Ultimate Investment on Independent Watches

By: MikeMouz 

 

หลายครั้งที่เราเชื่อกันว่าการซื้อนาฬิกาเป็นเรื่องของการลงทุนชนิดหนึ่ง ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องจริง เพราะถ้าเป็นนาฬิกาแบรนด์ที่มีกลุ่มคนให้ความสนใจเป็นจำนานมาก อย่างเช่นแบรนด์ระดับสูงอย่าง Patek Phillipe หรือ Rolex ที่รู้กันดีว่าเป็นแบรนด์นาฬิกาที่สามารถสร้างมูลค่าในอนาคตได้เสมอ นอกเหนือจากการลงทุนด้านอื่นๆ แล้ว ก็จะเห็นได้ชัดว่าการซื้อนาฬิกาในระดับราคาที่สูงเหล่านี้สามารถสร้างผลกำไรได้จริง ส่วนหนึ่งของการที่เราจะยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อนาฬิการะดับราคาหลักแสนหรือหลักเกินล้านบาทขึ้นไป ควรจะต้องเกิดจากความชอบส่วนบุคคลด้วยน่าจะเป็นผลดีที่สุด อย่างน้อยที่สุดก็ควรต้องมีการศึกษาหาข้อมูลกันพอสมควรก่อน ไม่ต่างจากการซื้อสินทรัพย์เพื่อการลงทุนและเก็งกำไรเพื่อผลตอบแทนที่ชนิดอื่นๆ

   

และสำหรับในเรื่องของความหลงไหลนี้ นอกจากนาฬิกากลุ่มที่ตลาดให้ความสนใจกันอย่างที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ยังมีกลุ่มนาฬิกาอีกกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่าอินดิเพนเด้นซ์ (Independent) ที่เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนเพื่อตอบสนองความชอบจริงๆ เพราะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง กลไกและรูปแบบต่างๆ ที่พิเศษกว่านาฬิกาทั่วๆ ไป ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด และงานฝีมือช่างที่เปรียบเสมือนงานศิลปะ ดังนั้นการซื้อนาฬิกากลุ่มนี้จึงต้องเกิดจากความชื่นชมโดยส่วนตัวก่อน ซึ่งในวันนี้จะขอแนะนำนาฬิกากลุ่มอินดิเพนเด้นซ์บางเรือนที่น่าสนใจ

 

แบรนด์แรกที่อยากแนะนำให้รู้จัก คือ CHRISTOPHE CLARET (คริสทอฟ คลาเรต์) ผู้นำแห่งนวัตกรรมเรือนเวลา เป็นนาฬิกาที่สร้างสรรค์โดยนักประดิษฐ์นาฬิกาฝีมือระดับโลกชาวฝรั่งเศส Mr. Christophe Claret ผู้ที่สั่งสมประสบการณ์ในการทำงานจากแบรนด์นาฬิกาหลายๆ แบรนด์มาก่อน จนได้มาก่อตั้งโรงงานเป็นของตัวเองขึ้นในปี 1989 ที่ ลา โชซ์ เดอ ฟงด์ส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และขยายกิจการไปอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือการสร้างกลไกระดับสูงจนเป็นที่รู้จักกันดี

 

Mr. Christophe Claret

Mr. Christophe Claret

 

อย่างรุ่น X-TREM-1 ของ Christophe Claret ก็เป็นนาฬิการุ่นหนึ่งที่มีความพิเศษตรงที่การแสดงเวลาแบบสุดล้ำด้วยลูกเหล็กลอย ซึ่งเป็นหนึ่งในนาฬิกากลุ่มคอมพลิเคชั่นที่โดดเด่นโดยมีการคิดค้นการแสดงรูปแบบเวลาที่ไม่เหมือนใคร ระบบการบอกเวลาจะเห็นได้จากลูกเหล็กทรงกลมขนาดเล็ก 2 ลูก เคลื่อนที่ขึ้นลง เพื่อแสดงเวลากับชั่วโมงแบบเรโทเกรด รุ่นในภาพเป็นรุ่นที่ผลิตเพียง 8 เรือน เปิดตัวเมื่อปี 2016 จุดเด่นคือ นำวัสดุสตีลที่เรียกว่า แดมาซีนด์ สตีล มาทำเป็นชิ้นส่วนตัวเรือนร่วมกับวัสดุเรดโกลด์ ซึ่งวัสดุสตีลนี้เป็นวัสดุที่ใช้ทำมีดดาบในสมัยสงครามครูเสด ใช้ทำกระบอกปืนในสมัยนโปเลียน และดาบซามูไรในประเทศญี่ปุ่น

 

Web ChristopheClaret Xtrem1

X-TREM-1

 

