยใช้โรเตอร์เป็นรูปทรงขวานศึกอันเป็นอีกเอกลักษณ์ของ MB&F

 

 

กลายร่างเป็น MoonMachine 2

 

เมื่อการเพิ่มฟังก์ชั่นมูนเฟสแสดงด้วยพระจันทร์ดวงโตดีไซน์รูปใบหน้าในสไตล์ Stepan Sarpaneva เข้าไป คือ คอนเซ็ปต์ในการสร้างสรรค์นาฬิการุ่นนี้ แล้วพวกเขาจะวางตำแหน่งของมูนเฟสเอาไว้ตรงไหน และจะแสดงออกซึ่งความเป็น Sarpaneva ให้เห็นกันชัดๆ ได้อย่างไร นี่คือโจทย์ที่ท้าทายในการสร้างนาฬิการุ่นนี้

 

MoonMachine2 Ti Face

 

MB&F กับ Stepan Sarpaneva ตอบโจทย์นี้ด้วยการออกแบบให้จานมูนเฟสซึ่งดีไซน์เป็นพื้นสีน้ำเงินตกแต่งด้วยหมู่ดาวและติดตั้งชิ้นพระจันทร์ทองคำที่สลักนูนและตกแต่งด้วยมือเป็นหน้าพระจันทร์ในสไตล์ Sarpaneva 2 ชิ้น วางตัวอยู่ที่ตำแหน่งกึ่งกลางเหนือจานแสดงชั่วโมงกับนาที สะท้อนภาพผ่านชิ้นปริซึมแซฟไฟร์ที่เพิ่มเข้ามาอีกชิ้นหนึ่งโดยวางตัวอยู่ตรงกลางระหว่างปริซึมสำหรับชั่วโมงกับปริซึมสำหรับนาที ให้อ่านค่าเฟสของพระจันทร์ด้วยกรอบวงแหวนสีเงินที่ปรากฏอยู่บนปริซึม ซึ่งเป็นลักษณะของการทรงกลดตามสไตล์ Sarpaneva แต่ปริซึมสำหรับมูนเฟสไม่ได้มีการขยายขนาดขึ้น 20% เหมือนกับปริซึมชั่วโมงกับปริซึมนาทีนะครับ เพราะมันจะทำให้พระจันทร์ดูบิดเบี้ยวไป

 

MoonMachine2 4

 

คอมพลิเคชั่นมูนเฟส นี้ถูกสร้างขึ้นมาใหม่จากความร่วมมือของ Stepan Serpaneva กับทีมงาน MB&F โดยติดตั้งเพิ่มเติมเข้าไปร่วมกับกลไกแบบเดียวกับ HM8 Can-Am นั่นก็คือ กลไกอัตโนมัติ ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรองได้ 42 ชั่วโมง ซึ่งเป็นกลไกของ Girard-Perregaux ที่ทาง MB&F นำมาปรับแต่งและติดตั้งโมดูลแสดงเวลาเป็นชั่วโมงกับนาทีด้วยจานดิสก์ 2 ชุด ที่ MB&F พัฒนาขึ้นมาเข้าไป โดยจานชั่วโมงนั้นจะขยับแบบจัมปิ้ง ทั้งยังสามารถปรับตั้งเวลาได้ทั้งไปข้างหน้าและย้อนกลับเพื่อให้สะดวกต่อการตั้งเวลาและลดโอกาสการเกิดความเสียหายต่อกลไก

 

MoonMachine2 2

 

แม้จะได้พระจันทร์แล้วก็จริง แต่ถ้าพระจันทร์จะเล็กแค่นี้ก็เห็นจะแสดงออกซึ่งความเป็น Sarpaneva ไม่ได้เต็มที่ พวกเขาจึงออกแบบชิ้นโรเตอร์ขึ้นมาใหม่ให้เป็นแผ่นกลมขนาดใหญ่ซึ่งทำจากไทเทเนี่ยม โดยทำการฉลุโอเพ่นเวิร์คเป็นลักษณะของใยแมงมุมกระจายรัศมีออกจากศูนย์กลาง แต่เว้นพื้นที่ทรงกลมขนาดใหญ่เอาไว้สำหรับติดตั้งชิ้นทองคำขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.5 มม. ซึ่งสลักนูนและตกแต่งด้วยมือเป็นภาพหน้าพระจันทร์ เท่านั้นยังไม่พอยังออกแบบลวดลายสีเงินบนกระจกชิ้นบนให้เป็นโครงใยแมงมุมในลักษณะเดียวกันด้วย และเพื่อบ่งบอกว่าเป็นผลงานที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ MB&F กับ Sarpaneva ชิ้นแผ่นทองคำทรงกลมที่สลักด้วยชื่อของทั้งสองจึงถูกติดตั้งลงบนกระจกแซฟไฟร์ฝั่งด้านบน โดยแผ่นทองคำนี้ยังได้ออกแบบเป็นรูปทรงพระจันทร์ทรงกลดอันเป็นอีกซิกเนเจอร์หนึ่งของผลงานจาก Sarpaneva อีกด้วย

 

MoonMachine2 BlackTi Front

 

MoonMachine 2 ยังคงใช้ตัวเรือนที่มีรูปทรง ขนาดความกว้างและความยาว (49 x 51.5 มม.) พร้อมผนึกกระจกแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งด้านนอกและด้านใน จำนวนหลายแผ่น เช่นเดียวกับ HM8 Can-Am รุ่นมาตรฐาน ความแตกต่างจะมีแค่ความหนาของตัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อยเพียง 0.5 มม. จากเดิม 19 มม. เป็น 19.5 มม. อันเนื่องมาจากความหนาของตัวกลไกที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มเติมฟังก์ชั่นมูนเฟสเข้าไป และการเพิ่มปุ่มกดทรงสี่เหลี่ยมไว้ที่ด้านข้างของตัวเรือนฝั่งซ้าย ซึ่งใช้สำหรับปรับตั้งมูนเฟส

 

MoonMachine2 6

 

MoonMachine2 RG Front

 

MoonMachine2 Ti

 

ลิมิเต็ด เอดิชั่น 3 เวอร์ชั่น

 

MB&F MoonMachine 2 ถูกสร้างขึ้นมา 3 เวอร์ชั่น คือ:

1) ตัวเรือนไทเทเนี่ยมล้วน ; พระจันทร์ไวท์โกลด์ ; หมู่ดาวสีเงิน ; โรเตอร์เคลือบพีวีดีสีฟ้า

2) ตัวเรือนทูโทน ไทเทเนี่ยมเคลือบสีดำ ร่วมกับไทเทเนี่ยม ; พระจันทร์ไวท์โกลด์ ; หมู่ดาวสีเงิน ; โรเตอร์เคลือบพีวีดีสีน้ำเงิน

3) ตัวเรือนทูโทน เร้ดโกลด์ ร่วมกับไทเทเนี่ยม ; พระจันทร์เร้ดโกลด์ ; หมู่ดาวสีเร้ดโกลด์ ; โรเตอร์เคลือบพีวีดีสีเทาแอนทราไซต์

 

MoonMachine2 3

 

ทุกเวอร์ชั่นสวมคู่มากับสายหนังจระเข้สีดำที่เดินเย็บตะเข็บด้วยด้ายสีเดียวกับจานโอเพ่นเวิร์คบนโรเตอร์ ผลิตแบบจำนวนจำกัดเวอร์ชั่นละ 12 เรือน โดยวางราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 88,000 สวิสฟรังก์ (ยังไม่รวมภาษีขาย) สำหรับเวอร์ชั่นไทเทเนี่ยม

 

By: Viracharn T.