Our Best of SIHH 2018


Freak

by Non Phongprapat

 

Freak เป็นนาฬิกาแนวล้ำเรือนแรกที่ผมติดใจเมื่อประมาณ 15 ปีก่อนเพราะแค่ชื่อก็กินขาดแล้ว เจ้าของต้องมีเงินและมีความบ้าในตัวพอสมควรเลยทีเดียว อีกทั้งรูปลักษณ์ก็สะดุดตาไม่เหมือนใคร ด้วยฟังก์ชันตูร์บิยองที่ถือว่าเป็นเทพของกลไกที่ถูกจัดวางให้หมุนรอบหน้าปัดในเวลาหกสิบนาทีบนเข็มแสดงนาที จนสามารถพูดได้ว่าหน้าปัดทั้งหมดก็คือกรงของตูร์บิยองที่หมุนเหวี่ยงรอบใหญ่นั่นเอง ดังนั้น ด้วยฟังก์ชั่นการบอกเวลาสองเข็มกับกลไกที่ประหลาดสมชื่อ Freak จึงจัดว่าเป็นนาฬิกาซุปเปอร์ว็อชของผมได้เลยทีเดียวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

UN FREAK MYSTIQUE 2505 250 Light web

 

UN GROS PLAN GRENDER VFX Light

 

จนปี 2018 นี้ Ulysse Nardin ก็ออกเวอร์ชั่นใหม่ของ Freak ภายใต้ชื่อรุ่น Vision ซึ่งก็เหมือนซุปเปอร์ฮีโร่ในจักรวาลมาร์เวลล์ที่กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชั่นที่เจ๋งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งผมก็ไม่ผิดหวังเช่นเคยเพราะยังคงคอนเซปเดิมแต่ที่เพิ่มเติมคือความเรียบง่าย มีกลิ่นอายของอวกาศสูงขึ้น ดูๆ ไปคลับคล้ายกับแบรนด์  de Bethune เลย ซึ่งอาจด้วยเพราะใช้โทนสีฟ้าเข้มและสีเงิน โดยเฉพาะชุดเข็มขนาดใหญ่ และกลไกตูร์บิยองที่หมุนรอบหน้าปัดก็ยังคงหมุนเช่นเดิมและครบวงโคจรในหกสิบนาทีเช่นเดิมเหมือนกัน แต่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มเติมขึ้นมา อย่างเช่น แองเคอร์เคสเคปเม้นท์ ที่รวมแล้วเรียกได้ว่าปฏิวัติกลไกตูร์บิยองจากชุดเดิมเมื่อสิบเจ็ดปีที่แล้วมาไกลมากพอควร

UN FREAK SOLDAT 2505 250 Lightweb

Ref. 2505-250 ตัวเรือนแพลตตินั่มขนาด  45 มิลลิเมตร ทำงานด้วยระบบกลไกอัตโนมัติที่สามารถขึ้นลานแบบแมนวลได้จากขอบหมุนด้านหลังตัวเรือน พลังงานสำรอง 50  ชั่วโมง

 

un freakvision dos webqq 

 

 

1858 Automatic Chronograph 

By Dr. Attawoot Papangkorn

 

Montblanc แบรนด์ผู้ผลิตปากกาที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนานและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก แต่ไม่เพียงปากกาเท่านั้นที่ Montblanc ผลิตออกมาสู่สาธารณะชนได้อย่างยอดเยี่ยม นาฬิกาคืออีกหนึ่งบทพิสูจน์จากแบรนด์นี้ กับการผันตัวเองจากแบรนด์ผู้ผลิตปากกา ให้สามารถผลิตนาฬิกาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้ใคร แม้ในช่วงแรกที่ได้ทำการซื้อโรงงานผลิตนาฬิกาที่มีชื่อว่า Minerva ในปี 2007 จะถูกปรามาสจากเซียนนาฬิกาทั้งหลายว่าจะไปไม่รอด แต่ Montblanc ก็ไม่ยอมแพ้ที่จะผลิตและพัฒนานาฬิกาของตัวเองให้มีคุณภาพพร้อมภาพลักษณ์ที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในคอลเลคชั่นนาฬิกาที่สร้างชื่อให้กับค่ายนี้ก็คือคอลเลคชั่น 1858 โดยที่มาของเลข 1858 คือ ปีก่อตั้งของโรงงาน Minerva นั่นเอง