แบรนด์ที่สอง คือ URWERK แบรนด์ที่เรียกได้ว่า เป็นที่ชื่อชอบของนักสะสมทั่วโลกแบรนด์หนึ่งเลยก็ว่าได้ ด้วยความสามารถของ Felix Baumgartner และ Martin Frei ช่างนาฬิกาและศิลปินนักออกแบบมากฝีมือที่เป็นผู้คิดค้นผลงานสุดล้ำออกมาให้เราได้เชยชม ชื่อแบรนด์นี้มาจากการรวมคำ 2 คำ คือ UR ซึ่งเป็นชื่อเมืองเก่าเก่าแก่ในดินแดนเมโสโปเตเมียอันเป็นที่ซึ่งชาวสุเมเรียนในอดีตกาลสมัยกว่า 6,000 ปีก่อนที่ได้คิดค้นเกณฑ์การวัดเวลาขึ้นเป็นครั้งแรกโดยใช้นาฬิกาแดดขนาดยักษ์เป็นเครื่องบอกเวลา กับ WERK ที่มาจากคำว่า work หรืองานนั่นเอง อีกทั้งยังอาจใช้แทนคำว่า Uhrwerk ซึ่งหมายถึงเครื่องนาฬิกาในภาษาเยอรมัน ก่อตั้งขึ้นโดย Felix กับ Thomas สองพี่น้องนักประดิษฐ์นาฬิกาตระกูล Baumgartner และ Martin Frei ในเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี1995

 

web martinf felixb crop

Felix Baumgartner (ซ้าย) และ Martin Frei (ขวา) 

 

นาฬิกาที่จะแนะนำให้รู้จัก คือ UR-201 เปิดตัวในปี 2007 มากับการแสดงเวลาโดยใช้ลูกบาศก์หมุนที่มีตัวเลขชั่วโมง 3 ลูกยึดติดกับแกนหมุน มีความซับซ้อนของงานกลไกมากขึ้นด้วยการใช้เข็มแบบยืดหดได้ติดตั้งที่ลูกบาศก์แต่ละลูกเพื่อให้ชี้บอกนาทีบนมาตรด้านล่างให้อ่านค่าได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังมีเข็มแสดงกำลังสำรองและเข็มแสดงเวลากลางวัน-กลางคืนแบบ 24 ชั่วโมงติดตั้งอยู่ทางด้านหน้าด้วย ในภาพเป็นรุ่น UR-201 PT Black ที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด 10 เรือน โดยไม่ได้ระบุหมายเลขประจำเรือน สิ่งพิเศษก็คือตัวเรือนเคลือบดำด้วยกรรมวิธี PE-CVD

 

Web URWERK UR 201

UR-201 PT Black

 

แบรนด์สุดท้าย น่าจะนับเป็นแบรนด์ที่ผู้คนที่ชื่นชอบนาฬิกาแบบอินดิเพนเด้นซ์รู้จักกันมากที่สุด และถือว่าเป็นที่ยอมรับมากที่สุดอีกด้วย นั่นก็คือ MB&F (MAX BÜSSER & FRIENDS) ถ้าพูดถึง MB&F ก็ต้องนึกถึง Max Maximilian Büsser ลูกครึ่งสวิส-อินเดีย ที่เคยทำงานอยู่กับแบรนด์ระดับโลกและยอมลาออกมาเพื่อสร้างความฝันด้วยการมีแบรนด์ภายใต้ชื่อ MB&F ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครทั้งทางด้านการออกแบบตัวเรือนและรูปแบบกลไก ถ้าอยากรู้จัก MB&F มากขึ้นสามารถเข้าชมบทความของ คุณนนท์ ที่เคยเขียนไว้ได้นะครับ 

 

MBandF 4 min

Max Maximilian Büsser

 

ด้วย MB&F เป็นนาฬิกาที่มีการออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์ของตัวเองในทุกรุ่น อย่างรุ่นหนึ่งที่เชื่อว่าไม่ได้เห็นง่ายๆ แน่ๆ อย่างรุ่น HM3 เวอร์ชั่น Poison Dart Frog ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกบดาร์ตมีพิษผิวสีดำลายสีเหลือง ซึ่งเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่มีหน้าตาโดดเด่นมากที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของ MB&F เป็นนาฬิกาที่ผลิตออกมาช่วงปี 2012 มากับตัวเรือนวัสดุไฮเทคเซอร์โคเนียมเคลือบพีวีซีดำเหมือนผิวของกบพันธุ์พิเศษ โดยนาฬิการุ่นนี้ผลิตขึ้นแค่เพียง 10 เรือนเท่านั้น ถ้าเห็นนาฬิกาหน้าตาแปลกๆ เหมือนกบแบบในรูป ก็เดาได้เลยว่านี่คืออิ้นดี้ตัวจริงที่หลงไหลชื่นชอบนาฬิกาที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน

 

 Web HM3

 HM3 เวอร์ชั่น Poison Dart Frog

 

ยังมีนาฬิกาอินดิเพนเด้นซ์อีกมากมายในโลกที่ยังไม่ได้กล่าวถึง และอย่างที่บอกไปว่า บางครั้งการซื้อนาฬิกาก็ไม่ได้เป็นแค่การลงทุนเพียงอย่างเดียวแบบที่หลายๆ คนเข้าใจ แต่มันมีเรื่องราวให้เราได้สนุกกับมันอีกมากมาย ลืมบอกไปว่า นาฬิกาที่พูดถึงทั้งสามแบรนด์นี้ มีเพียงสองแบรนด์เท่านั้นที่มีตัวจำหน่ายในประเทศไทย ก็คือ URWERK และ MB&F โดยร้าน PMT The Hour Glass สาขา Siamparagon และ Gaysorn Village เผื่ออ่านบทความนี้จบแล้วอยากเปลี่ยนใจจากการซื้อนาฬิกาเพื่อการลงทุนเป็นการซื้อนาฬิกาด้วยความสนุกและชื่นชอบกับมันนะครับ