ALPINA HISTORY

 

ALPINA UHREN 1001

 

Company yesterday 1S

 

 

ALPINA ชื่อที่คุ้นตานักเลงรถแดนเยอรมัน BMW กันเป็นอย่างดีในฐานะสำนักแต่งรถชื่อดัง แต่ในฐานะชื่อของแบรนด์นาฬิกาแล้วยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนักในหมู่ชาวไทยเรา แต่ถ้าถามในหมู่ชาวยุโรปแล้วเค้าจะรู้ว่านาฬิกา ALPINA นี้มีประวัติศาสตร์ความเป็นมานับร้อยปีและมีเรื่องราวที่น่าสนใจไม่แพ้แบรนด์นาฬิกาเก่าแก่แบรนด์อื่นๆ เลย อ้อและนาฬิกา ALPINA ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตชุดแต่งสำหรับรถ BMW แต่อย่างใดนะครับนอกจากมีความเกี่ยวพันกับประเทศเยอรมนีเหมือนกันเท่านั้น มารู้จักกับแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่แบรนด์นี้ให้มากยิ่งขึ้นในบทความนี้กันเลยครับ

 

 

ย้อนรอยแหล่งกำเนิด

 

 

Hauser2

 

Gottlieb Hauser

 

 

จุดกำเนิดของนาฬิกา ALPINA เริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1883 ในวินเตอร์ทัวร์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อชายชื่อ Gottlieb Hauser ได้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่ม Corporation d’Horlogers Suisse (Swiss Watchmakers Corporation) ขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ในการรวบรวมกลุ่มนักประดิษฐ์นาฬิกาอิสระทั้งหลายในยุคนั้นเข้าด้วยกันเพื่อมาแชร์ส่วนประกอบและชิ้นส่วนของนาฬิกาซึ่งกันและกันตลอดจนการตั้งโรงงานผลิตนาฬิกา อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การจัดการ และการกระจายสินค้าให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมกับกลุ่ม ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากความร่วมมือนี้จึงทำให้เกิดการพัฒนาเครื่องอินเฮ้าส์ของตนเองขึ้นเพื่อใช้ในนาฬิกาของสมาชิกในกลุ่มโดยทำการผลิตขึ้นในโรงงานที่เจนีวาและนำไปประกอบจนสมบูรณ์ในเบียนอันเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของกลุ่ม ต่อมาในปี ค.ศ.1901 บริษัทของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า Union Horlogere ก็ได้ทำการจดทะเบียนชื่อตราสินค้า ALPINA อย่างเป็นทางการ จากนั้นก็ได้ก่อตั้ง Pracisions-Uhrenfabrik Alpina ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ผลิตนาฬิกา ALPINA ขึ้นที่โรงงานของกลุ่มในเมืองกลาสฮุตเทอ ประเทศเยอรมนี อีกแห่งหนึ่งด้วย

 

 

408px Alpina Gruen Gilde Uhrenfabriken Biel Schweiz S

 

ภาพแสดงเครือข่ายอันกว้างขวางของกลุ่ม ALPINA ในอดีต

 

 

Alpina DTU WerkansichtS1Alpina Kal. 598 WerkseiteAlpina 808 WerkansichtS

 

เครื่องนาฬิกาในอดีตที่กลุ่ม ALPINA ผลิตขึ้นด้วยตัวเอง

 

 

