INTERVIEW WITH Charris Yadigaroglou of MB&F

 

เชื่อว่าผู้นิยมนาฬิกากลุ่มอินดี้คงเคยเห็นภาพของ HM5 ผลงานนาฬิกาสุดแนวรุ่นที่ 5 จากซีรี่ส์ Horological Machine ของผู้ผลิตที่ชื่อว่า MB&F กันไปบ้างแล้ว และก็คงได้เห็นข้อมูลในแง่มุมต่างๆ ของนาฬิการุ่นนี้กันไปบ้างแล้วเช่นกันแต่อาจยังไม่ได้อารมณ์อินกับนาฬิกาเรือนนี้อย่างเต็มที่ IAMWATCH มีโอกาสพบกับ Mr. Charris Yadigaroglou ประธานเจ้าหน้าที่สื่อสารของ MB&F คราวที่เขาถือ HM5 เรือนจริงมาอวดโฉมให้นักสะสมนาฬิกาชาวไทยได้สัมผัสกันเมื่อเร็วๆ นี้ เขาได้เล่าให้เราฟังเพิ่มเติมและตอบคำถามที่เราสงสัยเกี่ยวกับนาฬิการุ่นนี้ซึ่งหลายข้อก็ไม่ได้เป็นข่าวประชาสัมพันธ์ที่ส่งออกตามสื่อต่างๆ จนทำให้เราต้องหันมามองนาฬิการุ่นนี้ในอีกหลายแง่มุมเลยทีเดียว มาติดตามกันนะครับ

 

IAW: ผมรู้สึกได้ว่าผู้ชื่นชอบนาฬิกาชาวไทยหลายคนกำลังต้องการขยับตัวขึ้นไปหาอะไรที่แปลกใหม่มากขึ้น เขายังคงชื่นชอบ Vacheron Constantin, A. Lange หรือ Patek Philippe อยู่แต่ก็เริ่มรู้สึกว่าการซื้อนาฬิกาเหล่านี้เริ่มไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของพวกเขา เขาต้องการอะไรมากกว่านั้น ต้องการอะไรบางอย่างที่นาฬิกาของคุณมีแต่แบรนด์อื่นๆ อาจไม่มี ซึ่งเป็นกำแพงที่มองไม่เห็นขวางอยู่ทำให้ไม่กล้าที่จะพุ่งตรงเข้าไปหา IAMWATCH เองพยายามที่จะหาทางทลายกำแพงนี้ให้กับพวกเขาเช่นกัน เป็นความท้าทายของเราที่อยากจะเห็นอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นในวงการนาฬิกาเมืองไทย เราไม่อยากเห็นทุกคนมีแต่แบรนด์ยอดนิยมอย่างเดียว แต่ตรงข้ามมีความหลากหลายมากขึ้นในตลาด คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้?

 

เมื่อเทียบกับชาวสิงคโปร์หรือแม้แต่ชาวยุโรปแล้ว จริงอยู่ที่ขณะนี้คนไทยอาจเปิดใจรับแบรนด์ที่ตั้งใจสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่แปลกออกไปจากขนบประเพณีการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิมยากกว่า แต่เราก็ตั้งใจที่จะนำเสนอให้พวกเขาได้สัมผัสกับสิ่งที่เราเป็น อย่างการที่เรามุ่งมั่นที่จะมานำเสนอผลงานใหม่ของเราโดยตรงกับกลุ่มลูกค้าคนไทยที่สนใจนาฬิกาของเราด้วยความร่วมมือจาก PMT The Hour Glass ก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำ เราต้องทำความเข้าใจกับพวกเขาให้ลึกซึ้งถึงผลงานของเรา มิใช่เพียงแค่เสนอว่าเรามีนาฬิกาใหม่ แต่ต้องอธิบายอย่างถ่องแท้ว่าเราสร้างสรรค์มันขึ้นมาจากอะไร คอนเซ็ปต์คืออะไร ไปจนถึงกลไกอันเป็นหัวใจของนาฬิกา เรารู้ว่ามันยากในการอธิบายและแสดงให้เห็นสิ่งเหล่านี้ แต่ก็เป็นความท้าทายในมุมของเรา และก็หวังว่าพวกเขาจะเปิดใจรับ

