CHOPARD Alpine Eagle, The collection spreads its wings

 

CHOPARD เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่สามรุ่นในคอลเลคชั่น Alpine Eagle พร้อมสายที่ผนึกมาพร้อมกับตัวเรือน ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 โดยมีสองเรือนใน 2 ขนาดใหญ่ พร้อมตัวเรือนที่มีให้เลือก ทั้งในแบบโรสโกลด์ ทูโทน หรือแบบสตีลล้วน (ลูเซนท์สตีล A223) และมีในแบบประดับเพชรที่ขอบเบเซิลเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพิ่มเติม โดยทำงานด้วยกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติ ที่ได้รับการรับรองความเที่ยงตรงในระดับโครโนมิเตอร์

 

5 thumbnail

 

โดย Alpine Eagle มีดีไซน์และรูปแบบ ทั้งตัวเรือน หน้าปัด และสายนาฬิกา  ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพลังของนกอินทรีย์และเทือกเขาแอลป์ โดยกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต และการประกอบ ตลอดจนถึงตรวจสอบคุณภาพก่อนการส่งมอบ จะกระทำขึ้นในโรงงานของ CHOPARD โดยช่างฝีมือเยี่ยมในทุกด้าน ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ให้เกิดผลงานชิ้นเอกนี้ขึ้น

  

Alpine Eagle XL Chrono 298609 6001 1

 

Alpine Eagle ล้ำค่าและมีจริยธรรม โดยวัสดุแบบทองคำที่ใช้ จะผลิตขึ้นจากทองคำที่ขุดจากเหมืองแร่ ที่ผ่านการรับรองด้านจริยธรรม เช่นเดียวกันกับวัสดุทองคำในชิ้นงานทุกชิ้นจาก CHOPARD เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นของแบรนด์ ตั้งแต่เริ่มต้นการใช้แนวคิดนี้ในการผลิตในเดือนกรกฏาคมปี 2018 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งรวมไปถึงนาฬิกาในตัวเรือนแบบทูโทน ลูเซนท์สตีล A223 กับโรสโกลด์

Alpine Eagle XL Chrono 298609 3002 3

ส่วนรุ่นล่าสุดที่นำเสนอในปี 2020 นี้จะเป็นในรูปแบบตัวเรือนโรสโกลด์พร้อมหน้าปัดสีน้ำเงิน (Aletsch Blue) ที่ระลึกถึงธารน้ำแข็งอัลไพน์ที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ในขณะที่อีกรุ่นจะมาพร้อมกับหน้าปัดสีเทา (Bernina Grey) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเทือกเขา ที่ทอดยาวระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี โดยมีเบเซิลที่ประดับด้วยเพชร เพื่อให้มีความหรูหรามากขึ้นสำหรับนาฬิกาในคอลเลคชั่นนี้

 

Alpine Eagle Large 295363 5001 1

 

ทั้งยังมาพร้อมกับกลไกอินเฮ้าส์อัตโนมัติคาลิเบอร์ 01.01-C ที่ให้พลังสำรองลานนาน 60 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นจากการวิจัยและความเชี่ยวชาญอันยาวนานของ CHOPARD และยังได้รับการรับรองความเที่ยงตรง ในระดับโครโนมิเตอร์โดย COSC ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในการรับประกันด้านความมั่นใจต่อนาฬิกาเรือนนี้โดย Karl-Friedrich Scheufele ประธานร่วมของ CHOPARD และผู้สร้างคอลเลกชั่น Alpine Eagle นี้ขึ้น

 

Alpine Eagle Large Chopard Movement 01.01 C

นอกจากนี้ Alpine Eagle ยังมอบความบริสุทธิ์และกระจ่างใส ผ่านนาฬิกาในขนาด 36 มิลลิเมตรให้กับสุภาพสตรีทุกคน โดยมีการแนะนำนาฬิการุ่นล่าสุด ที่มีตัวเรือนที่ผลิตจากลูเซนท์สตีล A223 พร้อมหน้าปัดสีน้ำเงิน (Aletsch Blue) ที่สว่างไสวขึ้นด้วย การประดับเพชรบนขอบเบเซิล ที่ช่วยทำให้นาฬิกาสปอร์ทลักซ์ชัวรี่รุ่นนี้ ดูอ่อนโยนและน่าทนุถนอมมากขึ้นในอีกระดับ

 

Alpine Eagle Large 295363 5001 back

 

โดยลูเซนท์สตีล A223 เป็นโลหะผสมเหล็กกล้าแบบใหม่ ที่เป็นนวัตกรรมเฉพาะของ CHOPARD ซึ่งสร้างขึ้นโดยกระบวนการขึ้นรูปแบบใหม่ ที่ทำให้ได้โลหะที่ส่องสว่าง แข็งแรง และป้องกันการแพ้ที่มักเกิดขึ้นกับข้อมือในกรณีของสตีลโดยทั่วไป โดยทาง CHOPARD โดยทีมวิจัยและพัฒนา ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4 ปีเพื่อแสวงหาวัสดุที่มีค่าราวกับทองคำ และช่วยเปล่งประกายเพชรให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

Alpine Eagle Large 295363 5001 2

คอลเลกชั่น Alpine Eagle สร้างขึ้นโดยสุภาพบุรุษสามรุ่นในตระกูล Scheufele ซึ่งถือเป็นการตีความใหม่ที่ทันสมัยจากนาฬิการุ่น St. Moritz ซึ่งเป็นหนึ่งในการสร้างสรรค์นาฬิกาเรือนแรกของ Karl-Friedrich Scheufele จากการออกแบบที่บริสุทธิ์และกล้าแสดงออก Alpine Eagle จึงสะท้อนให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาในเชิงสร้างสรรค์ พร้อมจิตวิญญาณที่มีวิสัยทัศน์ของ CHOPARD

Alpine Eagle Large 295363 5002 3

รวมไปถึงการดึงเอาแรงบันดาลใจจากพลังแห่งธรรมชาติ และทำให้เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะกับคุณสุภาพบุรุษและคุณสุภาพสตรีที่มีความทะเยอทะยาน และต้องการสิ่งที่ดีกว่าในชีวิตประจำวัน พร้อมมีวิสัยทัศน์ในการที่จะสร้างแรงบันดาลใจ และพร้อมจะยกระดับชีวิตให้ดียิ่งขึ้นกว่าที่เคยเป็น ด้วยนาฬิกา CHOPARD Alpine Eagle บนข้อมือในทุกๆ วันของชีวิต 

 

1 Alpine Eagle Small 298601 3004 2