REUGE Onkõ, Ode to lightness

ความสบายตาและเปิดกว้าง  เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของชิ้นงานหลากหลายแขนง ซึ่งในงานการสร้างสรรค์ภายใต้แรงผลักดันของ Denis Flageollet ผู้ก่อตั้งและช่างนาฬิการะดับปรมาจารย์ของ DeBETHUNE ร่วมกับ Clara Martin ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์วัยเยาว์ ผู้ซึ่งร่วมกันสร้างชีวิตใหม่ให้กับ REUGE ที่มาพร้อมความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบวัตถุ

 

Onko Reuge 02

 

พร้อมความกลมกลืนทางกลไกแห่งเสียง ที่พร้อมเปิดกว้างเพื่อเผยให้เห็นถึงประสบการณ์ที่จะปลุกประสาทสัมผัส ซึ่งถือเป็นบทกวีแห่งอนาคตของ REUGE โดย Onkõ เกิดจากความปรารถนาที่จะทำให้เห็นถึง ความสัมพันธ์กันระหว่างวัสดุโลหะและไม้ พร้อมความกลมกลืนระหว่างดนตรีและกลไก เพื่อเผยให้เห็นทิศทางที่สร้างสรรค์แนวใหม่

 

Onko Reuge 01

 

อันมาจากความทะเยอทะยานสู่แนวคิดทางด้านเทคนิค และสุนทรียศาสตร์ของสองวัตถุนี้ให้เข้ากัน จากทักษะอันยอดเยี่ยมในด้านฝีมือและความประณีตที่ฝึกฝนมาในระดับสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นในการผลิตเครื่องมือหรือกลไกทางศิลปะต่างๆ ที่ความมหัศจรรย์ของเสียงและความน่าหลงใหล ของการเคลื่อนไหวเป็นวิถีสูงสุดของกลไกการทำงาน

 

cov 9

 

ที่จะก่อให้เกิดสมาธิและความผ่อนคลาย ที่ร่วมกันสร้างความรู้สึกประหลาดที่แตกต่าง และยังเน้นย้ำถึงงานฝีมืออันยอดเยี่ยมผสมผสานกับความเป็นเลิศทางเทคนิคของกลไกเสียง โดยชื่อ Onkõ นี้มาจากคำย่อในภาษาญี่ปุ่นของ "on" สำหรับเสียงและ "kõ" สำหรับแสง พร้อมกลไกการเปิดและปิดตามเสียงเพลง เสมือนกลีบดอกไม้หรือคำอุปมา

 

Onko Reuge 04

 

โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโคมไฟโทโร ซึ่งเป็นโคมของญี่ปุ่นพร้อมสัญลักษณ์ที่ชวนให้นึกถึงองค์ประกอบทั้งห้าของจักรวาล ได้แก่ เอิร์ธ-ชี่ น้ำ-ซุย ไฟ-คา ลม-ฟู และสเปซ-คู โดย Onkõ รวบรวมองค์ประกอบพื้นฐานทั้งห้าไว้ ในขณะที่แสดงตัวเป็นตัวแทนของคำอุปมา และการแสดงตัวตนทางเสียงในอัตลักษณ์ใหม่ของ REUGE เช่นเดียวกับเสียงกระซิบแผ่วเบา

 

Onko Reuge 03

 

ซึ่งเผยให้เห็นใต้แผ่นไม้สีบลอนด์เรียวยาว พร้อมเส้นโค้งที่อ่อนโยนตามรูปร่าง ที่ยังคงไว้ซึ่งกลไกอย่างครบถ้วน ซึ่งถือเป็นความเรียบง่ายแบบญี่ปุ่นและเป็นปรัชญาชีวิตที่เชิญชวนให้เกิดความสุขุม เช่นเดียวกับศิลปะในการอยู่ร่วมกันด้วยความเป็นอยู่ที่ดี นุ่มนวล และผ่อนคลาย ร่วมกันทำให้ Onkõ มีเสน่ห์ น่าหลงใหล และน่ามหัศจรรย์เมื่อได้สัมผัส