 

 

DSC 00121

 

 

IAW: ตั้งแต่ HM5 เริ่มเปิดตัวผ่านสื่อต่างๆ ผมก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักสะสมนาฬิกาท่านต่างๆ ที่สนใจในนาฬิกาอินดิเพนเด้นท์ ฟีดแบ็คดีทีเดียวนะครับ หลายท่านให้ความสนใจมากทีเดียว แต่หลายท่านก็ทักว่า HM5 นี้ดูเหมือนว่าจะเป็นอะไรที่เรียบง่ายที่สุดตั้งแต่ MB&F ทำนาฬิกาออกมา

 

ทั้งใช่และไม่ใช่ครับ ถ้ามองในแง่กลไกอย่างเดียวอาจจะใช่ มันไม่มีอะไรซับซ้อนมากนักแค่เรานำมาจัดวางในรูปแบบที่เราต้องการ แต่สิ่งที่ซับซ้อนของ HM5 ก็คือ ดีไซน์ วิศวกรรมทางโครงสร้างของตัวเรือน และวิธีการแสดงผลที่เราภูมิใจนำเสนอมาโดยตลอดในทุกรุ่นกับรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป

 

 

DSC 00442

 

 

IAW: บางท่านกังวลถึงตัวบานเกล็ดเปิดได้ที่อยู่บนตัวเรือน ว่าจะทนทานเพียงใดหากใช้ไปนานๆ หรือไปกระทบกับอะไรเข้าในเวลาใส่ 

 

เราไม่แนะนำให้เปิดบานเกล็ดทิ้งไว้ขณะสวมใส่ตามปกติครับ มันมีเอาไว้เมื่อต้องการเปิดรับแสงไปชาร์จซูเปอร์ลูมิโนว่าบนจานดิสก์เท่านั้น เราบอกไว้ในคู่มือแล้วด้วยว่านาฬิกาเรือนนี้ไม่ใช่นาฬิกาสปอร์ตสำหรับใส่ลุยครับ

 

IAW: เกี่ยวกับสายก็มีหลายท่านสงสัย มันเป็นสายยางปกติธรรมดาเลยหรือครับ?

 

ผมถูกถามอยู่หลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ และก็ขอตอบว่ามันทำจากยางชนิดพิเศษที่มีคุณภาพสูง ไม่ใช่ซิลิโคน แปลกใจใช่มั้ยครับว่าทำไมมันถึงนุ่มและใส่สบายขนาดนี้ ต้องลองดูเองครับ 

 

IAW: ใช่ ฟีลลิ่งดีเกินยางปกติ แล้วดีไซน์ของรูบนสายล่ะครับ ตั้งใจสื่อถึงอะไร?

 

เป็นการนำดีไซน์มาจากดีไซน์ของส่วนประกอบต่างๆ ในรถยนต์ยุคทศวรรษที่ 1970 ซึ่งนำมารวมกับดีไซน์ของสายนาฬิกาในยุคนั้นที่ก็มีลักษณะนี้ออกมาอยู่มากเหมือนกัน อีกอย่างหนึ่งก็คือเพื่อให้เจ้าของสวมสบายไม่เหนอะหนะเพราะมีช่องโปร่งให้อากาศได้ระบาย

 

IAW: จะมีตัวเรือนวัสดุอื่นออกมาอีกใช่มั้ยครับ เพราะจากตัวเลขการผลิต 66 เรือนที่แจ้งออกมานี่ดูเหมือนจะน้อยไปหรือเปล่า

 

