PERRELET BASELWORLD 2013 Novelties

 

ปี 2013 นี้ PERRELET หนึ่งในผู้นำแห่งการผลิตนาฬิกากลไกอัตโนมัติของโลก เจ้าตำรับนาฬิกาโรเตอร์คู่ช่วยกันป้อนกำลังขึ้นลานทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตัวเรือนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจนพัฒนามาเป็นโรเตอร์รูปแบบใบพัดเทอร์ไบน์หมุนติ้วอยู่ด้านหน้าของหน้าปัดช่วยเสริมกำลังการขึ้นลานร่วมกับโรเตอร์ปกติของกลไกอัตโนมัติที่อยู่ด้านหลังอย่างที่คุ้นตากันในคอลเลคชั่น Turbine ได้เปิดตัวบูธจัดแสดงรูปแบบใหม่ซึ่งออกแบบและตกแต่งด้วยเส้นสายสีสันสวยงามโดยสถาปนิกแห่งเมืองนูชาแตล ณ โลเกชั่นใหม่ ด้วยอาณาพื้นที่ 412 ตารางเมตร บนชั้นที่ 2 ภายในฮอลล์จัดแสดงหลักของงาน BASELWORLD 2013 และใช้เป็นเวทีเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ Turbine Chrono กับ Turbillon และงานสเปเชี่ยลเอดิชั่น เวอร์ชั่นใหม่ของ Turbine ที่ใช้ชื่อว่า Helvetia

 

Perrelet booth Basel 2013 13

 

 

Turbine Chrono

A1074 2 Lifestyle white2

Turbine Chrono เป็นหนึ่งในนาฬิกาที่สร้างความประทับใจให้กับเราเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านรูปลักษณ์หน้าตาสปอร์ตได้ใจของมันที่ยังคงรักษาตัวตนแห่งความเป็นนาฬิกาเทอร์ไบน์ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และลักษณะในการแสดงผลของชุดจับเวลาที่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ และจะต้องใช้ความสามารถในการคิดค้นและพัฒนากลไกเป็นอย่างมาก

 

A3036 2 black

 

กลไกนี้มีชื่อเรียกว่า Calibre P-361 บรรจุอยู่ในตัวเรือนสตีลขนาด 47 มิลลิเมตร มองเห็นได้ผ่านทางฝาหลังกรุแซฟไฟร์ จับคู่กับสายยางสีดำ ซึ่งในชุดแรกนี้จะทำออกมา 5 เวอร์ชั่นด้วยกัน โดยแตกต่างกันที่สีสันและวัสดุที่ใช้ในการตกแต่ง ได้แก่  

A3036 2 white1A3036 1 white

1. รุ่นตัวเรือนสตีลเคลือบดีแอลซีดำ มีสเกลทาคิมิเตอร์บนพื้นสีดำอยู่บนขอบหน้าปัดที่มีขอบด้านนอกเป็นโรสโกลด์ ปุ่มกดสีโรสโกลด์ ขอบหน้าปัดสีดำตัวเลขและสเกลต่างๆ เป็นสีขาว หลักชั่วโมงและเข็มเคลือบสารเรืองแสง เข็มบอกเวลาและวงแหวนกลางหน้าปัดสีดำ หน้าปัดสีดำ ใบพัดเทอร์ไบน์และวงกลมตรงกลางเป็นโรสโกลด์ เข็มวินาทีจับเวลาสีแดง 

 

2. รุ่นตัวเรือนสตีลเคลือบดีแอลซีดำ มีสเกลทาคีมิเตอร์บนพื้นสีดำอยู่บนขอบหน้าปัดที่มีขอบด้านนอกเป็นโรสโกลด์ ปุ่มกดสีโรสโกลด์ ขอบหน้าปัดสีดำ ตัวเลขและสเกลต่างๆ เป็นสีขาว หลักชั่วโมงและเข็มเคลือบสารเรืองแสง เข็มบอกเวลาสีโรสโกลด์ วงแหวนกลางหน้าปัดโรสโกลด์ หน้าปัดสีดำ ใบพัดเทอร์ไบน์ไทเทเนี่ยมสีดำ เข็มวินาทีจับเวลาสีแดง 

A1079 1 whiteA1075 1 whiteA1074 2 white1

 

3. รุ่นตัวเรือนสตีลเคลือบดีแอลซีดำ มีสเกลทาคีมิเตอร์บนพื้นสีดำอยู่บนขอบหน้าปัดสตีลเคลือบดีแอลซีดำ ปุ่มกดสีดำ ขอบหน้าปัดสีดำพร้อมตัวเลขและสเกลต่างๆ สีเทาดำ วงแหวนกลางหน้าปัดสีดำ หน้าปัดสีดำ พื้นวันที่สีดำ หลักชั่วโมงและเข็มสีดำ ใบพัดเทอร์ไบน์ไทเทเนี่ยมสีดำ

