iamwatch

Twitter

ในช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา MB&F ได้ร่วมมือกับช่างนาฬิกา ที่มีความสามารถมากที่สุดในยุคนี้ตั้งแต่ Kari Voutilainen, Eric Coudray, Stephen McDonnell, Jean-Marc Wiederrecht และ Stepan Sarpaneva พร้อมนักออกแบบและศิลปินตั้งแต่ Eric Giroud ผู้ที่ทำงานร่วมกันมาอย่างยาวนานและ Alain Silberstein ผู้มีเอกลักษณ์ ไปจนถึงประติมากร Xia Hang หรือจิตรกรร่วมสมัยอย่าง Sage Vaughn

และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ MB&F นำผลงานของช่างฝีมือแบบดั้งเดิม มาร่วมทำงานด้วยกับนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุด LM Split Escapement 'Eddy Jaquet' Limited Edition: กับชิ้นงานผลิตในจำนวน 8 ชิ้นที่ไม่เหมือนใคร ที่มีทั้งจินตนาการ และทักษะที่ไม่ธรรมดาของช่างแกะสลักที่มีชื่อเสียง ที่รู้จักกันดีจากผลงานภาพประกอบในนวนิยายอันโด่งดังของ Jules Verne

ผลงานที่น่าจดจำที่สุดของ Jaquet นั้นจึงโดดเด่นด้วยความลึกของขอบเขต และความทะเยอทะยานของมนุษย์ ในรูปแบบคลาสสิคและมีความกล้าหาญ โดย Max Büsser กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “ในขณะที่เรากำลังระดมความคิดกันอยู่บนโต๊ะ และธีมที่อยู่ในใจที่ผุดขึ้นมาในทันทีก็คืองานเขียนของ Jules Verne เพราะผมเองก็ชอบนิยายวิทยาศาสตร์มาก แล้วถ้า MB&F ก่อตั้งเมื่อ 150 ปีก่อนหละ หน้าตาจะเป็นยังไง”

เนื่องจากการมีพื้นผิวของหน้าปัดที่กว้างพอสำหรับการแกะสลัก Legacy Machine Split Escapement (LM SE) จึงเป็นตัวเลือกสำหรับการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ โดยนำเรื่องราวจากนวนิยายของ Jules Verne 8 เรื่องมาแสดงในนาฬิการุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นนี้ ซึ่งรวมถึงผลงานยอดนิยมของเขาเช่น Twenty Thousand Leagues Under The Sea และรวมไปถึงเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเช่น The Adventures of Captain Hatteras อีกด้วย

สิ่งที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งคือความจริงที่ว่า ภาพเหล่านี้จาก Jaquet ไม่ได้มาจากงานศิลปะที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่ Jaquet ใช้จินตนาการและสร้างขึ้น หลังจากอ่านหนังสือต้นฉบับ ดูภาพยนตร์ และงานสร้างสรรค์ที่อ้างอิงจากหนังสือของ Jules Verne แล้วจึงนำมาการแกะสลักงานแต่ละชิ้น จากฉากที่ซับซ้อนและช่วงเวลาสำคัญของเรื่องราวต่างๆ ท่ามกลางกลไกของนาฬิกา LM SE

Jaquet ไม่เพียง แต่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะด้านการแกะสลักอย่างเต็มที่ แต่เขายังต้องเข้าใจในข้อจำกัดของกลไกใน LM SE เนื่องจากพื้นที่แกะสลักที่กำหนด คือแผ่นหน้าปัดที่มีพื้นผิวด้านบนที่ราบเรียบ ในขณะที่อีกด้านจะมีมีความหนาแปรผัน จากเหตุผลด้านการรองรับส่วนประกอบชิ้นต่างๆ ของกลไก ดังนั้น การแกะแผ่นหน้าปัดให้หนาเท่ากันอย่างที่ปกติจะเป็นนั้น จึงเป็นไปไม่ได้กับการทำงานในครั้งนี้

โดยเรื่องราวของ Jules Verne ทั้ง 8 เรื่องในซีรีส์นาฬิการุ่นนี้ได้แก่ สองหมื่นโยชน์ใต้ทะเล, จากโลกสู่ดวงจันทร์, แปดสิบวันรอบโลก, ห้าสัปดาห์ในบอลลูน, การผจญภัยของกัปตัน Hatteras, การเดินทางสู่ใจกลางโลก, Michael Strogoff และ Robur ผู้พิชิต ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความกล้าหาญ อย่างที่ Maximilian Büsser ผู้ก่อตั้ง MB&F คิดว่าเขาจะสร้างนาฬิกาอะไรถ้าเขาเกิดในปี 1867 แทนที่จะเป็น 1967

และเนื่องจากกลไกของ LM SE ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงความสวยงามและความคลาสสิค พร้อมทั้ง มีความสมมาตรโดยมีบริจด์เป็นส่วนประกอบที่โดดเด่นและสำคัญ แต่ก็ยังคงเน้นความเรียบง่ายอย่างน่าทึ่ง ในการเชื่อมโยงกันอย่างสร้างสรรค์และกล้าหาญของ Jules Verne, MB&F และ Eddy Jaquet โดยมี Legacy Machine Split Escapement เรือนนี้เป็นสื่อกลาง

Eddy Jaquet