Special Report: รีวิวนาฬิกาเด่นจากงานสยามพารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2012 (ตอนที่ 2)

 

 

DSC 0088S

 

 

มาชมรายงานพิเศษตอนที่ 2 ของนาฬิกาเรือนเด่นๆ ที่น่าสนใจจากแบรนด์ต่างๆ ที่นำมาให้ชมและจำหน่ายในงานแสดงนาฬิกา สยาม พารากอน วอชท์ เอ็กซ์โป 2012 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมาและจะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 19 สิงหาคม 2555 ซึ่งทาง IAMWATCH ไปคัดสรรมาให้ชมกันต่อจากตอนที่ 1 ในครั้งก่อนได้เลยครับ

 

 

DSC 0004 DSC 0009 DSC 0018

 

 

(ซ้าย) RICHARD MILLE RM051 Phoenix-Michelle Yeoh: หลายคนคงเคยเห็นนาฬิกาประดับเพชรปูเต็มทั่วตัวเรือนเรือนนี้จากในภาพข่าวมาบ้างแล้วแต่ในงานนี้มีเรือนจริงมาให้ชมพร้อมจำหน่ายในราคาประมาณ 23 ล้านบาท นาฬิการุ่นนี้มีนักแสดงสาวชาวมาเลเซียชื่อดัง Michelle Yeoh มาร่วมรังสรรและออกแบบร่วมกับ Artistic Director ของแบรนด์ โดยใช้สัญลักษณ์นก Phoenix ในตำนานจีนโบราณมาเป็นคอนเซ็ปต์สำหรับนาฬิกาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะรุ่นนี้ จึงออกมาเป็นภาพนก Phoenix เจาะโปร่งประดับเพชรวางอยู่กลางตัวเรือน โดยส่วนลำตัวจะอยู่เหนือกรงตูร์บิยองพอดี อีกจุดที่น่าสนใจคือเบสเพลททำจากหินออนิกซ์ดำที่เชื่อกันว่าสามารถดูดกลืนพลังงานชั่วร้ายและสร้างความมั่นคงทางอารมณ์ให้กับผู้ครอบครองได้ ผลิตในจำนวนจำกัด 18 เรือนเท่านั้น 

 

(กลาง) CORUM Ti-bridge Tourbillon Black Limited Edition: ดูดุดันล้ำสมัยด้วยตัวเรือนไทเทเนียมขัดซาตินเคลือบพีวีดีดำ ล้อมรอบกรอบด้านในตัวเรือน เพลท และบริดจ์แท่งตรงวางขวาง 2 ชิ้นซึ่งทำจาก ARCAP เคลือบรูเธเนียมดำ (คอปเปอร์นิคเกิ้ลอัลลอยที่ทนทานและปราศจากความเป็นแม่เหล็ก) ช่วยขับความโดดเด่นให้กับกลไกตูร์บิยองอันแสนเที่ยงตรงที่ยึดลอยแขวนไว้บนบริดจ์รูปกุญแจสีเทาเพื่อตอกย้ำความเป็น CORUM ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 83 เรือน ราคา 3,450,000 บาท 

 

(ขวา) HARRY WINSTON Premier Feather Watch: นี่เป็นรุ่นหนึ่งจากทั้งหมดสี่รุ่นของคอลเลคชั่นนาฬิกา Premier Feather Watches นาฬิกาหน้าปัดประดับขนนกซึ่งเปิดตัวไปในงาน Baselworld 2012 (ในงานที่สยามพารากอนนี้มีให้ชมและเป็นเจ้าของกันครบทั้ง 4 เวอร์ชั่น โดยแต่ละรุ่นจะประดับขนอันสวยงามของไก่ฟ้าหรือนกยูงในรูปแบบและสีสันที่แตกต่างกัน ทั้งหมดเป็นเครื่องควอตซ์ มาพร้อมสายซาติน) เรือนนี้เป็นตัวเรือนไวท์โกลด์ประดับเพชร 66 เม็ด (1.45 กะรัต) บวกกับอีก 29 เม็ดบนบัคเกิ้ลไวท์โกลด์ ที่มากับหน้าปัดประดับขนแผงคออันงดงามของไก่ฟ้า ราคาจำหน่าย 3,079,000 บาท 

 

 

DSC 0015 DSC 00321

 