 

4. รุ่นตัวเรือนสตีลเคลือบดีแอลซีดำ มีสเกลทาคีมิเตอร์บนพื้นสีดำอยู่บนขอบหน้าปัดสตีล ปุ่มกดสีดำ ขอบหน้าปัดสีขาวพร้อมตัวเลขและสเกลต่างๆ เป็นสีดำ วงแหวนกลางหน้าปัดสีเงิน หน้าปัดสีดำ ใบพัดเทอร์ไบน์ไทเทเนี่ยมสีดำ เข็มบอกเวลาสีดำแต้มสารเรืองแสง เข็มวินาทีจับเวลาสีแดง

 

5. รุ่นตัวเรือนสตีล มีสเกลทาคีมิเตอร์บนพื้นสีเงินอยู่บนขอบหน้าปัดที่มีขอบด้านนอกเคลือบดีแอลซีดำ ปุ่มกดสตีล ขอบหน้าปัดสีดำพร้อมตัวเลขและสเกลต่างๆ เป็นสีขาว วงแหวนกลางหน้าปัดสีดำ หน้าปัดสีดำ ใบพัดเทอร์ไบน์ไทเทเนี่ยม หลักชั่วโมงและเข็มเคลือบสารเรืองแสง เข็มสีเงิน เข็มวินาทีจับเวลาสีแดง

 

 

 

Turbillon

 

A1077 1 Lifestyle1

 

แค่ชื่อก็พอจะเดาได้อยู่แล้วว่ามาจากการรวมคำว่า Turbine กับ Tourbillon เข้าด้วยกัน ซึ่งก็หมายความว่าเป็นนาฬิกาเทอร์ไบน์ที่ใช้กลไกตูร์บิยองได้นั่นเอง ความพิเศษที่นอกจากจะมีโรเตอร์แบบใบพัดเทอร์ไบน์หมุนอยู่เหนือแผ่นหน้าปัดทางด้านหน้าอีกจุดหนึ่งซึ่งช่วยเสริมการหมุนของโรเตอร์กลไกอัตโนมัติที่ด้านหลังแล้ว ยังมากับการใช้ใบพัดเทอร์ไบน์ที่ทำจากแซฟไฟร์คริสตัลใสอีกต่างหาก ชุดใบพัดเทอร์ไบน์ของ Turbillon รุ่นใหม่นี้จึงเปิดเผยกรงตูร์บิยองที่ถูกเปิดช่องกลมล้อมด้วยกรอบโลหะวงแหวนบนพื้นหน้าปัดสีดำเล่นลายล้อลวดลายของเทอร์ไบน์และลายงานขัดแต่งกลไกให้เห็นได้อย่างชัดเจนเต็มตา แถมวีลและเลเวอร์ที่ทำจากซิลิคอนยังถูกทำออกซิไดซ์เป็นสีดำอีกต่างหาก กลไกอัตโนมัติตูร์บิยอง 1 นาที Calibre P-371 บอกเวลาแบบ 2 เข็ม พร้อมแสดงการเดินของวินาทีเหนือกรงตูร์บิยองเครื่องนี้ถูกผลิตขึ้นโดยโรงงานของกลุ่มบริษัทต้นสังกัดของแบรนด์ ในวาเล่ เดอ ชูซ์ เบสเพลทและบริดจ์ได้รับการขัดแต่งลายโค้ตเดอเชอแนฟอย่างประณีตโดยสามารถมองเห็นได้ผ่านทางแซฟไฟร์ที่กรุบนฝาหลังของตัวเรือนขนาด 46 มิลลิเมตร ทั้งหมดมาคู่กับสายยางสีดำ 

 

A3037 1 black1

 

Turbillon รุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นในแบบจำนวนจำกัด 3 เวอร์ชั่นด้วยกัน โดยผลิตเวอร์ชั่นละ 20 เรือน คือ

 

A1080 1 black1

 

1.ตัวเรือนสตีลเคลือบดีแอลซีดำ หลักชั่วโมง ตัวเลข และสเกลสีดำ เข็ม, กรอบกรงตูร์บิยอง และวงแหวนกลางหน้าปัดสีดำ 

 

A1077 1 black1A3037 1 black22

 

