นวัตกรรมและวัสดุศาสตร์ในแบบเฉพาะของ RADO

 

RADO เป็นแบรนด์นาฬิกาที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบ นวัตกรรมต่างๆ และการปฏิวัติการใช้วัสดุ เพื่อสร้างสรรค์เป็นนาฬิกาที่สวยที่สุด พร้อมความทนทานเป็นที่สุด นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นในเมืองเลงนาว ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ RADO ยึดมั่นในปรัชญาของแบรนด์ที่ว่า “ถ้าสามารถจินตนาการได้ ก็สามารถสร้างขึ้นมาได้” ซึ่งยังคงปรากฏอยู่ในนาฬิกาทุกเรือนจาก RADO

 

Screen Shot 2564 02 10 at 09.31.34

 

ในปี 1917 จากโรงงานผลิตนาฬิกา SCHLUP&CO. ที่ก่อตั้งขึ้นโดยพี่น้อง Fritz, Ernst และ Werner ในแบบเรียบง่ายในพื้นที่บ้านของพวกเขา จนได้รับการดัดแปลงและกลายเป็นบ้านเกิดของ RADO รวมทั้งการประสบความสำเร็จจนกลายเป็นหนึ่งในโรงงานผลิตนาฬิกา ที่ใหญ่ที่สุดในโลกช่วงสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2

 

Screen Shot 2564 02 10 at 09.35.21

 

ปี 1950-1959 โรงงาน SCHLUP&CO. เริ่มการขายนาฬิกาภายใต้ชื่อแบรนด์ RADO โดยมีนาฬิกาคอลเลคชั่น Golden Horse เป็นรุ่นเด่นกับความสามารถพิเศษด้านการกันน้ำ จนสามารถจำหน่ายออกสู่ตลาดต่างประเทศได้กว่า 61 แห่งทั่วโลก

 

Screen Shot 2564 02 10 at 09.37.06

 

ในปี 1960-1969 RADO ก็สร้างความแตกต่างในตลาดขึ้น ด้วยนาฬิกาคอลเลคชั่น DiaStar 1 กับคุณสมบัติการกันรอยขีดข่วนรุ่นแรกของโลก นอกจากนี้ยังสามารถสวมใส่ได้อย่างสบาย มีความทนทาน รวมทั้งสไตล์ที่โดดเด่น จากการนำโลหะแข็งและกระจกแซฟไฟร์มาหลอมรวมกัน

 Screen Shot 2564 02 10 at 22.51.07

 

Screen Shot 2564 02 10 at 09.40.31

 

ในปี 1970-1989 การออกแบบและนวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ของ RADO ยังคงมีนำเสนออย่างต่อเนื่อง โดยมีนาฬิกาคอลเลคชั่น DiaStar ในแบบสีทองนำเสนอออกสู่ตลาด ตามมาด้วยนาฬิกาคอลเลคชั่น Dia 67 ที่เรียบง่ายและมีจุดเด่นในเรื่องโครงสร้างตัวเรือนแบบคริสตัลแซฟไฟร์ไร้ขอบ จนกระทั่งถึงนาฬิกาคอลเลคชั่น Integral ที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกา ด้วยการใช้ไฮเทคเซรามิคผลิตเป็นสายนาฬิกา และทำให้นาฬิกาคอลเลคชั่นนี้ ปราศจากรอยขีดข่วนในทุกจุดของนาฬิกา

Screen Shot 2564 02 10 at 09.41.08

 

Screen Shot 2564 02 10 at 22.53.03

 

ปี 1990-1999 RADO คอลเลคชั่น Ceramica ทำให้โลกได้เห็นถึงตัวเรือนนาฬิกาในแบบบูรณาการ ที่ต่อยอดจากไฮเทคเซรามิค ตามด้วยคอลเลคชั่น Sintra ที่มีตัวเรือนผลิตจากเซอร์เมท ซึ่งเป็นเซรามิคที่ใช้ไทเทเนียมเป็นวัสดุผสมหลัก เพื่อหลอมรวมกับโลหะต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการใช้พลาสม่าไฮเทคเซรามิคกับนาฬิกาคอลเลคชั่น Ceramica อีกครั้ง เพื่อให้นาฬิกามีสีสันที่พิเศษและเปล่งประกายแสงมากยิ่งขึ้น

 

Screen Shot 2564 02 10 at 09.41.49

 

Screen Shot 2564 02 10 at 22.54.39

 

ในปี 2000-2009 eSenza เป็นนาฬิกาจาก RADO คอลเลคชั่นแรกมีชุดกลไกที่ไร้เม็ดมะยม รวมทั้งนาฬิกาคอลเลคชั่น V10K ที่ผลิตตัวเรือนขึ้นจากเพชรโดยมีความแข็งที่ระดับ 10,000 วิกเกอร์ และมีความยืดหยุ่นในแบบเพชรแท้ครบทุกประการ จนถึงการเปิดตัว r5.5 ที่ถือเป็นผลงานชิ้นเอกด้านการออกแบบของ RADO ที่เป็นผลิตผลจากนักออกแบบชาวอังกฤษชื่อดัง Jasper Marrison

 

Screen Shot 2564 02 10 at 22.56.17

 

Screen Shot 2564 02 10 at 22.58.43

 

ปี 2010-ปัจจุบัน True Thinline เป็นบทพิสูจน์ความสามารถด้านการคิดค้นและผลิตของ RADO ที่ทำให้ตัวเรือนสามารถมีความบางได้ถึงระดับ 5 มิลลิเมตร จนถึงนาฬิกาคอลเลคชั่นในแบบสปอร์ตชิค HyperChrome ที่สร้างตัวเรือนขึ้นในแบบชิ้นเดียวและไม่ต้องใช้สตีลเป็นแกนกลาง นอกจากนี้ยังมี Esensa Touch ที่ใช้การสัมผัสในการตั้งเวลา รวมทั้งนาฬิกาคอลเลคชั่น HyperChrome Dual Timer ที่สามารถเปลี่ยนเวลาไทม์โซนได้ด้วยการสัมผัส จนถึงการนำเสนอนาฬิกาที่ผลิตจากไฮเทคเซรามิคสีช็อคโกแลต ที่ถือเป็นอีกหนึ่งในความสำเร็จของ RADO ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

Screen Shot 2564 02 10 at 09.44.52

 

 

 

Rado Slide Banner 01 1920x720px