ผลงานนาฬิกาสุดพิเศษจาก DEMONACO ที่ได้ผู้ผลิตสุดยอดไฮเปอร์คาร์ PRATO มาเป็นพันธมิตรร่วมสร้างสรรค์

 

 

By Viracharn Termpipatpong

 

การทำตลาดร่วมกันของผู้ผลิตนาฬิกากับผู้ผลิตยนตรกรรมเป็นกลยุทธ์อมตะที่อยู่คู่กับสองวงการนี้มาเนิ่นนานแล้ว โดยมีความสอดคล้องของภาพลักษณ์และระดับของแบรนด์เป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ ที่ต้องคำนึงถึง ATELIERS DEMONACO (อทิลิเยร์ เดอโมนาโก) ผู้ผลิต DEMONACO (เดอโมนาโก) นาฬิกาหรูระดับไฮเอนด์ของสวิสที่ถือกำเนิดจากแรงบันดาลใจของความงามสง่าแห่งราชรัฐโมนาโก ก็เป็นอีกแบรนด์ที่นำกลยุทธ์นี้มาใช้โดยเริ่มขึ้นเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา ซึ่งแบรนด์ยนตรกรรมที่เข้ามาเป็นพันธมิตรก็คือ PRATO AUTOMOBILES (พราโต ออโตโมบิลส์) ผู้ผลิตไฮเปอร์คาร์ระดับมาสเตอร์พีซ ผู้มีฐานที่ตั้งอยู่ที่เทือกเขาแอลป์ในเขตประเทศฝรั่งเศส

DMC SM Prato Dubai partner IG 800x296

แรงบันดาลใจจากไฮเปอร์คาร์ PRATO สู่นาฬิการะดับมาสเตอร์พีซของ ATELIERS DEMONACO
เมื่อปี 2017 PRATO เปิดตัวผลงานชิ้นแรกของพวกเขาด้วย Orage สุดยอดรถยนต์ไฮเปอร์คาร์ ที่เหนือชั้นกว่าซูเปอร์คาร์ทั่วไปซึ่งนอกจากงานออกแบบรูปทรงที่มีความสปอร์ตสุดขั้วและเครื่องยนต์วี 8 กำลังสูงถึง 900 แรงม้าซึ่งเป็นพลังบริสุทธิ์จากเครื่องยนต์เพียวๆ ที่ไร้ซึ่งอุปกรณ์อัดอากาศใดๆ แล้ว ยังมีการนำที่สุดแห่งความล้ำสมัยมาใช้กับรถมากมาย เช่น ตัวถังรถที่ทำจากวัสดุอัลตร้า-ไลต์ คาร์บอน ไฟเบอร์ ซึ่งให้ทั้งความเบาและความแข็งแกร่ง อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่ใช้ในอากาศยาน และยังเป็นรถรุ่นแรกที่นำเทคโนโลยี OLED มาใช้อย่างสมบูรณ์

 PRATO Orage 19

 

PRATO Orage 20

 

ความเลิศของ Orage ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจให้ ATELIERS DEMONACO สร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษขึ้นมา โดยนำเอานาฬิการุ่นปัจจุบันมาปรับแต่งทั้งในด้านของวัสดุและรูปแบบการตกแต่ง เริ่มด้วยรุ่น Tourbillon Oculus 1297 Orage ซึ่งเผยโฉมในช่วงปลายปี 2017 แล้วจึงตามมาด้วยรุ่น Admiral Chronographe Flyback Prato ที่เพิ่งเปิดตัว ณ งานบาเซิลเวิลด์ 2018 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

 

DMC TB OCG RLW CWG ORAGE COVER

 

