LM Sequential EVO by MB&F

LM Sequential EVO เป็นผลงานด้านกลไกคาลิเบอร์ที่ 20 ของ MB&F ในช่วงเวลาเพียง 17 ปีของการทำงานตั้งแต่เริ่มต้น และยังถือเป็นกลไกโครโนกราฟครั้งแรกของแบรนด์ โดยผ่านการคิดค้นร่วมกันกับ Stephen McDonnell ผู้ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สร้างสรรค์กลไกแบบเพอร์เพทชวลคาเลนดาร์ให้กับ MB&F และคว้ารางวัลมาแล้วสำหรับผลงานรุ่น LM Perpetual

 

MBF Legacy Machine Sequential EVO Chronograph Featured

 

โดยกลไกของ LM Sequential EVO จะผสานด้วยคอลัมน์วีลของชุดโครโนกราฟสองตัว และสวิตช์สองสถานะ “ทวินเวอร์เตอร์” (Twinverter) ที่ช่วยในการจับเวลาได้ในหลายโหมด ซึ่งรวมไปถึงโหมดสปลิท-เซคกันด์ (split-second) และจับเวลารอบ (lap timer) ซึ่งนับเป็นการผสมผสานการทำงานของชุดกลไก ในแบบที่ยังไม่เคยปรากฏมาก่อนในนาฬิกาโครโนกราฟใดๆ

 

MBandF LM Sequential 014

 

มีตัวเรือนที่ผลิตจากเซอร์โคเนียม พร้อมทั้งคุณสมบัติด้านการกันน้ำระดับ 80 เมตร พร้อมเม็ดมะยมแบบหมุนเกลียวลง และสายยางแบบผสาน พร้อมระบบซับแรงสะเทือน “เฟล็กซ์ริง”(FlexRing) ในชุดกลไก โดยแม้ Maximilian Büsser เจ้าของแบรนด์ MB&F จะไม่เคยกล่าวว่า MB&F จะไม่ทำนาฬิกาโครโนกราฟ แต่สิ่งที่เขาเคยกล่าวไว้ก็คือ MB&F จะไม่สร้างโครโนกราฟที่เหมือนกับนาฬิกาโครโนกราฟอื่นๆ ทั่วไป

 

MBandF LM Sequential Orange Closeup preview

 

และสำหรับผู้ที่เข้าใจเหมือนกันกับ MB&F ย่อมรู้ดีเสมอว่านี่หมายถึงสิ่งใด เพราะกลไกซับซ้อนทั้งหมดนี้มักต้องมาพร้อมกับการใช้เวลา ทั้งด้านการพัฒนาและสร้างสรรค์ในขณะเดียวกันและสิ่งที่ดีกว่าก็ย่อมต้องมาพร้อมกับเวลาที่มากขึ้นเช่นนี้ โดยหลังจาก 17 ปีของการสร้างสรรค์ศิลปะแห่งเครื่องบอกเวลา MB&F ก็บรรลุถึงสิ่งนี้พร้อมมอบสิ่งที่ดียิ่งกว่าให้กับทุกคน

 

Screen Shot 2565 06 27 at 22.15.30

 

แผ่นหน้าปัดของ LM Sequential EVO จะมีให้เลือกในเฉดสีส้มอะตอมมิค (atomic orange) หรือสีดำโคล (coal black) และมาพร้อมกับการแสดงค่าเวลาโครโนกราฟสองชุด โดยชุดหนึ่งประกอบด้วยการแสดงการจับเวลาวินาทีของตน ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา และแสดงการจับเวลานาที ณ ตำแหน่ง 11 นาฬิกา ส่วนอีกชุดนั้นจะแสดงการจับเวลาวินาทีของตน ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และแสดงการจับเวลานาที ณ ตำแหน่ง 1 นาฬิกา

 

mbandf legacy machine sequential evo cover crop w1396 h781 1396x781

 

แต่ละชุดการแสดงโครโนกราฟจะสามารถเริ่มต้น หยุด และรีเซ็ตใหม่ได้อย่างอิสระ สำหรับแต่ละการแสดงค่าโดยการใช้ปุ่มกดเริ่มต้น หยุด และรีเซ็ต ที่ด้านข้างของตัวเรือนที่สอดคล้องกับตำแหน่งโครโนกราฟของแต่ละชุดตามลำดับ ซึ่งนั่นทำให้มีปุ่มกดโครโนกราฟทั้งหมดถึงสี่ปุ่ม ที่จะใช้งานเชื่อมโยงกับกลไกโครโนกราฟทั้งสองชุดในนาฬิกาเรือนเดียวกันนี้

 

Screen Shot 2565 06 27 at 22.26.38

 

และด้วยฟังก์ชันการสับเปลี่ยนที่มาพร้อมกับทวินเวอร์เตอร์ ยังช่วยให้ LM Sequential EVO สามารถทำได้ในสิ่งที่ไม่เคยทำได้ในนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟใดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น “โหมดอิสระ” (independent mode) ซึ่งเป็นการจับวัดช่วงระยะเวลาของหลายๆ เหตุการณ์ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดแยกกัน แม้ว่าเหตุการณ์นั้นๆ จะคาบเกี่ยวกันในโหมดการจับเวลา

 

MBandF LM Sequential Black Wristshot2 HRES

 

“โหมดพร้อมกัน” (“simultaneous mode”) เป็นการจับวัดแต่ละช่วงระยะเวลาของสองเหตุการณ์ ที่เริ่มต้นขึ้นพร้อมกันแต่มีจุดสิ้นสุดที่ต่างกัน หรือจะเป็น “โหมดสะสม” (cumulative mode) ที่เป็นการจับวัดแต่ละช่วงระยะเวลาสะสมของสองเหตุการณ์ที่ไม่ต่อเนื่อง รวมไปถึง “โหมดต่อเนื่อง (หรือโหมดรอบ)” (“sequential mode (or lap mode)) ที่เป็นการจับแต่ละช่วงระยะเวลาย่อยของหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายระยะต่อเนื่องกัน

 

https hypebeast.com image 2022 06 mbf debut chronograph lm sequential evo two timers in one 01

 

ในขณะนี้ที่ MB&F กำลังขยายพรมแดนเข้าสู่ทศวรรษที่สอง และจะเป็นช่วงเวลาสำคัญในการนำพาแบรนด์ ไปสู่อีกหนึ่งระดับของความล้ำเลิศด้านการผลิตเครื่องบอกเวลา โดยคาลิเบอร์ชุดที่ 20 ของ MB&F นี้ถือเป็นมากกว่าเครื่องบันทึกเวลา แต่ยังเป็นเครื่องบันทึกประวัติศาสตร์ระหว่าง Max และแบรนด์ที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น พร้อมกับช่างนาฬิกาผู้ซึ่งอยู่คู่เคียงกันมานานนับตั้งแต่การเริ่มต้น

MBandF LM Sequential 008