เปิดสเป็ค SEIKO Zimbe Limited Edition รุ่นที่ 4 ในร่างของ Sumo

 

เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 ก.ค. 2017 ทาง SEIKO ได้เผยโฉมรุ่นที่ 4 ของนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่น ผลิตจำนวนจำกัด ตระกูล Prospex (พรอสเป็กซ์) สายพันธุ์ Zimbe (จิมเบ) พร้อมสโลแกนใหม่ประจำปี 2017 ว่า “Explore the unexpected” โดยนาฬิการุ่นนี้ได้นำนาฬิกาดำน้ำดีไซน์แข็งแกร่งที่เรียกขานกันว่า Sumo (ซูโม่) ซึ่งได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2012 มาเป็นพื้นฐานในการออกแบบงานตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ จิมเบ อันมีที่มาแห่งแรงบันดาลใจจาก ฉลามวาฬ นักเดินทางแห่งโลกใต้ทะเล เช่นเดียวกับ 3 รุ่นบุกเบิก ที่ออกจำหน่ายเมื่อปี 2016 และขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว

 

Untitled 1

ทะเลเรืองแสง

 

คอนเซ็ปต์การใช้สีสันบนนาฬิการุ่นนี้มาจาก “ทะเลเรืองแสง” หรือ “Bioluminescent - ไบโอลูมิเนสเซ้นท์” หรือ “Blue Wave - บลูเวฟ” ปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ณ บริเวณชายหาด ซึ่งพบเห็นได้ไม่บ่อยครั้งนัก ปรากฎการณ์นี้เกิดขึ้นจากแพลงก์ตอนพืชในกลุ่ม ไดโนแฟลกเจลเลต ที่เมื่อมาอยู่รวมกันมากๆ ในบริเวณหนึ่งแล้วมีสิ่งมากระทบกับพื้นน้ำสีดำสนิทในคืนเดือนมืด เช่นคลื่นกระทบฝั่งหรือกระทบวัตถุ ก็จะทำให้เกิดลักษณะของทะเลเรืองแสงขึ้นมาได้ แสงสีอันงดงามของ “ทะเลเรืองแสง” ได้ถูกถ่ายทอดสู่ตัวนาฬิการุ่นนี้ด้วยตัวเรือนและสายสตีล เคลือบสีดำด้วยกรรมวิธี แบล็ค ไอพี โค้ตติ้ง ซึ่งเปรียบดั่งท้องทะเลอันมืดสนิท โดยมีพื้นหน้าปัดเป็นสีน้ำเงินไล่เฉดแบบซันเรย์ไปสู่ขอบสีเข้มบนพื้นลายเกลียวคลื่นสะท้อนภาพคลื่นทะเลยามเกิดปรากฎการณ์ “ทะเลเรืองแสง” ร่วมด้วยประกายสีทองของชิ้นหลักชั่วโมง เข็ม เม็ดมะยม และสีทองของสเกลนาทีบนพื้นวงแหวนขอบหน้าปัดสีดำ ดุจประกายของระลอกน้ำทะเล และล้อมผืนหน้าปัดด้วยแผ่นวงแหวนอลูมิเนียมโทนสีม่วงอันงดงามพร้อมสเกลสีเงินที่ติดตั้งอยู่บนวงขอบตัวเรือนซึ่งเป็นการขับเน้นลักษณะของ “ทะเลเรืองแสง” ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ทั้งยังใส่ใจในรายละเอียดด้วยการแต้มสีม่วงเล็กน้อยบนเข็มวินาทีเพื่อให้แม็ตช์กับสีของขอบตัวเรือนอีกด้วย

 

SPB055J CROP2

 