(ซ้าย) PARMIGIANI FLEURIER Tonda 42 Retrograde Perpetual Calendar: ตัวแทนรายใหม่ของ PARMIGIANI ในประเทศไทย PMT The Hour Glass นำเสนอนาฬิกาคอมพลิเคทตัวเรือนพิงค์โกลด์ที่มากับฟังก์ชั่นแสดงปฏิทินตลอดชีพที่เด่นด้วยการชี้บอกวันที่ด้วยเข็มแบบเรโทรเกรดพร้อมหน้าต่างแสดงมูนเฟสอีกสองชุดสำหรับทั้งโลกฝั่งเหนือและฝั่งใต้รุ่นนี้ สนนราคากว่า 2 ล้านบาท 

 

(ขวา) MONTBLANC Nicolas Rieussec Anniversary Edition: นาฬิกาโครโนกราฟ Nicolas Rieussec รุ่นพิเศษนี้ ผลิตเพื่อเป็นเกียรติแก่การประดิษฐ์เครื่องจับเวลาเครื่องแรกของโลกเมื่อปี ค.ศ.1821 โดย Nicolas Rieussec ซึ่งเป็นเวลาครบรอบ 190 ปีในปี ค.ศ.2011 เดินด้วยเครื่องไขลานโครโนกราฟอินเฮ้าส์ MBR110 ปุ่มกดเดียว ตัวเรือนเร้ดโกลด์ที่เห็นอยู่นี้ถูกผลิตขึ้นมาทั้งหมด 190 เรือน ราคา 1,296,000 บาท 

 

 

DSC 0023 DSC 00101 DSC 0029

 

(ซ้าย) HUBLOT King Power Alinghi 4000: นาฬิกาดำน้ำลึกเวอร์ชั่น Alinghi (ทีมแข่งเรือใบชั้นนำสัญชาติสวิสที่ทาง HUBLOT เข้าไปร่วมสนับสนุน) ตัวเรือนคาร์บอนไฟเบอร์+คอมโพสิตเรซินรุ่นนี้สามารถกันน้ำได้ในระดับความลึกถึง 4,000 เมตร มีโลโก้ทีม Alinghi อยู่บนหน้าปัดเหนือตำแหน่ง 6 นาฬิกา เครื่องออโต้ ผลิตจำนวนจำกัด 100 เรือน และนำเข้ามาเพียงเรือนเดียวเท่านั้น ราคา 1,071,000 บาท 

 

(กลาง) FRANCK MULLER Crazy Hours Black Croco: แหวกแนวกับตัวเรือนที่เรียกว่า Black Croco ซึ่งเป็นการนำตัวเรือนและหน้าปัดสตีลเคลือบพีวีดีดำมาสลักลายหนังจระเข้และลงแลกเกอร์ดำด้านในร่องลายหนังให้ความเป็นสามมิติชัดเจนยิ่งขึ้น กลมกลืนกับสายหนังจระเข้สีดำที่มาคู่กัน สำหรับเรือนนี้มีความพิเศษยิ่งขึ้นด้วยการบอกเวลาแบบ Crazy Hours ที่บอกชั่วโมงแบบกระโดดข้ามไป-มาอันเลื่องชื่อของแบรนด์ เดินด้วยเครื่องออโต้ ราคา 977,000 บาท 

 

(ขวา) ROMAIN JEROME Steampunk Chrono 100th Anniversary: นาฬิการุ่นพิเศษที่ผลิตขึ้นในปี 2012 นี้เพื่อร่วมฉลองวาระครบ 100 ปีแห่งการออกทะเลครั้งแรกของเรือไทเทนิก เมื่อปี ค.ศ.1912 โดยเป็นการนำรุ่น Steampunk Black Chrono ซึ่งอยู่ในตระกูลคอลเลคชั่น Titanic-DNA มาปรับปรุงรายละเอียดใหม่โดยคราวนี้ใบพัดหมุนได้ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกาซึ่งจำลองแบบมาจากใบพัดของเรือไททานิคนั้นถูกทำให้ขึ้นสนิมด้วยกรรมวิธีเดียวกับขอบตัวเรือนด้วย และที่ฝาหลังยังมีภาพสลักจารึกครบรอบ 100 ปีพร้อมภาพเรือไททานิคอยู่ด้วย ตัวเรือนทำจากสตีลเคลือบพีวีดีดำที่ประกอบเข้ากับขอบตัวเรือนที่นำเหล็กจากตัวเรือไทเทนิคจริงๆ มาหลอมและทำให้ขึ้นสนิมและหยุดการลุกลามด้วยกระบวนการพิเศษและเดินด้วยเครื่องออโต้โครโนกราฟเช่นเดียวกับ Steampunk Black Chrono ผลิตจำนวนจำกัด 100 เรือน ราคา 650,800 บาท