ชุดแรกของเราสำหรับปี 2012 จำนวน 66 เรือนจะเป็นตัวเรือนวัสดุเซอร์โคเนียมแบบนี้ แต่ปี 2013 คุณจะได้เห็นเอดิชั่นที่สองซึ่งอาจจะมากับรูปทรงที่เปลี่ยนไปก็ได้ เพราะตัวเรือนด้านนอกจะเป็นเหมือนกับเฟรมเท่านั้น ภายในยังคงเดิมแต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเรือนด้านนอกได้ สำหรับเวอร์ชั่นแรกนี้เป็นเหมือนกับตัวถังของรถซูเปอร์คาร์รุ่นแรกของโลก Lamborghini Miura ส่วนที่อยู่ภายใต้นั้นก็เหมือนเป็นแชสซีส์ของรถ ในอนาคตเราสามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงของตัวถังครอบได้อย่างหลากหลายซึ่งน่าสนุกมากครับ คราวหน้าอาจเป็น Countach หรือ Aventador ก็ได้ แต่เราไม่ได้มีอะไรกับ Lamborghini นะ อาจเป็นแบรนด์อื่นก็ได้ บางทีอาจจะไปร่วมงานกับสถาบันการออกแบบอย่าง Zagato, Bertone หรือ Pininfarina ก็น่าจะสนุกดีเหมือนกัน

 

 

DSC 00433

 

 

IAW: กระจกที่ใช้ใน HM5 นี่มีความพิเศษมาก ผู้ผลิตเป็นซัพพลายเออร์รายเดิมหรือเปล่า?

 

เป็นรายเดิมกับที่ทำกระจกแซฟไฟร์ให้ HM4 ครับ สำหรับ HM5 นี้ มันทำยากมากเลยทีเดียว เพราะต้องมีความเที่ยงตรงสูงมากเพื่อให้แสงสะท้อนผ่านกระจกปริซึมกลับขึ้นมาโดยขยายขนาดขึ้นพร้อมกับแสดงผลได้อย่างพอดีที่สุดผ่านผิวหน้าของแซฟไฟร์ 

 

IAW: เรือนจริงนี่อ่านค่าเวลาได้ชัดและง่ายกว่าที่เห็นในภาพเยอะเลยนะครับ ใสกระจ่างชัดมาก

 

ใช่ มันเป็นนาฬิกาที่ถ่ายภาพยากมาก ยากจะเหมือนที่เห็นในตัวจริง 

 

IAW: เมื่อมองผ่านกระจกด้านหน้าปัดแล้วยังคงเห็นเลขอื่นๆ กับสเกลบนจานดิสก์อยู่ เป็นความตั้งใจเหรอครับ?

 

ใช่ครับ เราตั้งใจให้สามารถมองเห็นได้ลางๆ ผ่านการรมดำ เพื่อทำให้คุณรู้สึกได้ว่ามันมีกลไกอะไรเคลื่อนไหวอยู่ในนั้น ขณะที่คุณจะต้องมองเห็นเวลาปัจจุบันได้ชัดเจนผ่านช่องกรอบหน้าต่างแสดงผลโดยไม่เกิดความสับสนใดๆ ด้วย จานชั่วโมงจะเป็นแบบจั๊มปิ้ง การตั้งเวลาก็ทำได้สะดวกด้วยเพราะ Jean-Francois Mojon และทีมงาน Chronode ได้ออกแบบให้คุณสามารถหมุนจานดิสก์ไปได้ทั้ง 2 ด้านในขณะตั้งเวลาด้วยเม็ดมะยมโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับกลไกแต่อย่างใด ลองดูสิครับ ฟีลลิ่งการหมุนดีมาก ราบรื่นนุ่มนวล ไม่มีคลิ้ก ไม่มีสะดุดใดๆ 

 

IAW: จริงครับ เรียบมากๆ เรียบที่สุด แล้วมีโครงการณ์ที่จะเปลี่ยนกลไกเครื่องใหม่มั้ยครับในอนาคตอันใกล้นี้?

