LOUIS MOINET Jules Verne Instrument III

 

Louis Moinet เป็นชาวฝรั่งเศส เกิดในปี ค.ศ. 1768 เขาได้เดินทางไปศึกษางานสถาปัตยกรรม งานปูนปั้น งานวาดภาพ ยังประเทศอิตาลี จากนั้นก็ได้กลับมาที่ฝรั่งเศสและดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ทางด้าน ปราณีตศิลป์แห่งเมืองลูฟว์ ในช่วงนั้นเองที่เขาได้สนใจและศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องกลไกของนาฬิกาในเชิงลึก จนได้มาเจอกับ Louis Abraham Breguet ตั้งแต่นั้นมา Louis Moinet ก็ได้ทำงานทางด้านนาฬิกาเคียงบ่าเคียงไหล่และให้คำปรึกษากับ Breguet ตลอดมาจนกระทั่งเสียชีวิตด้วยวัย 85 ปี ผลงานที่โดดเด่นของเขาก็คือ การสร้างนาฬิกาตั้งโต๊ะให้กับพระเจ้าหลุยส์ที่ 4 และนโปเลียน จอมทัพผู้เกรียงไกร

 

Jean-Marie Schaller ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Louis Moinet เลือกที่จะใช้ชื่อของอัจฉริยะท่านนี้เพื่อแสดงผลงานนาฬิกาที่มีนวัตกรรมพิเศษและมีความโดดเด่นในตัวเอง ซึ่งครั้งนี้เราจะพูดถึงรุ่นที่จัดว่าเป็นรุ่นพิเศษสุดในแบรนด์นี้ ซึ่งก็คือ Jules Verne Instrument III 

 

Jules Verne Instrument III Side View White

 

นาฬิการุ่นนี้มากับตัวเรือนทรงกลมคลาสสิกขนาด 45.5 มิลลิเมตรและหน้าปัดแกะสลักลายกิโยเช่ด้วยลวดลายที่เรียกว่า Cote du Jura ซึ่งเหมือนลาย sunray ที่พริ้วไหว และลวดลายนี้เองที่เราจะเห็นอยู่บนหน้าปัดของนาฬิกาแบรนด์นี้ทุกเรือน นั่นก็หมายความว่าลายแกะสลักหน้าปัดนี้ถือเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของแบรนด์ไปโดยปฏิเสธไม่ได้ การออกแบบของนาฬิการุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือเหล็ก Nautilus ในนวนิยายเรื่อง 20,000 โยชน์ใต้ทะเลลึกของ Jules Verne โดยทีมออกแบบสร้างการบ้านขึ้นมาว่า ถ้าเราสามารถออกแบบนาฬิกาเรือนหนึ่งให้กับ กัปตันนีโม ตัวเอกของเรื่องนี้สวมใส่ นาฬิกาที่เค้าใส่นั้นควรจะมีฟังก์ชั่นและหน้าตาออกมาเป็นอย่างไร

 

Jules Verne Instrument III ตัวเรือนขนาด 45.5 มิลลิเมตร ทำจากไทเทเนียมเกรด 5 ร่วมกับชิ้นงานเคลือบพีวีดีดำและโรสโกลด์ 18k (Ref.LMV-30.40.55) 

 

Jules Verne Instrument III Caseback White

 

ด้านหลังของ Jules Verne Instrument III มองเห็นงานตกแต่งอย่างงดงามของเครื่องและโรเตอร์ได้ชัดเจนผ่านช่องกระจกแซฟไฟร์คริสตัล 

 

Jules Verne Instrument III Side View BlackCrop

 