นาฬิกา ALPINA ที่ผลิตขึ้นในยุคนั้นถูกกระจายออกไปยังประเทศต่างๆ ในยุโรปอย่างรวดเร็วผ่านทางช่องทางเครือข่ายที่เข้มแข็งของสมาชิกในกลุ่ม และจากการที่มีโรงงานในเยอรมนีด้วยก็ทำให้ ALPINA กลายเป็นนาฬิกาสวิสที่มีความเป็นเยอรมันผสมผสานเข้าไปอย่างกลมกลืน ยกตัวอย่างเช่นนาฬิกาโครโนมิเตอร์ที่ทำขึ้นในปี ค.ศ.1912 และนาฬิกาดำน้ำที่กำเนิดขึ้นในยุคเดียวกันซึ่งใช้ส่วนประกอบที่ผลิตในกลาสฮุตเทอ เป็นต้น นาฬิกาทั้งสองแบบนี้ทำให้กองทัพเรือเยอรมันสนใจนาฬิกา ALPINA และนำมาซึ่งการสั่งผลิตเพื่อใช้ในกองทัพในที่สุด จึงทำให้ ALPINA ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในเยอรมันจนทำให้แบรนด์นาฬิกาเยอรมันยื่นฟ้องต่อภาครัฐว่า ALPINA นั้นไม่สามารถจะตีตรากลาสฮุตเทอลงบนผลิตภัณฑ์ได้เพราะมีส่วนประกอบหลายชิ้นที่ไม่ได้ทำในเยอรมนี แน่นอนว่าความจริงนี้ทำให้ ALPINA แพ้คดี ซึ่งก็เป็นช่วงเดียวกับที่สงครามโลกครั้งที่ 1 ก่อตัวขึ้น ส่งผลให้ ALPINA ได้รับผลกระทบอย่างมากโดยเฉพาะด้านการขนส่งชิ้นส่วนและการกระจายสินค้าและการติดต่อสื่อสาร จึงทำให้ Alpina Union Horlogere ต้องแยกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ Union Horlogere SA ที่เบียน Alpina Association des Horlogers Suisse ที่เจนีวา และ Alpina Deutsche Uhrmacher-Genossenschaft G.m.b.H ที่เบอร์ลิน ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็ผลิตนาฬิกาด้วยตนเองและออกจำหน่ายภายใต้ชื่อ ALPINA กันต่อไป และก็เป็นช่วงเวลาในยุคทศวรรษที่ 1920 และ 1930 นั้นเองที่นาฬิกาของ ALPINA ได้กลายเป็นที่นิยมของเหล่านักบินในยุโรปจนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ผลิตนาฬิกาสำหรับนักบินให้กับกองทัพอากาศของหลายประเทศในยุคนั้น เมื่อมาถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สงครามและการเมืองก็ทำให้บริษัท Alpina Deutsche Uhrmacher-Genossenschaft G.m.b.H ในเยอรมนีถูกกีดกันมิให้จำหน่ายนาฬิกาภายใต้ชื่อแบรนด์ ALPINA อีกต่อไป จึงต้องเปลี่ยนชื่อแบรนด์ของนาฬิกาที่ผลิตขึ้นมาเป็น Dugena ซึ่งย่อมาจากชื่อบริษัทใหม่ที่ต้องเปลี่ยนชื่อจากเดิมมาเป็น Deutsche Uhrmacher-Genossenschaft Alpina แทน

 

 

2 Old Alpina watch 1S1          5 Old Chrono Alpina watch 2 1S1

 

นาฬิกาโครโนกราฟในอดีตของ ALPINA

 

 

ขณะเดียวกันการผลิตและจำหน่ายนาฬิกา ALPINA ที่สวิตเซอร์แลนด์ยังคงดำเนินต่อไปอย่างมั่นคงและเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาอันดับต้นๆ ของยุโรปซึ่งหนึ่งในเหตุผลแห่งความสำเร็จของแบรนด์นอกเหนือจากดีไซน์ที่สวยงามและคุณภาพชั้นเยี่ยมก็คือการเปิดตัวนาฬิกาซีรี่ส์ ALPINA 4 ในปี ค.ศ.1938 ซึ่งเลข 4 นี้ หมายถึง คุณสมบัติหลัก 4 ประการที่ทุกเรือนของนาฬิกาซีรี่ส์นี้จะต้องมี นั่นก็คือ คุณสมบัติในการต่อต้านสนามแม่เหล็ก คุณสมบัติในการกันน้ำ คุณสมบัติในการกันสะเทือน และจะต้องใช้ตัวเรือนที่ทำจากสเตนเลสสตีล ซึ่งกลายมาเป็นคุณสมบัติหลักประจำตัวของนาฬิกา ALPINA และได้รับความนิยมเรื่อยมาจนกระทั่งเข้าสู่ยุควิกฤตควอตซ์ในทศวรรษที่ 1970 ซึ่งนาฬิกาจักรกลอย่าง ALPINA ก็ไม่สามารถทานกระแสความนิยมของนาฬิกาควอตซ์ได้ จึงทำให้ต้องปิดตัวลงในที่สุดเช่นเดียวกับแบรนด์นาฬืกาจักรกลร่วมชะตากรรมอีกหลายแบรนด์

 

 

6 Old Pedro watch 1S1  Early Alpina ad1S1

 

(ซ้าย) นาฬิกาสไตล์นักบินของ ALPINA ในอดีตซึ่งเป็นต้นแบบของ Heritage Pilot รุ่นปี 2012, 
(ขวา) ภาพโฆษณานาฬิกาเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติของ ALPINA ในอดีต

 

 

ฟื้นคืนความยิ่งใหญ่

 

กิจการและแบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ ALPINA ได้ถูกปลุกชีพขึ้นในปี ค.ศ.2002 เมื่อ Peter และ Aletta Stas ผู้ก่อตั้งแบรนด์นาฬิกา FREDERIQUE CONSTANT ได้เข้าฟื้นฟูแบรนด์ประวัติศาสตร์แบรนด์นี้ขึ้นใหม่ในเจนีวาและได้รังสรรค์คอลเลคชั่นใหม่ออกมาจำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ ALPINA อีกครั้งในปี ค.ศ.2003 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้นาฬิกา ALPINA ถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มคอลเลคชั่นด้วยกัน ได้แก่ Aviation ซึ่งเป็นนาฬิกาสไตล์นักบิน Extreme Diver ซึ่งเป็นนาฬิกาดำน้ำ Extreme Sailing นาฬิกาแนววอเตอร์สปอร์ต และ Racing ที่เป็นนาฬิกาในแนวมอเตอร์สปอร์ต

 

 

ALPINA UHREN 1001Alpina Bildmarke 02S

Alpina Bildmarke 03Slogo

 

โลโก้ ALPINA จากอดีตจนถึงปัจจุบัน

 

 

อัพเดทคอลเลคชั่นปัจจุบัน

 

นาฬิกา ALPINA ในปัจจุบันนี้ก็มีหลายรุ่นที่มีความน่าสนใจอยู่ในตัว แต่ที่โดดเด่นสุดๆ ก็เห็นจะเป็นนาฬิกาในซีรี่ส์ Startimer จากคอลเลคชั่น Aviation ซึ่งเป็นนาฬิกาสไตล์นักบินที่เปิดตัวออกมาเมื่อปี ค.ศ.2011 ในรูปแบบจำกัดจำนวนการผลิต ตามมาด้วยนาฬิกาสไตล์นักบินรุ่นพิเศษ Heritage Pilot ที่เพิ่งออกมาเมื่อต้นปี ค.ศ.2012 ซึ่งผลิตในแบบจำนวนจำกัดไม่ถึง 2,000 เรือน ส่วนอีกรุ่นที่น่าจับตามองก็คือนาฬิกาดำน้ำรุ่นใหม่จากคอลเลคชั่น Extreme Diver ที่เพิ่งเปิดตัวในปี ค.ศ. 2012 ที่งาน Baselworld มาหมาดๆ และแทบทุกรุ่นของ ALPINA ในปัจจุบันก็จะมีสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมที่หัวเข็มวินาทีซึ่งนำมาจากลักษณะของโลโก้แบบหนึ่งที่ ALPINA เคยใช้ในอดีตนั่นเอง

 

 

Startimer Pilot

 

Startimer Pilot เป็นซีรี่ส์นาฬิกานักบินหรือที่เรียกกันว่าไพล็อตว็อตช์จากคอลเลคชั่น Aviation ของแบรนด์ที่เปิดตัวออกจำหน่ายเมื่อปี 2011 โดยมีให้เลือกเป็นเจ้าของกันหลายแบบ อาทิ แบบบอกเวลา 3 เข็ม แบบโครโนกราฟหน้าปัดย่อย 2 วง และแบบบอกเวลา 3 เข็มพร้อมหน้าปัดเล็กบอกวันที่ด้วยเข็มซึ่งใช้เครื่องอินเฮ้าส์ เป็นต้น ทั้งหมดเป็นกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ เข้าตาด้วยรูปแบบดีไซน์ที่คลาสสิกเรียบง่ายดูดีสะอาดตาอ่านค่าสะดวกด้วยตัวเลขขนาดใหญ่เคลือบสารเรืองแสงบนพื้นหน้าปัดสีดำด้านซึ่งนำเอานาฬิกานักบินจากยุคทศวรรษที่ 1920 และ 1930 ซึ่ง ALPINA เคยผลิตขึ้นมาตีความและถ่ายทอดออกมาแบบร่วมสมัยในตัวเรือนสตีลขนาด 44 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 100 เมตร กระจกหน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อน ฝาหลังกรุกระจกใสมองเห็นโรเตอร์เคลือบพีวีดีดำ ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัดแบบละ 8,888 เรือน

 

 

9 3 Alpina Startimer Pilot Trio S

 

(จากซ้าย) Startimer Automatic  บอกเวลาแบบ 3 เข็มพร้อมหน้าต่างวันที่ที่ 3 นาฬิกา ใช้เครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ Calibre AL-525 กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง, Startimer Chronograph นาฬิกาพร้อมฟังก์ชั่นจับเวลาหน้าปัดย่อย 2 วง บอกนาทีจับเวลา ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และบอกวินาที ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ใช้เครื่องขึ้นลานอัตโนมัติโครโนกราฟ Calbire AL-860 กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง และ Startimer Manufacture บอกเวลาแบบ 3 เข็มพร้อมหน้าปัดเล็กแสดงวันที่ด้วยเข็ม ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ใช้เครื่องขึ้นลานอัตโนมัติอินเฮ้าส์ Calibre AL-710 กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง 

