The Review of RADO Captain Cook Automatic Steel with Green

 

คอลเลคชั่นนาฬิกา RADO ในรุ่น Captain Cook ถือเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมการผลิตของ RADO มาตั้งแต่ช่วงปี 1950-1960 ด้วยรูปทรง สีสัน และวัสดุ รวมไปถึงสัมผัสด้านการออกแบบที่ทนทาน ที่ดึงเอาองค์ประกอบสำคัญที่ยอดเยี่ยมในอดีต กลับมาพัฒนาใหม่ในหลากหลายส่วน

 

o 1eqd1necolsv17pq15oqv2fuehk

 

จากผลงานการดีไซน์แบบดั้งเดิมในปี 1962 ที่ถูกนำมาชุบชีวิตใหม่อีกครั้ง พร้อมการพัฒนาเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในศตวรรษที่ 21 ในรายละเอียดสไตล์วินเทจและรูปแบบ ที่ถูกถ่ายทอดมาจากอดีตอย่างครบถ้วน ผนวกกับคุณลักษณะที่ทันสมัย เพื่อให้นาฬิกาเรือนนี้สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน

 

IMG 2153

 

RADO Captain Cook Automatic จึงเป็นนาฬิกาที่ออกแบบมาเพื่อมอบความงาม ในสไตล์คลาสสิคที่อยู่เหนือกาลเวลา ที่โดดเด่นในรูปลักษณ์ภายนอกพร้อมความสามารถภายใน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุที่ทันสมัยในยุคปัจจุบัน อย่างไฮเทคเซรามิคที่ขอบเบเซิลในโทนสีต่างๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย

 

IMG 2090

 

หรือจะเป็นกลไกอัตโนมัติที่บรรจุอยู่ภายในตัวเรือน พร้อมความสามารถในการกันน้ำได้อย่างเหมาะสม จากรูปแบบการใช้ฝาหลังตัวเรือนในแบบผนึกด้วยการขันเกลียว รวมทั้งเม็ดมะยมที่ใช้สำหรับการตั้งเวลาในแบบขันเกลียวเช่นเดียวกัน

 

IMG 2053

 

กับตัวเรือนสตีลในขนาด 42 มิลลิเมตร หนา 12.3 มิลลิเมตร มีน้ำหนักรวมที่ 165 กรัม กันน้ำได้ในระดับ 300 เมตร กรุกระจกแซฟไฟร์พร้อมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ขอบเบเซิลที่ผลิตจากสตีลผนึกเข้ากับไฮเทคเซรามิค พร้อมการขัดเงาของตัวเรือนที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้น

 

IMG 2096

 

หน้าปัดสีเขียวแบบโดมตามสไตล์นาฬิกาวินเทจ พร้อมหน้าต่างแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา โดยใช้เป็นตัวเลขสีแดงเพื่อความเด่นชัดในการอ่านค่า ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติ ที่ให้พลังสำรองลานนานถึง 80 ชั่วโมง ใช้งานคู่กับสายสตีล พร้อมบานพับแบบสองด้านที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย

Screen Shot 2564 03 08 at 23.50.52

โดยสิ่งแรกที่สะดุดตาในทันทีเมื่อแรกเห็น ก็คือโทนสีเขียวของหน้าปัดและขอบเบเซิล โดยหน้าปัดจะมีรูปแบบทรงโดมอันเป็นเอกลักษณ์ตามนาฬิกาเรือนดั้งเดิม พร้อมความโค้งมนของขอบหน้าปัดด้านในบริเวณมาร์กเกอร์ ที่มีส่วนงุ้มลงตามหน้าปัดในทั้ง 12 ตำแหน่ง

Screen Shot 2564 03 08 at 23.46.48

 

ให้สีสันที่มีมิติจากหลากหลายมุมมอง โดยบริเวณกึ่งกลางหน้าปัดจะมีสีสะท้อนที่แตกต่าง จากความโค้งเล็กน้อยบริเวณกึ่งกลางนี้ ซึ่งทำให้บางมุมมองดูมีสีเข้ม และบางมุมมองมีสีอ่อน ตามลักษณะของแสงที่ตกกระทบ พร้อมกับขอบอินเนอร์ริงสีเงินพร้อมแทร็ควินาที ที่ช่วยทำให้หน้าปัดดูเต็มขอบด้านใน

Screen Shot 2564 03 08 at 23.46.59

 

นอกจากนี้ขอบเบเซิลสีเขียวที่ผลิตจากวัสดุไฮเทคเซรามิค อันเป็นหนึ่งในวัสดุที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญของ RADO ยังทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความหรูหราอย่างครบถ้วน พร้อมความเงาของทั้งชิ้นไฮเทคเซรามิค ที่มีการผนึกตัวเลข เครื่องหมายสามเหลี่ยม และขีดไว้อย่างครีบถ้วนตามสไตล์นาฬิกาสำหรับการดำน้ำ

 

1 Rado Captain Cook dial overall

 

อีกจุดเด่นสำคัญคือชุดบานพับของสายสตีล ที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนียมเพื่อป้องกันการระคายเคืองกับผิวหนัง พร้อมความโค้งมนเข้ารูปกับด้านล่างของข้อมือ ผนวกกับรูปแบบการกดปุ่มเพื่อปลดล็อคชุดสาย ในขณะที่ข้อต่อสายชุดแรกที่ติดกับตัวเรือน ยังมีปุ่มคลายล็อคเพื่อทำการปลดสายได้อย่างง่ายดายด้วยตัวเอง

 

IMG 2163

 

และเอื้ออำนวยให้การเปลี่ยนสายเพื่อเปลี่ยนลุคให้กับนาฬิกา เป็นไปอย่างสะดวกสบายได้ในทุกวัน โดยมีออปชั่นชุดสายให้เลือกในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบสายหนังพร้อมชุดดีพลอยแอนท์บัคเคิลในหลากหลายสีสัน หรือจะเป็นแบบสายผ้านาโต้พร้อมหัวเข็มขัดในอีกลุควินเทจ

 

IMG 2169

 

พร้อมทั้งสายสตีลในแบบเมล็ดข้าว ที่ให้ลุควินเทจตามสไตล์นาฬิกาแบบดั้งเดิมของ RADO ที่ให้ทั้งความสบายในการสวมใส่ และรูปแบบที่แตกต่างไปจากนาฬิกาสปอร์ตทั่วๆ ไป กับองค์ประกอบของสายสตีลในแบบขัดเงาสลับการขัดแบบด้าน

sub image 1

ซึ่งความสำคัญที่สุดคือการสวมใส่อยู่บนข้อมือ ที่สะดวกสบายและคล่องตัวในทุกวันของชีวิต ให้ความรู้สึกของนาฬิกาที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย โดยปราศจากความรู้สึกหนา หนัก และใหญ่ พร้อมลุคที่มีทั้งสไตล์วินเทจ ความหรูหรา และความเป็นนาฬิกาสปอร์ตไปพร้อมกันในเรือนเดียว

 

Screen Shot 2564 03 09 at 10.05.56

 

Screen Shot 2564 03 09 at 10.02.44

 

Screen Shot 2564 02 17 at 23.59.58