PARMIGIANI Fleurier – Kalpagraphe, Limited Edition 99 Pieces

 

จากพื้นฐานของนาฬิการูปทรงถังเบียร์อันแปลกตา ผนวกกับขาตัวเรือนทรงหยดน้ำที่เกาะติดทั้งสี่มุมของตัวเรือน ร่วมกับหน้าปัดแบบจับเวลา ที่โดดเด่นด้วยวงโครโนกราฟและวงวินาทีบนหน้าปัด พร้อมด้วยช่องหน้าต่างแสดงวันที่ที่เผยให้เห็นวันที่แบบสามวัน ตำแหน่งใต้ 12 นาฬิกา ก็ทำให้นาฬิการุ่น Kalpagraphe จาก PARMIGIANI Fleurier เป็นนาฬิกาอีกหนึ่งรุ่นที่ผู้คนในวงการนาฬิกาทั่วโลกจดจำได้มากที่สุด

 

Screen Shot 2563 10 29 at 11.27.00 PM

 

โดยล่าสุดนาฬิกา PARMIGIANI รุ่น Kalpagraphe ก็มีการแนะนำในเวอร์ชั่นใหม่สองรูปแบบ ที่มีการผลิตมาเพียงแบบละ 99 เรือน โดยคงความเป็นนาฬิกาสปอร์ทพร้อมความหรูหราในแบบของ PARMIGIANI Fleurier ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบตัวเรือนสตีลดีแอลซีสีดำกับโทนสีเงิน หรือในรูปแบบตัวเรือนสตีลดีแอลซีสีดำกับโทนสีทอง ที่ต่างก็มีลุคของนาฬิกาสปอร์ทลักซ์ชัวรี่อย่างเต็มตัว

 

EIoGKPUXkAEEbyi

 

ซึ่งนอกจากความดำสนิทของตัวเรือนสตีลดีแอลซีแล้ว ยังมีหน้าปัดที่ผลิตจากกระจกแซฟไฟร์สีดำด้านใน ที่เผยให้เห็นการทำงานของกลไกบางส่วน และทำให้นาฬิกาเรือนนี้มีความเป็นนาฬิกาแบบแมคคานิคัลได้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับดีไซน์ของวงจับเวลาทั้งสอง ที่แบ่งการทำงานได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นวงจับเวลาชั่วโมงขนาดใหญ่บริเวณ 6 นาฬิกาที่สามารถจับเวลาได้ถึง 12 ชั่วโมง

 

EKxqzh4WwAA3POB

 

หรือจะเป็นวงจับเวลาขนาดเล็ก บริเวณ 9 นาฬิกาที่จับเวลาเป็นแบบ 30 นาที โดยทั้งสองวงนี้จะมีพื้นขอบรอบหน้าปัดเต็ม เพื่อให้สามารถอ่านค่าแสดงเวลาได้อย่างชัดเจนที่สุด ในขณะที่วงวินาทีของเวลาปกติจะแสดงอยู่ บริเวณ 3 นาฬิกา โดยเน้นเป็นแทร็คสีขาวและพื้นสีเทาตามสีกระจกแซฟไฟร์สีดำบนหน้าปัด เพื่อให้สามารถอ่านค่าได้อย่างแตกต่างจากชุดจับเวลา

 

EGmqmBrW4AAOmIM

 

นอกจากนี้ยังมีมาร์กเกอร์แสดงเวลาแบบขีดคู่ ที่มีองศาและความขนานของเส้นแต่ละคู่ ที่ช่วยทำให้มุมมองทั้งหมดมุ่งสู่กลางหน้าปัด อันเป็นการเน้นให้หน้าปัดดูโดดเด่นยิ่งขึ้น เข้าคู่กันกับเข็มทรงเดลต้า ที่เจาะช่องให้โปร่งและสามารถมองเห็นพื้นหน้าปัดได้อย่างอิสระ โดยใช้ชุดโทนสีเดียวกันกับมาร์กเกอร์ เพื่อให้รูปแบบและสไตล์ของหน้าปัดโดยรวม ไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างมีรสนิยม

 

Parmigiani Fleurier Kalpagraphe Black 2

 

และเพื่อความสปอร์ทชีคของนาฬิกาเรือนนี้ สีแดงอันเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังถูกเลือกเพื่อให้ปรากฏขึ้นบนหน้าปัด กับวันที่ 1 ของเดือนที่จะใช้เป็นสีแดง ต่างจากวันอื่นๆ ที่เป็นสีขาว เพื่อให้สังเกตได้ชัดเจนว่าถึงวันต้นเดือนใหม่แล้ว โดยระหว่างวันเลขคี่จะใช้จุดเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเลขอาร์บิค ซึ่งเข้ากันได้อย่างน่ารักกับแต้มสีแดงรอบขอบหน้าปัด ปลายมาร์กเกอร์ทั้ง 12 ที่จะแต้มสีแดงไว้คู่กับเลขนาทีทั้งหมด

 

Screen Shot 2563 10 29 at 11.30.02 PM

 

สุดท้ายคือแผ่นเพลทประทับตราแบรนด์ PARMIGIANI Fleurier ใต้บริเวณ 12 นาฬิกาที่หนานูนขึ้นเหนือแผ่นพื้นหน้าปัด ในระนาบเดียวกันกับมาร์กเกอร์ ที่ช่วยทำให้หน้าปัดโดยรวมมองดูมีมิติที่หลากหลาย ทั้งยังทำให้ชื่อของแบรนด์ดูโดดเด่นขึ้นกว่าปกติ โดยมีพื้นขอบหน้าปัดวงจับเวลาทั้งสองที่อยู่ในระดับต่ำกว่า เป็นพื้นที่สีเต็มเข้าคู่กันได้อย่างมีสไตล์ตามแบบฉบับของ PARMIGIANI Fleurier

Screen Shot 2563 10 29 at 11.29.15 PM

 

ตัวเรือนขนาด 44.5 x 39.2 มิลลิเมตร หนา 12.8 มิลลิเมตร กรุกระจกแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ที่ผ่านการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อน ทำงานด้วยกลไกโครโนกราฟอัตโนมัติคาลิเบอร์ PF334 ที่ความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง (4 เฮริท์ซ) พร้อมพลังสำรองลานนาน 55 ชั่วโมง โดยแท่นเครื่องด้านในทั้งหน้าและหลังมีการขัดแต่งอย่างสวยงาม พร้อมโรเตอร์ที่ผลิตจากทองคำเพื่อให้มีน้ำหนักในการแกว่งที่สมบูรณ์แบบที่สุด

 

11 

 

12

 

PM2020