Jules Verne Instrument III มีฟังก์ชั่นจับเวลาที่ใช้กดจากปุ่มเดียว โดยมีหน้าปัดย่อยที่แสดงฟังก์ชั่นให้ทราบว่าเป็น start , stop หรือ reset เพื่อเป็นการบอกให้ผู้ใช้ได้ทราบว่าตอนนี้ปุ่มจับเวลากำลังทำงานอยู่ในโหมดใดนั่นเอง การทำงานบนหน้าปัดย่อยจะเลื่อนตำแหน่งเข็มที่แสดงไปยังโหมดที่ถูกเรียกใช้งานตามปุ่มกดจับเวลา กล่าวคือ กดครั้งแรกคือการเริ่มจับเวลา เมื่อเรากดครั้งแรก เข็มก็จะเลื่อนไปที่โหมด start พร้อมกับเข็มจับเวลาที่เริ่มเคลื่อนที่ ต่อเมื่อเรากดปุ่มจับเวลาอีกครั้งเข็มจับเวลาจะหยุด เข็มแสดงฟังก์ชั่นก็จะเลื่อนไปยังโหมด stop และเมื่อเรากดปุ่มอีกครั้ง เข็มแสดงฟังก์ชั่นก็จะเลื่อนไปที่ reset พร้อมกับการดีดกลับของเข็มจับเวลาไปยังที่เริ่มต้นเพื่อพร้อมสำหรับการจับเวลาครั้งใหม่ครับ ส่วนหน้าปัดย่อย 2 วงที่เห็นนั้น ในตำแหน่ง 9 นาฬิกาจะเป็นวงแสดงวินาที และในตำแหน่ง 3 นาฬิกาจะเป็นวงแสดงการจับเวลาในหน่วยของนาที ส่วนวันที่จะแสดงด้วยหน้าต่างที่ตำแหน่ง 7 นาฬิกา ตัวกลไกที่ใช้นี้จะเดินด้วยความถึ่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมงซึ่งดัดแปลงมาจากกลไกจับเวลา ETA 7750 ฝาหลังเป็นแบบเปลือยโชว์การฉลุโรเตอร์อย่างงดงาม กันน้ำได้ 50 เมตร นาฬิการุ่นนี้ถูกผลิตขึ้น 2 แบบ คือ ตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 5 และโรสโกลด์ 18k ขอบตัวเรือนชิ้นล่างเคลือบพีวีดีดำประกบกับขอบตัวเรือนด้านบนที่ทำจากโรสโกลด์ 18k ด้วยสกรูว์ 6 ชิ้น และตัวเรือนไทเทเนียมเกรด 5 และสตีล ขอบตัวเรือนชิ้นล่างเคลือบพีวีดีดำประกบกับขอบตัวเรือนด้านบนที่เป็นสตีล ในจำนวนจำกัดแบบละ 365 เรือน

 

 

ข้อมูลทางเทคนิค


ตัวเรือน: ขนาด 45.5 มิลลิเมตร ทำจากไทเทเนียมเกรด 5 ร่วมกับชิ้นงานเคลือบพีวีดีดำและโรสโกลด์ 18k (Ref.LMV-30.40.55) หรือไทเทเนียมเกรด 5 ร่วมกับชิ้นงานเคลือบพีวีดีดำและสตีล (Ref.LMV-30.40.50) กันน้ำได้ 50 เมตร ฝาหลังกรุกระจกพร้อมสลักหมายเลขประจำเรือนบนบริเวณขอบฝาหลัง กระจกทั้งหน้าปัดและบนฝาหลังเป็นแซฟไฟร์คริสตัลเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน ผลิตจำนวนจำกัดแบบละ 365 เรือน 

หน้าปัด: 
ลวดลาย “Cotes du Jura” ยึดวงแหวนแสดงวินาทีด้วยสกรูว์ หลักชั่วโมงแต้มสารเรืองแสง เข็มแบบเจาะโปร่งแต้มสารเรืองแสงที่ส่วนปลาย 


ฟังก์ชั่น:
 บอกเวลาชั่วโมง, นาที และวินาที, โครโนกราฟจับเวลา 30 นาที สตาร์ท-สต็อป-รีเซ็ท ด้วยปุ่มกดเดียว, วันที่, แสดงฟังก์ชั่นของการใช้งานโครโนกราฟด้วยเข็มและลักษณะของมาตรซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเครื่องส่งโทรเลข Chadburn อันเลื่องชื่อที่ใช้กันบนเรือในสมัยก่อน 


เครื่อง:
 ขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre LM30 มี 27 จิวเวล พัฒนาและปรับปรุงร่วมกับ Concepto ทำงานที่ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 48 ชั่วโมง สลักตกแต่งด้วยลวดลาย “Cotes du Jura” และฟินิชเป็นสีคล้ำ ใช้สกรูว์บลูด์สตีล โรเตอร์ฟินิชเป็นสีคล้ำฉลุโปร่งตรงส่วนกลางให้เป็นรูปโลโก้ของแบรนด์ 

 

สาย: ยางพร้อมบานพับที่ทำจากไทเทเนียมเกรด 5 ร่วมกับสตีล

 

Louis Moinet Caliber LM30 White

เครื่องขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Louis Moinet Calibre LM30 

 

The Nautilus and a huge squid S

เรือ Nautilus กับปลาหมึกยักษ์ใต้ท้องทะเล 

 

Capitain Nemo on the deck of the Nautilus S

กัปตันนีโมบนดาดฟ้าเรือ Nautilus

 

By: Viracharn T.