 

 

Heritage Pilot

 

9 4 AL 435B4SH6 S

 

 

Heritage Pilot เป็นนาฬิการุ่นพิเศษที่นำดีไซน์นาฬิกานักบินรุ่นดั้งเดิมที่ ALPINA เคยทำขึ้นในยุคทศวรรษที่ 1920 และ 1930 มารีเอดิชั่นใหม่ในรูปแบบที่ใกล้เคียงแบบเดิมอย่างยิ่ง ตัวเรือนสตีลขนาดใหญ่ถึง 55 มิลลิเมตรของนาฬิการุ่นนี้เป็นแบบฮันเตอร์ที่สามารถพลิกฝาหลังเพื่อชื่นชมความงดงามของงานขัดแต่งลวดลายโค้ตเดอเชอแนฟลงบนเครื่องไขลาน Calibre AL-435 ทับทิม 17 เม็ด กำลังสำรอง 42 ชั่วโมงได้ผ่านทางกระจกใสที่กรุอยู่ด้านใน กระจกหน้าปัดเป็นแซฟไฟร์คริสตัล กันน้ำได้ 30 เมตร พื้นหน้าปัดมาในสีดำด้านประดับโลโก้ ALPINA และเข็มแบบเดียวกับนาฬิการุ่นต้นแบบ สารเรืองแสงบนเข็มเป็นสีขาว มีหน้าปัดเล็กบอกวินาทีด้วยเข็มอยู่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา มาคู่กับสายหนังลูกวัวสีน้ำตาลเข้มเดินด้ายสีงาช้าง โดยมีจำนวนการผลิตอยู่ที่ 1,883 เรือน ซึ่งเป็นเลขปี ค.ศ. ที่ Corporation d’Horlogers Suisse ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแห่ง ALPINA ได้ก่อตั้งขึ้น ก่อนจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นแบรนด์ ALPINA ในปี ค.ศ.1901

 

 

Extreme Diver

 

Alpina Geneve Diver Collection 2012 AL 525LB4V26 041

 

 

ที่เห็นอยู่นี้เป็นนาฬิกาดำน้ำรุ่นใหม่จากคอลเลคชั่น Extreme Diver ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ นาฬิการุ่นใหม่นี้มาในตัวเรือนสตีลขนาด 44 มิลลิเมตรที่มีคุณสมบัติการกันน้ำได้ลึกถึงระดับ 300 เมตร มีรูปลักษณ์ที่ดูเรียบง่าย บึกบึน พร้อมฟังก์ชั่นจำเป็นสำหรับการเป็นนาฬิกาดำน้ำอย่างครบครัน ทั้งขอบตัวเรือนหมุนทิศทางเดียวพื้นสีดำพร้อมหลักเรืองแสง กระจกหน้าปัดแซฟไฟร์คริสตัล หลักชั่วโมงเรืองแสงสีขาวขนาดใหญ่และเข็มเรืองแสงสีขาวบนพื้นหน้าปัดสีดำอ่านค่าง่ายในสภาพแสงน้อย เพิ่มรายละเอียดให้กับหน้าปัดด้วยช่องหน้าต่างแสดงวันที่แนวตั้ง ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และหัวเข็มวินาทีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีแดง ภายในทำงานด้วยเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ 36 จิวเวล Calibre AL-525 กำลังสำรอง 42 ชั่วโมง โรเตอร์ขึ้นลานเคลือบพีวีดีดำ ที่สามารถมองเห็นได้ผ่านทางฝาหลังกรุกระจกใส มีสายให้เลือกจับคู่ 3 แบบ คือ สายยางสีดำ สายสตีล และสายสตีลแบบถัก

 

 

ALoffice 5

 

โรงงาน ALPINA ในปัจจุบัน

 

 

ทุกวันนี้นาฬิกา ALPINA ถูกผลิตขึ้นภายในโรงงานของตนเองในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แถบเดียวกับโรงงานผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์ดังหลายแห่ง โดยเริ่มเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ.2006 เป็นต้นมา และการที่ ALPINA ในยุคใหม่นี้อยู่ภายใต้การบริหารงานของผู้มีใจรักนาฬิกาอย่างแท้จริงแล้ว ก็เชื่อได้ว่าแบรนด์นาฬิกาที่มีอายุเกือบ 130 ปีแบรนด์นี้จะถูกสืบสานตำนานอันยิ่งใหญ่ในอดีตให้ดำรงอยู่และก้าวไปสู่อนาคตข้างหน้าอย่างมั่นคงต่อไป

 

By: Viracharn T.