2.ตัวเรือนสตีล-ขอบตัวเรือนและฝาหลังเคลือบดีแอลซีดำ หลักชั่วโมงและสเกลสีขาว ตัวเลขสีดำ เข็มสีดำ เคลือบสารเรืองแสงบนหลักชั่วโมงและเข็ม วงแหวนกลางหน้าปัดสีดำ กรอบกรงตูร์บิยองสีเงิน

 

3.ตัวเรือนสตีลเคลือบดีแอลซีดำ-ขอบตัวเรือนและฝาหลังโรสโกลด์ หลักชั่วโมงและสเกลสีขาว ตัวเลขสีดำ เข็มสีดำ เคลือบสารเรืองแสงบนหลักชั่วโมงและเข็ม วงแหวนกลางหน้าปัดและกรอบกรงตูร์บิยองโรสโกลด์ 

 

 

Turbine Helvetia Special Edition

 

งาน BASELWORLD ทั้งที จะไม่มีนาฬิกาเวอร์ชั่นพิเศษของรุ่นขายดีอย่าง Turbine ออกมาก็ดูจะกระไรอยู่ใช่มั้ยครับ และในปี 2013 นี้ทาง PERRELET ก็ตอกย้ำตัวตนของตนเองอย่างหนักแน่นด้วยการบรรจงรังสรรค์สัญลักษณ์ครอสสีขาวบนพื้นสีแดงอันเป็นลักษณะแห่งผืนธงชาติสวิตเซอร์แลนด์แผ่นดินต้นกำเนิดของแบรนด์ ลงบนผืนหน้าปัดภายใต้ใบพัดเทอร์ไบน์ พร้อมเข็มวินาทีสีแดง ออกมาในรุ่นที่ใช้ชื่อเอดิชั่นว่า Helvetia โดยจะออกมาด้วยกัน 2 เวอร์ชั่น คือ ตัวเรือนสตีลเคลือบดีแอลซีดำขนาด 44 มิลลิเมตร ขอบหน้าปัดและใบพัดเทอร์ไบน์สีดำ คู่กับสายหนังจระเข้สีดำเดินด้ายแดงพร้อมบานพับ สำหรับผู้ชาย (Ref.A4037/1) และตัวเรือนสตีลขนาด 38 มิลลิเมตร ขอบตัวเรือนประดับเพชร 60 เม็ด น้ำหนักรวม 0.90 กะรัต ขอบหน้าปัดและใบพัดเทอร์ไบน์สีขาว สำหรับผู้หญิง (Ref.A4038/1) โดยจะมาคู่กับสายหนังจระเข้สีขาวเดินด้ายแดงพร้อมบานพับ

 

Turbine Helvetia

 

แน่นอนว่านาฬิการุ่นนี้จะต้องใช้กลไก P-331 อันเป็นกลไกอัตโนมัติอินเฮ้าส์อันแสนภาคภูมิใจของตน ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือกลไก A10 ของ Soprod อันเป็นโรงงานผลิตกลไกชื่อดังที่อยู่ในสังกัดกลุ่มบริษัทเดียวกันในเวอร์ชั่นที่ผลิตสำหรับ PERRELET โดยเฉพาะนั่นเอง โดยจะสามารถมองเห็นงานขัดแต่งลายโค้ตเดอเชอแนฟบนเพลทของกลไกได้ผ่านทางกระจกแซฟไฟร์ที่กรุอยู่บนฝาหลัง 

 

Perrelet on iPad Lek

 

สุดท้ายนี้สำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบและหลงใหลรวมถึงผู้ที่กำลังสนใจในนาฬิกาของ PERRELET ขณะนี้ทาง PERRELET มีแอพพลิเคชั่นสำหรับ iOS ให้คุณติดตามและเข้าถึงข้อมูล รูปภาพ และวิดีโอ ของนาฬิการุ่นต่างๆ และเรื่องราวที่น่าสนใจของแบรนด์ได้จากทาง iPad หรือ iPhone ของคุณโดยตรงได้แล้ว ในชื่อว่า Perrelet Trade Catalogue สามารถเข้าไปโหลดกันได้ตามสะดวกเลยครับ 

 

และหากอยากทราบว่าแต่ละรุ่นจะเข้ามาให้จับจองเป็นเจ้าของกันในประเทศไทยได้เมื่อใด ก็ลองไปเลียบเคียงสอบถามที่เคาน์เตอร์ PERRELET ในแผนกนาฬิกาของห้างสรรพสินค้าชั้นนำกันดูนะครับ หรือจะโทร.ไปถามที่ บริษัท ซิตี้เม็กซ์ มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยดูก็ได้ครับ

 

By: Viracharn T.