นอกจากนี้ยังมีการเสริมความพิเศษให้กับนาฬิการุ่นนี้ด้วยกระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ ที่ติดตั้งเลนส์นูนขยายวันที่มาให้ด้วย ทั้งยังมีการระบุข้อความ “LIMITED EDITION” อยู่บนหน้าปัด ระหว่างโลโก้ “X” บ่งบอกความเป็นตระกูล “Prospex” และข้อความระบุระดับการกันน้ำ ขณะที่บนฝาหลังวัสดุสตีลจะมีการสลักโลโก้ “JIMBE” ข้อความ “LIMITED EDITION” และหมายเลขประจำเรือน เอาไว้ และมาพร้อมกับกล่องที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะรุ่นพร้อมบรรจุสายยางโพลียูรีเทนสีดำ มาให้สลับเปลี่ยนใช้งานอีกเส้นหนึ่ง สำหรับจำนวนการผลิตนั้น ทาง Seiko กำหนดเอาไว้ที่ 1,639 เรือน ซึ่งเป็นการผลิตขึ้นเฉพาะจำหน่ายในประเทศไทยเท่านั้น โดยมีรหัสประจำรุ่นว่า SPB055J ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็ถือว่าเป็นรุ่นที่มีจำนวนการผลิตมากที่สุดเท่าที่เคยผลิตนาฬิกาลิมิเต็ดเอดิชั่นตระกูล Zimbe ขึ้นมา

 

SEIKO SPB055J SMALL1

133925S

 

133926S

 

สำหรับสเป็คทางเทคนิคของนาฬิการุ่นนี้ ก็ยังคงเป็นไปตามมาตรฐานของนาฬิกาดำน้ำรุ่น Sumo ในปัจจุบัน อันได้แก่ คุณสมบัติการกันน้ำถึงระดับความลึก 200 ม. ของตัวเรือนขนาด 45 มม. หนา 13.3 มม., เม็ดมะยมและฝาหลังแบบเกลียวล็อค, ขอบตัวเรือนแบบหมุนได้ทิศทางเดียวพร้อมสเกลนาทีสำหรับจับเวลาขณะอยู่ใต้น้ำ, เคลือบสารเรืองแสง ลูมิไบรท์ บนหลักชั่วโมงและเข็มทั้งสาม, กลไกอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชั่นวันที่ คาลิเบอร์ 6R15 ที่สำรองพลังงานได้นานถึง 50 ชั่วโมง ซึ่งขึ้นลานด้วยเม็ดมะยมได้และแฮ็คเข็มวินาทีได้ และสายสตีลดีไซน์สปอร์ต ล็อคด้วยบานพับ ปลดล็อคด้วยปุ่มกดคู่ พร้อมบานพับขยายขนาดสำหรับสวมใส่ทับบนชุดเว็ทสูท

 

SEIKO n9 00020RFP3 SMALL  SPB055J CROP21

 

เทียบกับ "Black Sumo" Prospex SBDC031 (เรือนซ้าย) ซึ่งเป็น Sumo รุ่นมาตรฐาน

จะเห็นได้เลยว่า "Zimbe Sumo" SPB055J นี่มาไกลมาก........

 

ZIMBE1  ZIMBE 2

 

ZIMBE3  SEIKO SPB055J SMALL2

 

รวมหมู่ทั้ง 4 รุ่นของ Zimbe Limited Edition

(1.Turtle ลิมิเต็ด 1,299 เรือน, 2.Marinemaster ลิมิเต็ด 222 เรือน, 3. Baby Tuna ลิมิเต็ด 1,286 เรือน, 4. Sumo ลิมิเต็ด 1,639 เรือน)

 

SEIKO Zimbe Limited Edition รุ่นที่ 4 นี้ เริ่มวางจำหน่ายที่งาน สยามพารากอน วอตช์ เอ็กซ์โป 2017 ณ บริเวณเมนฮอลล์ 2 ชั้นเอ็ม ใกล้กับแผนกนาฬิกาภายในห้างสรรพสินค้า พารากอนดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. จนถึง 8 ส.ค. 2017 และเริ่มวางจำหน่ายที่เคาน์เตอร์ Seiko ในห้างสรรพสินค้าและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2017 ซึ่งเชื่อว่าจะจำหน่ายหมดทั้ง 1,639 เรือน ในเวลาไม่นาน

 

By: Viracharn T.