 

สำหรับ HM5 คงยังแน่นอนครับ เอดิชั่นหน้าก็คงจะเปลี่ยนตัวถังแต่ใช้เครื่องเดิมเหมือนอย่างที่บอกไป ส่วนปีหน้าราวๆ เดือน กันยายน-ตุลาคม คุณจะได้พบกับ Legacy Machine No.2 (LM2) ที่มากับกลไกใหม่ถอดด้าม ปีต่อไปก็จะเป็น HM6 ซึ่งก็คงต้องรอดูกันนะครับว่าจะเป็นอย่างไร

 

IAW: เมื่อคราวก่อนผมมีโอกาสไปเยือน M.A.D. Gallery (บูติกของ MB&F ที่ไม่ได้มีจำหน่ายแค่นาฬิกา แต่มีของดีไซน์เท่ๆ ไปจนถึงภาพสวยๆ จากผู้ผลิตรายเล็กๆ และศิลปินท่านต่างๆ) ที่เจนีวามา มันเจ๋งมาก ของทุกอย่างในนั้นเต็มไปด้วยดีไซน์ ทำไมคุณถึงสร้างแกลเลอรี่นี้ขึ้นมาครับ?

 

เพราะเราต้องการให้ผู้คนเข้าใจเราครับ ทุกสิ่งที่แสดงในแกลเลอรี่ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของต่างๆ แม้แต่มอเตอร์ไซค์ ทุกอย่างใช้งานได้จริง แต่มีดีไซน์ที่กว้างไกลไปกว่าฟังก์ชั่นของมัน สถานที่แห่งนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่มาเยือนมากมาย เหมือนเราเปิดโลกใบใหม่แห่งการดีไซน์ให้กับเขาโดยไม่ยึดติดว่าจะต้องเป็นของชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น ทุกอย่างมีดีไซน์ได้ ถ้าคนชอบดีไซน์แล้ว เขาก็จะซื้อสิ่งของต่างๆ ด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไป แน่นอนว่าต้องใช้งานได้ดีโดยมีดีไซน์ที่โดนใจสุดๆ ด้วย เชื่อมั้ยว่านักสะสมนาฬิกาแบรนด์ดังตัวยงแบบไม่น่าจะมองแบรนด์อื่นแล้วโดยเฉพาะแบรนด์แหวกแนวอย่างเรา วันหนึ่งเมื่อเขารู้จักแกลเลอรี่ของเรามากขึ้น รู้จักมนต์เสน่ห์แห่งดีไซน์มากขึ้น เขาขอเราดู HM4 และก็บอกว่าเขาจะซื้อมัน เราแทบไม่เชื่อว่าคนแบบเขาจะซื้อ MB&F นั่นทำให้เชื่อว่าเราต้องทำให้คนรู้จักและเข้าใจโลกแห่งการดีไซน์ด้วยเพื่อที่จะให้เขาเข้าใจในนาฬิกาที่เราสร้างขึ้น

 

 

DSC 0024 copy DSC 0030 copy

 

 

ผมดีใจกับ Max จริงๆ ครับที่เขามาได้ไกลขนาดนี้ ล่าสุดนาฬิการุ่น LM1 ของเขายังคว้ารางวัล Geneva Watch Making Grand Prix ประจำปี 2012 มาครองได้ถึง 2 รางวัลซ้อน ในสาขานาฬิกาชายกับนาฬิกามหาชน อย่างหนึ่งที่ผมจำได้ไม่มีลืมก็คือ นาฬิกาเรือนแรกของ MB&F ที่ขายได้ในโลกในนี้ มีคนไทยท่านหนึ่งเป็นลูกค้าคนแรกครับ นาฬิกา HM1 เรือนนั้น Max เพิ่งนำไปวางจำหน่ายที่บูติกในฝรั่งเศสแห่งหนึ่งได้ไม่กี่วัน ก็มีคนไทยคนหนึ่งไปซื้อมา ซึ่งเขาก็เพิ่งมาทราบตอนที่เขามาเยือนเมืองไทยครั้งแรกนั่นล่ะว่าคนนั้นคือคนไทยหลังจากที่เขาสงสัยอยู่ในใจอยู่นานว่าคนเอเชียที่ซื้อนาฬิกาหน้าตาแหวกแนวของเขาเป็นคนแรกของโลกนั้นเป็นใคร ผมว่า Max เองก็คงไม่มีวันลืมคนไทยแน่ๆ ครับ

 

 

By: Pramote R. & Viracharn T.