Tourbillon Oculus 1297 Orage
นาฬิกาทูร์บิยองสุดพิเศษที่ผลิตให้กับผู้เป็นเจ้าของรถ Orage เท่านั้น
จากพื้นฐานของรุ่น Tourbillon Oculus 1297 นาฬิกาที่ใช้กลไกทูร์บิยอง อินเฮ้าส์ ซึ่งถือหนึ่งในกลไกทูร์บิยองที่ควบคุมการแสดงเวลาได้อย่างแม่นยำที่สุดในโลกด้วยระดับความคลาดเคลื่อนแค่ระหว่าง 0-2 วินาทีต่อวัน พร้อมความโดดเด่นของบริดจ์ทูร์บิยองที่ทำจากแซฟไฟร์ใส ถูกนำมาปรับแต่งใหม่เพื่อให้ได้ทั้งอารมณ์และประสิทธิภาพแบบสปอร์ตสุดขั้วเฉกเช่นรถ Orage ด้วยการนำวัสดุอัลตร้า-ไลต์ คาร์บอน ไฟเบอร์ เฉกเช่นเดียวกับตัวถังรถ Orage มาสร้างเป็นชิ้นตัวเรือน ซึ่งนอกจากความแข็งแกร่งและน้ำหนักที่เบาแล้ว ยังให้พื้นผิวสีดำที่มีริ้วลายแปลกตารวมอยู่ในเนื้อวัสดุด้วยโดยยังคงมีขนาด 44 มม. เท่ากับเอดิชั่นอื่นๆ ส่วนพื้นหน้าปัดหลักซึ่งยังคงเป็นลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนผิวดุนนูนเช่นเดียวกับเอดิชั่นอื่นนั้นถูกทำเป็นสีเทาเข้มด้วยการเคลือบพีวีดี และมีการเว้นช่วงลายให้เป็นแถบสำหรับสลักหมายเลขประจำเรือนและชื่อรุ่น Orage เพื่อบ่งบอกความพิเศษ แล้วก็มีการทำร่องให้เป็นวงแหวนโดยรอบหน้าปัดเพื่อเป็นพื้นที่สำหรับสลักชื่อแบรนด์ PRATO AUTOMOBILES ด้วย ขณะที่วงหน้าปัดสำหรับแสดงเวลานั้นจะเป็นแบบ 2 ระดับชั้นโดยมีพื้นเป็นวัสดุเดียวกับหน้าปัดและซ้อนทับด้วยโครงสีเงินฉลุโปร่งเป็นหลักชั่วโมงเลขโรมันและชี้แสดงเวลาด้วยเข็มสีเงิน เพื่อขับเน้นการแสดงเวลาให้โดดเด่น

 

สิ่งพิเศษอีกอย่างของรุ่นนี้ก็คือ สายนาฬิกาสีดำที่นำหนังจระเข้มาทำเป็นลายคาร์บอนและเย็บตะเข็บด้วยด้ายที่เป็นเส้นใยผสมไวท์โกลด์ และใช้ตัวล็อคสายแบบบานพับที่ทำจากวัสดุไวท์โกลด์และคาร์บอนโดยมีชิปอิเล็กโทรนิกสำหรับส่งสัญญาณเปิดล็อคและสตาร์ทรถ Orage ฝังเอาไว้ภายในตัวล็อคเพื่อให้นาฬิกาทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์หนึ่งของรถ Orage
Tourbillon Oculus 1297 Orage ถูกผลิตขึ้นมาแบบจำนวนจำกัดเพียงแค่ 19 เรือนเท่านั้น ซึ่งก็เท่ากับจำนวนการผลิตที่ PRATO กำหนดไว้สำหรับรถ Orage ซึ่งหมายเลขประจำเรือนของนาฬิกาก็จะจับคู่กับหมายเลขประจำรถด้วย นั่นหมายความว่านาฬิกาสุดพิเศษรุ่นนี้ถูกผลิตขึ้นสำหรับผู้เป็นเจ้าของรถ Orage แต่ละคันเท่านั้น