 

1858 Automatic Chronograph 117835 2

 

นาฬิกาคอลเลคชั่น 1858 จาก Montblanc ได้ออกมาแนะนำตัวสู่สายตาชาวโลกครั้งแรกในปี 2015 โดยเน้นไปที่การผลิตเป็นลิมิเต็ดเอดิชั่น และในงาน SIHH 2018 ที่ผ่านมานี้ทาง Montblanc ก็ได้บรรจุนาฬิการุ่น 1858 Automatic Chronograph เข้าสู่คอลเลคชั่นแบบสดๆ ร้อนๆ โดยนาฬิกรุ่นนี้มีตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตร และความหนาอยู่ที่ 14.55 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ กำลังดี ไม่เลือกผู้สวมใส่มากนัก มาพร้อมกับความสามารถกันน้ำได้ลึก 100 เมตร มีตัวเรือนให้เลือกทั้งแบบวัสดุสตีลจับคู่กับหน้าปัดสีดำ เข็มเวลาสีเงิน และเข็มจับเวลากับเข็มขนาดเล็กสีขาว ส่วนสายนาฬิกามีให้เลือกทั้งสายหนังวัวแบบย้อนยุคสีน้ำตาลคอนยัค และสายผ้านาโต้สีดำลายเทาให้อารมณ์สปอร์ต และตัวเรือนแบบวัสดุบรอนซ์ พิเศษด้วยฝาหลังที่ผลิตจากวัสดุไทเทเนี่ยมเคลือบด้วยสีบรอนซ์เพื่อน้ำหนักที่เบาลงแต่ไม่ลดความแกร่ง พร้อมหน้าปัดสีแชมเปญ เข็มเวลาทั้งหมดเป็นสีทองจับคู่กับสายหนังวัวแบบวินเทจสีน้ำตาลคอนยัค เน้นความรู้สึกที่หรูหราเมื่อได้พบเห็น ซึ่งตัวเรือนวัสดุบรอนซ์นั้นเป็นการแก้ไขความจำเจจากทางผู้ผลิตแต่ไม่เป็นภาระกับผู้บริโภคเนื่องจากต้นทุนการผลิตไม่ได้ต่างจากวัสดุสตีลมากนักทำให้ราคาขายนั้นเป็นมิตรกับผู้บริโภคมากกว่าวัสดุประเภททองชนิดต่างๆ แต่ยังคงสร้างความหรูหราสวยงามและสะดุดตาผู้ที่ได้พบเห็น และด้วยรูปทรงบวกการวางตำแหน่งของหน้าปัด ก็ทำให้นาฬิการุ่นนี้ให้ความรู้สึกย้อนยุคแต่ไม่เชย แถมยังผสมผสานความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว สวมใส่ง่ายไม่ว่าจะเป็นวันทำงานที่ต้องการความเป็นทางการ หรือจะแต่งตัวสบายๆ ในวันหยุด

445544

Ref. 117835 และ Ref. 117836 ตัวเรือนสตีล: หน้าปัดดำ; เข็มเคลือบโรเดียม; เข็มจับเวลากับเข็มวินาทีสีขาว; สายแบบนาโต้และสายหนังวัวสีน้ำตาลคอนยัค

 

1858 Automatic Chronograph 118223 5

 

 

1858 Automatic Chronograph 118223

Ref. 118223 ตัวเรือนและเม็ดมะยมวัสดุ บรอนซ์; ฝาหลังไทเทเนี่ยมเคลือบสีบรอนซ์; หน้าปัดสีแชมเปญรมควัน ลายซันเรย์; เข็มเคลือบสีเร้ดโกลด์; สายหนังวัวสีน้ำตาลคอนยัค

 

1858 Automatic Chronograph 118223 2