 

 

DSC 0030 DSC 0021

 

(ซ้าย) BEDAT & CO. No.3: นาฬิกาเครื่องออโต้ จากคอลเลคชั่น No.3 ตัวเรือนสตีลประดับเพชร ราคา 554,500 บาท ส่วนตัวเรือนโรสโกลด์ประดับเพชร ราคา 1,166,400 บาท 

 

(ขวา) ULYSSE NARDIN Marine Diver Black Sea: รุ่นนี้เป็น Black Sea เวอร์ชั่นล่าสุดปี 2012 ซึ่งยังคงมากับตัวเรือนสตีลเคลือบยางสีดำด้านด้วยกระบวนการหลอมรวมอันซับซ้อน พื้นหน้าปัดสีดำลวดลายคลื่นพร้อมมาตรกำลังสำรอง แต่เข็มกับหลักชั่วโมงเคลือบสารเรืองแสงเวอร์ชั่นนี้จะใช้สีเหลืองที่ดูโดดเด่นชัดเจนกว่าเคย เดินด้วยเครื่องออโต้ความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ ราคา 457,000 บาท 

 

 

DSC 0033 DSC 0025 DSC 00111

 

(ซ้าย) BREMONT P-51 Limited Edition: นาฬิกาเครื่องออโต้โครโนกราฟความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์พร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มทีรุ่นนี้ผลิตในจำนวนจำกัด 251 เรือน โดยมีความพิเศษอยู่ที่การนำเอาตัวถังอลูมินัมของเครื่องบินจากปี ค.ศ.1944 ที่ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สอง Mustang P-51K-10 ซึ่งเป็นลำหมายเลข 44-12016 ขับโดยผู้หมวดชื่อ Bert Lee Jr มาทำเป็นพื้นของหน้าปัดจับเวลา อีกทั้งยังนำมาขึ้นรูปด้วยมือเป็นชิ้นส่วนรูปใบพัดเครื่องบินอันเป็นส่วนประกอบของโรเตอร์ทั้งยังพิมพ์ข้อความ Fragile but Agile บนก้านใบพัดซึ่งมาจากฉายา Fragile but Agile ของผู้หมวดเช่นเดียวกับที่ติดอยู่ข้างเครื่องบินลำนี้ด้วย ขอบหน้าปัดด้านในสามารถหมุนได้ด้วยเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 8 นาฬิกา บอกวินาทีด้วยใบพัดขนาดเล็กที่ 9 นาฬิกา และยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นบอกเวลาที่สองด้วยเข็มกลางอีกด้วย ตัวเรือนทำจากสตีลโดยมีชิ้นกลางเคลือบพีวีดี ราคา 404,200 บาท

 

(กลาง) BREITLING Navitimer 01 Thailand Limited Edition: นำมาให้ชมกันอีกครั้งกับนาฬิการุ่นพิเศษผลิต 20 เรือนสำหรับประเทศไทยรุ่นนี้ ตัวเรือนเป็นสตีล ขอบฝาหลังสลัก Thailand Edition เดินด้วยเครื่องออโต้โครโนกราฟอินเฮ้าส์ Cal.01 ความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ ราคา 392,500 บาท 

 

(ขวา) ZENITH Pilot Big Date Special Thailand Limited Edition: Pilot Big Date Special นาฬิกาแนวนักบินที่ผลิตตามรูปแบบนาฬิกานักบินโครโนกราฟรุ่นดั้งเดิมของ Zenith จากยุคทศวรรษ 1960 ที่เห็นอยู่นี้ เป็นเวอร์ชั่นที่ผลิตขึ้นพิเศษเพียง 20 เรือนสำหรับประเทศไทย โดยจะมากับเข็มวินาทีจับเวลาสีฟ้า ตัวเลขบอกวันที่แบบบิ้กเดท 2 หลักสีฟ้า และคำว่า THAILAND สีฟ้าบนหน้าปัด ตัวเรือนสตีล เดินด้วยเครื่องออโต้โครโนกราฟ El Primero อันเลื่องชื่อ ราคา 290,400 บาท 

 

 

DSC 0027

 