DMC TB OCG RLW CWG ORAGE S1

Tourbillon Oculus 1297 Orage
Reference: dMc-TB-OCG-RLW-CWG-ORAGE
ตัวเรือน: ขนาด 44 มม. หนา 13.1 มม. ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนทั้งหมด 31 ชิ้น; แกนตัวเรือนวัสดุไทเทเนียม; ชิ้นส่วนตัวเรือนวัสดุอัลตร้า-ไลต์ คาร์บอน ไฟเบอร์
กระจก: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน; ผนึกกระจกแซฟไฟร์ป้องกันแสงสะท้อนบนฝาหลัง
หน้าปัด: เคลือบพีวีดีสีเทาเข้ม ลายสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนดุนนูน; หน้าปัดแสดงเวลาแบบ 2 ระดับชั้น วัสดุอัลตร้า-ไลต์ คาร์บอน ไฟเบอร์ และโครงสีเงินฉลุโปร่งเป็นหลักชั่วโมงเลขโรมัน
เข็ม: ทรงดอฟีน สีเงิน
สาย: หนังจระเข้สีดำ ลายคาร์บอน เย็บตะเข็บด้วยเส้นใยผสมไวท์โกลด์
ตัวล็อคสาย: แบบบานพับ วัสดุไวท์โกลด์และคาร์บอน ฝังชิปอิเล็กโทรนิกสำหรับเปิดล็อคและสตาร์ทรถ Orage เอาไว้ภายใน
กลไก: อินเฮ้าส์ อัตโนมัติ คาลิเบอร์ dMc-980 ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง ควบคุมการทำงานด้วยทูร์บิยอง XP1 สิทธิบัตรของแบรนด์; บริดจ์ทูร์บิยองเป็นแซฟไฟร์ใส; เอสเคปวีลและเลเวอร์ วัสดุซิลิเซียม; โรเตอร์ทองคำ 22 เค สลักตกแต่งด้วยมือ
จำนวนการผลิต: ลิมิเต็ด เอดิชั่น จำนวนจำกัด 19 เรือน

 Prato Automobiles Orage 5


PRATO Orage ไฮเปอร์คาร์น้ำหนักเบาเพียง 1,392 กก. แต่มีพลังสูงถึง 900 แรงม้า และมีแรงบิดสูงถึง 1,044 นิวตัน-เมตร จากขุมพลังวี 8 ขับเคลื่อนล้อหลัง ส่งกำลังด้วยเกียร์แมนวล 6 สปีด ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.8 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 370 กม./ชม.

 DMC CHR CRG SB PR

 

Admiral Chronographe Flyback Prato
ผลงานลำดับที่สองจากความร่วมมือของ Prato ก็คือนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นนี้ซึ่งออกแบบการตกแต่งใหม่บนพื้นฐานของรุ่น Admiral Chronographe Flyback และหนนี้ก็เป็นการผลิตให้คนรักนาฬิกาเป็นเจ้าของกันได้โดยไม่ต้องครอบครองรถ Prato อย่างรุ่นทูร์บิยองที่เปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้
คอนเซ็ปต์การตกแต่งของรุ่นนี้ยังคงเน้นความเป็นสปอร์ตแบบสมัยใหม่ตามสไตล์ของรถ Prato Orage โดยแยกลักษณะออกเป็น 2 สไตล์ คือ เอดิชั่นแบบคลาสสิกซึ่งใช้ตัวเรือนสตีลขัดเงา ร่วมด้วยเข็มและขอบวงหน้าปัดขนาดเล็กสีเงิน พร้อมหน้าปัดคาร์บอนไฟเบอร์สีดำที่ผสมกับไวท์โกลด์ 18 เค เพื่อให้เกิดริ้วลายสีเงินบนเนื้อวัสดุ และเอดิชั่นแบบสปอร์ตหรูซึ่งใช้ตัวเรือนสตีลเคลือบดีแอลซีสีดำ ร่วมกับเข็มและขอบวงหน้าปัดขนาดเล็กสีโรสโกลด์ พร้อมหน้าปัดคาร์บอนไฟเบอร์สีดำที่ผสมกับโรสโกลด์ 18 เค ให้เกิดริ้วลายสีทอง กำเนิดเป็นความหรูหราในรูปแบบอันแปลกใหม่น่าสนใจ ขณะที่ชิ้นหลักชั่วโมงของทั้ง 2 เอดิชั่นนั้นล้วนใช้เป็นเลขโรมันขัดเงารูปทรงโค้งนูนมีมิติที่เคลือบด้วยพีวีดีสีดำ และมีโลโก้ของทั้ง DEMONACO และ PRATO ในโทนสีเดียวกับเข็มกำกับเอาไว้บนหน้าปัดด้วย

  

DMC CHR CRG SB

 

