ความแตกต่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับ Code 11.59 by AUDEMARS PIGUET, Part II
Code 11.59 by AUDEMARS PIGUET Selfwinding Chronograph มีตัวเรือนแบบทูโทนในสไตล์ที่แตกต่าง พร้อมหน้าปัดสีเทาสโมคเกรย์ ที่เผยให้เห็นรายละเอียดของงานขัดแต่งลายซาตินแนวตั้งที่มีความประณีตพิถีพิถัน และช่วยขับเน้นผิวสัมผัสของตัวเรือนได้อย่างลงตัวพร้อมทำงานจากกลไกอินเฮ้าส์โครโนกราฟอัตโนมัติฟลายแบ็คคาลิเบอร์ 4401 ซึ่งเป็นกลไกการจับเวลาล่าสุดของ AUDERMARS PIGUET พร้อมคอลัมน์วีลผนวกในฟลายแบ็คฟังก์ชั่น ที่สามารถเริ่มต้นจับเวลาใหม่ได้โดยไม่ต้องหยุดหรือรีเซ็ท กับกลไกอัตโนมัติที่ให้พลังสำรองลาน 70 ชั่วโมง และคุณสมบัติการกันน้ำได้ถึง 30 เมตร ดังนั้นเรือนเวลาทั้งสองนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์ที่ท้าทายและไม่หยุดนิ่ง โดยมีฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ที่เผยให้เห็นรายละเอียด ของการประกอบชิ้นส่วนที่ประณีตของกลไกตลอดจนชิ้นส่วนต่างๆ
ซึ่งกลไกคาลิเบอร์ 4401 นี้ได้รับการติดตั้งเพิ่มเติมด้วยคลัทช์แนวตั้ง ที่ป้องกันไม่ให้เข็มนาฬิกเคลื่อนที่เมื่อเริ่มหรือหยุดการจับเวลา รวมถึงกลไกการรีเซ็ทเป็นศูนย์ที่ได้การจดสิทธิบัตรเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจได้ว่า เข็มจับเวลาทุกเข็มจะถูกรีเซ็ทเป็นศูนย์ได้อย่างราบรื่น ซึ่งกลไกนี้ยังเผยให้เห็นรายละเอียดของชิ้นส่วนที่โดยทั่วไปมักจะซ่อนไว้ผ่านฝาหลังกระจกแซฟไฟร์ อย่างเช่นชุดคอลัมน์วีล และการเคลื่อนไหวของชุดโครโนกราฟที่เรียกว่า "Dance" รวมถึงรายละเอียดการตกแต่งที่สะท้อนความหรูหราของคอลเลคชั่น ไม่ว่าจะเป็นโรเตอร์ที่ผลิตจากพิ้งค์โกลด์ แกะสลักลายโกทส์เดอเฌอแนฟ เทคนิคเทรทส์ ทิเรส์ และเซอร์คิวลาร์ เกรนนิ่ง ซึ่งทั้งหมดสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัดผ่านฝาด้านหลังของเรือนเวลานี้
นอกจากนี้คาลิเบอร์ชุดนี้ยังได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยมือ ตามขนบธรรมเนียมการสร้างสรรค์เรือนเวลาแบบดั้งเดิม พร้อมรายละเอียดการตกแต่งสุดประณีตที่สะท้อนความหรูหรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขัดชิ้นส่วนลายซันเรย์ และการขัดลบมุมส่วนต่างๆ พร้อมความงดงามยิ่งขึ้นเมื่อปุ่มรีเซ็ทถูกเปิดใช้งาน และค้อนที่ขับเคลื่อนด้วยคันบังคับจะตีไปที่ฮาร์ท-พีซแคมส์ ของชุดโครโนกราฟ เพื่อดึงฟันเฟืองและเข็มนาฬิกาให้กลับไปที่ศูนย์ นอกจากนี้ยังมีสายนาฬิกาที่เคลือบยางในลายเทกซ์เจอร์ร่วมสมัยสีดำ ซึ่งเป็นการเคลือบยางโดยวัสดุภายในเป็นหนังลูกวัว เพิ่มรายละเอียดด้วยเทกซ์เจอร์บนสายนาฬิกาเพื่อความทันสมัย โดยสายนาฬิกาถูกเชื่อมต่อโดยตรงกับขานาฬิกาแบบโอเพ่นเวิร์ค ที่ต่อติดกันกับขอบตัวเรือนได้อย่างลงตัว ยิ่งถ่ายทอดให้เห็นเทคนิคการรังสรรค์ชิ้นงานด้วยมือที่ประณีต และเน้นให้ตัวเรือนในสีที่ตัดกันแบบทูโทนดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
และสำหรับแบงเกอเทอร์ ที่เป็นธุรกิจครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1969 และเป็นผู้นำในการผลิตชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำ ทั้งวัสดุเซรามิค ทังสเตนคาร์ไบด์ และวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงอื่นๆ ด้วยภารกิจหลักของบริษัท คือการเอาชนะขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ โดยใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรแบบใหม่และวัสดุใหม่ แม้ว่าบริษัท จะเริ่มต้นจากการขึ้นรูปตลับอัญมณี ที่ผลิตจากทับทิมสังเคราะห์สำหรับกลไกจักรกล แต่ในเวลาไม่นานแบงเกอเทอร์ก็ได้พัฒนาความหลากหลายในการผลิต โดยเฉพาะการขึ้นรูปทังสเตนคาร์ไบด์ที่เริ่มต้นขึ้นใน
ช่วงปี 1970 พร้อมทั้งพัฒนาชิ้นส่วนอุตสาหกรรม ที่ผลิตขึ้นมาจากวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงชนิดอื่นๆ
ในปัจจุบันแบงเกอเทอร์ เป็นผู้พัฒนานวัตกรรมในการขึ้นรูปชิ้นส่วนขนาดเล็กที่มีความแม่นยำ และคุณภาพสูงสุดสำหรับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์หรือการผลิตนาฬิกา ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุดในด้านการขึ้นรูปเซรามิค ซึ่งแบงเกอเทอร์ยังเป็นซัพพลายเออร์ให้กับแบรนด์นาฬิกาที่มีชื่อเสียงต่างๆ โดยการผลิตชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำ ซึ่งผลิตจากเซรามิคสำหรับตัวเรือนและชิ้นส่วนสำคัญอื่นๆ โดยมีพนักงานที่มีความสามารถสูงจำนวน 130 คนจาก 20 สัญชาติ และดำเนินธุรกิจภายใต้การบริหารโรงงานผลิต 3 แห่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