MAGELLAN 1521 Northern Hemisphere: นาฬิกาทรงโดมแปลกตา เอกลักษณ์เฉพาะของ Magellan รุ่นนี้มากับหน้าปัดทรงโดมที่จำลองโลกฝั่งเหนือของเรามาอย่างงดงาม ดูกลมกลืนด้วยเข็มโค้งลู่ไปตามหน้าปัดและกระจกหน้าปัด บอกเวลาไทม์โซนที่สองด้วยเข็มสีเหลือง ตัวเม็ดมะยมที่ถูกรวมเข้าไว้ในโดมอย่างแนบเนียนนั้นสามารถตั้งปรับได้จากทางด้านหลังตัวเรือน ตัวเรือนทำจากสตีล เดินด้วยเครื่องออโต้ ราคา 232,000 บาท

 

 

DSC 0035 photoS

 

(ซ้าย) NOMOS GLASHUTTE Tangomat GMT Plus: นาฬิกาลุคเรียบง่ายมินิมัลลิสท์ตามสไตล์ NOMOS แห่งเยอรมนีรุ่นนี้มาพร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มทีแสดงเวลาไทม์โซนที่สองผ่านช่องหน้าต่าง ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาบนหน้าปัด ส่วนช่องหน้าต่าง ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกานั้นจะแสดงค่าจำนวนชั่วโมงที่ต่างกันของสองไทม์โซนที่ตั้งไว้ ทำงานด้วยเครื่องออโต้อินเฮ้าส์ ราคา 147,100 บาท 

 

(ขวา) BALL Fireman Storm Chaser DLC Glow: นาฬิกาเครื่องออโต้โครโนกราฟเรือนนี้ดูดุดันด้วยตัวเรือนสตีลทำดีแอลซีดำ หน้าปัดดำแต่อ่านค่าได้คมชัดด้วยหลอดไมโครแก็สสีฟ้า เขียว ส้ม และเหลือง รวมกันถึง 66 หลอด ส่วนคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่นๆ ก็คือ สามารถทนแรงสะเทือนได้ถึงระดับ 5,000 จี และมาพร้อมสเกลทาคีมิเตอร์กับเทเลมิเตอร์แบบครบๆ ผลิตจำนวนจำกัด 1,999 เรือน ราคา 116,500 บาท

 

 

DSC 0036 DSC 0037

 

(ซ้าย) TAG HEUER Carrera Heritage: Carrera รุ่นนี้มากับสไตล์สุดแสนคลาสสิกด้วยตัวเรือนขัดเงาวาว หน้าปัดแกะลายเป็นคลื่นกระจายจากศูนย์กลางอย่างสวย และฟอนท์ตัวเลขกับลักษณะของเม็ดมะยมที่นำมาจากนาฬิกา Heuer วินเทจ สำหรับรุ่นตัวเรือนสตีล เครื่องออโต้ บอกเวลาแบบสองเข็มครึ่ง ตั้งราคาไว้ 110,000 บาท 

 

(ขวา) HAMILTON Intra-Matic: นาฬิการุ่นนี้ได้นำนาฬิกา Intra-Matic เครื่องออโต้อันโด่งดังในอดีตของแบรนด์กลับมาทำใหม่อีกครั้ง ดูเก๋ด้วยพื้นหน้าปัดโค้งพร้อมโลโก้ HAMILTON จากยุคซิกส์ตี้ส์ มีตัวเรือนให้เลือก 2 ขนาด คือ 42 กับ 38 มม. ตัวเรือนสตีลเคลือบทอง ขนาด 42 มม. ราคา 38,000 บาท ขนาด 38 มม. ราคา 35,500 บาท 

 

 

ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างที่เราเลือกมาให้ชม (เพราะจะให้ถ่ายมาทั้งหมดก็คงจะไม่ไหวครับเพราะเยอะจริงๆ) ซึ่งนอกจากที่เราคัดมาให้ชมกันแล้วก็ยังมีอีกหลายแบรนด์ในระดับราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักสิบล้าน และแต่ละแบรนด์เองก็ยังมีอีกหลายรุ่นที่น่าสนใจมากๆ ยิ่งบวกกับส่วนลดและเงื่อนไขพิเศษต่างๆ ทั้งจากภายในงานเองและจากแต่ละแบรนด์ที่จัดเพิ่มเติมให้กับลูกค้าทุกท่านแล้วต้องบอกว่าไม่น่าพลาดครับ หากคุณกำลังมองหานาฬิกามาเพิ่มเติมให้กับกรุหรือเป็นเพื่อนคู่กายแล้วล่ะก็ แนะนำให้ไปเยี่ยมชมด้วยตัวเองเลยครับ เผื่อเวลาในการชมไว้เยอะๆ นะครับจะได้เลือกชมกันอย่างจุใจ ขอให้ได้นาฬิกาที่ถูกใจติดข้อมือกลับบ้านนะครับ

 

 

By: Viracharn T.