หน้าปัดคาร์บอนไฟเบอร์สีดำที่มีริ้วลายทองคำ 18 เค ปรากฏอยู่นั้น เป็นลักษณะของวัสดุที่ทางแบรนด์ได้พัฒนาขึ้นและนำมาใช้เป็นครั้งแรกในวงการนาฬิกาโดยได้แรงบันดาลใจมาจากเทคนิคการทำวัสดุฟอร์จด์คาร์บอนในวงการรถยนต์ โดยนำเอาคาร์บอนไฟเบอร์ ทองคำ และเรซิ่น มาผสมกันแล้วบรรจุไว้ในแม่พิมพ์จากนั้นก็ให้ความร้อนและอัดขึ้นรูป แล้วจึงนำมาแต่งเข้ารูปด้วยความประณีตพิถีพิถัน หน้าปัดแต่ละชิ้นจึงมีลวดลายเฉพาะเป็นของตัวเองไม่ซ้ำกัน ซึ่งก็ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนมีความเป็นยูนีกไม่ซ้ำกัน
คุณสมบัติทางเทคนิคของทั้ง 2 เอดิชั่น ยังเป็นเช่นเดียวกับเอดิชั่นวัสดุสตีลของรุ่นนี้ที่มีจำหน่ายอยู่แล้ว ซึ่งมีความเหนือชั้นตั้งแต่ตัวเรือนขนาด 42 มม. ที่ผ่านกระบวนการ อาร์เมียวร์ (Armure) ให้มีความต้านทานต่อการขีดข่วนสูงกว่าวัสดุสตีลปกติถึง 5 เท่า อันเป็นกระบวนการทางเคมีที่กระจายคาร์บอน ณ อุณหภูมิต่ำ ลงไปบนวัสดุ ไปจนถึงเครื่องอินเฮ้าส์ ที่ยอดเยี่ยมด้วยโมดูลโครโนกราฟที่มีระบบกลไกฟลายแบ็คเป็นแบบ ไดเร็คต์ รีเทิร์น ทู ซีโร่ นวัตกรรมสิทธิบัตรของแบรนด์ อันเป็นรูปแบบใหม่ที่ทำให้การตีกลับของเข็มไปที่ตำแหน่งศูนย์มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นกว่าระบบเดิมๆ

 

DMC CHR CWG S PR

 

Admiral Chronographe Flyback Prato
Reference: dMc-CHR-CRG-SB (เอดิชั่นตัวเรือนเคลือบดีแอลซีสีดำ)
Referece: dMc-CHR-CWG-S (เอดิชั่นตัวเรือนขัดเงา)
ตัวเรือน: ขนาด 42 มม. หนา 13.3 มม.; วัสดุสตีล ผ่านกระบวนการ อาร์เมียวร์
กระจก: กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์ เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน; ผนึกกระจกแซฟไฟร์ป้องกันแสงสะท้อนบนฝาหลัง
หน้าปัด: คาร์บอนไฟเบอร์ สีดำ ผสมโรสโกลด์ 18 เค หรือไวท์โกลด์ 18 เค; หลักชั่วโมงเลขโรมันขัดเงา เคลือบพีวีดีสีดำ; ขอบวงหน้าปัดขนาดเล็กสีโรสโกลด์ หรือสีเงิน
เข็ม: ทรงดอฟีน สีโรสโกลด์ หรือสีเงิน
สาย: หนังจระเข้สีดำ
ตัวล็อคสาย: แบบบานพับ วัสดุสตีลเคลือบดีแอลซีสีดำ หรือวัสดุสตีล
กลไก: อินเฮ้าส์ อัตโนมัติ คาลิเบอร์ dMc-760 ความถี่ 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง กำลังสำรอง 38 ชั่วโมง; โมดูลโครโนกราฟ พร้อมระบบกลไกฟลายแบ็คแบบ ไดเร็กต์ รีเทิร์น ทู ซีโร่ สิทธิบัตรของแบรนด์; โรเตอร์ทองคำ 22 เค สลักตกแต่งด้วยมือ
ฟังก์ชั่น: โครโนกราฟ จับเวลาได้ 30 นาที พร้อมฟังก์ชั่นฟลายแบ็ค
จำนวนการผลิต: ลิมิเต็ด เอดิชั่น จำนวนจำกัด เอดิชั่นละ 88 เรือน