MIDO Novelties Presentation 2023

MIDOเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่จาก 7 คอลเลคชั่นโดยมีรุ่นไฮไลท์ตั้งแต่ Multifort M Chronometer, Multifort M, Ocean Star Decompression Worldtimer Special Edition, Baroncelli Chronograph Moonphase, Multifort Powerwind รวมถึงนาฬิกาสำหรับคุณสุภาพสตรีOcean Star Nereaและ Commander Lady ที่ออกแบบขึ้นจากแนวคิด การสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาและร่วมสมัย พร้อมการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่ให้ความหรูหรา ทนทาน และคงไว้ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน โดย Multifort M Chronometer เป็นนาฬิกาที่มีชุดกลไกที่ผ่านการรับรอง โดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Official Swiss Chronometer Testing Institute หรือ COSC)ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 ที่ให้พลังสำรองลานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมซิลิคอนบาลานซ์สปริง ที่มีคุณสมบัติด้านความแม่นยำ และทนทานต่อสนามแม่เหล็กไฟฟ้า โดยมีการสลักคำว่า ‘Chronometer’บนหน้าปัด เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความแม่นยำที่เกินกว่าค่ามาตรฐาน

 

Screen Shot 2566 03 16 at 23.32.47

 

MIDO Multifort M 2

 

มาพร้อมรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งและดุดัน ด้วยตัวเรือนและสายสตีลที่มีความทนทานเป็นพิเศษ กับหน้าปัดทรงกลมสีเขียวที่มีการไล่ระดับบริเวณจุดกึ่งกลาง และกระจายออกไปด้านข้างกระทั่งกลายเป็นสีดำบริเวณรอบหน้าปัด และเทคนิคการขัดลายซาตินในแนวตั้งอย่างประณีต อีกทั้งยังเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา® สีเบจที่เข็มนาฬิกา และบริเวณอินเด็กซ์โดยรอบเพื่อช่วยให้อ่านค่าเวลา ได้อย่างแม่นยำเมื่อตัดกับพื้นหลังสีเข้ม พร้อมการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านบนกระจกแซฟไฟร์ ถัดมาที่ Multifort Mที่เผยโฉมพร้อมหน้าปัดขัดลายซาตินแนวตั้ง พร้อมพื้นผิวไล่ระดับจากสีน้ำเงินไปจนถึงสีดำ กับพรายน้ำเรืองแสงสีเขียวอมฟ้า และช่องแสดงวันและวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา กรุด้วยกระจกแซฟไฟร์ที่เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน และทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 ส่วน Ocean Star Decompression Worldtimer Special Editionนาฬิกาแบบดำน้ำที่คงเอกลักษณ์เด่นของหน้าปัดแบบดั้งเดิม มาพร้อมฟังก์ชั่นจีเอ็มที

 

MIDO Multifort M Chronometer 2

 

MIDO Multifort Powerwind

 

และขอบเบเซิลที่แสดงเวลาทั่วโลกผ่าน 2 ดีไซน์ประสิทธิภาพสูง ที่ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อทุกสภาวะ ในตัวเรือนสตีลขัดเงาที่แข็งแรงทนทาน กับหน้าปัดพื้นหลังสีน้ำเงินเข้มสลักโลโก้MIDO แบบดั้งเดิม โดยนาฬิกาเรือนนี้จะแสดงเวลาการบีบอัดของน้ำที่ระดับความลึก 6 เมตร ซึ่งบ่งบอกจากมาตรวัดวงกลมสีเหลือง สีเขียว สีชมพู และสีน้ำเงิน ที่อยู่บนหน้าปัด พร้อมขอบเบเซิลแบบหมุนได้ที่ผลิตจากวงแหวนอะลูมิเนียมสีน้ำเงิน และมีลูกศรสีแดงเพื่อระบุเขตเวลาในการเดินทาง รวมถึงเข็มชั่วโมง นาที และวินาที ที่ได้รับการสร้างเป็นทรงเหลี่ยมเพชร พร้อมเคลือบสารเรืองแสงซุปเปอร์-ลูมิโนว่า®แสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา กรุกระจกแซฟไฟร์ทรงกล่อง พร้อมสายถักสตีลและสายสีน้ำเงินที่ผลิตจากยางสำหรับเปลี่ยน ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติที่มาพร้อมฟังก์ชันจีเอ็มที ให้พลังสำรองลานได้นาน 80 ชั่วโมง และสามารถกันน้ำได้ในระดับสูงสุดถึง 200 เมตร พร้อมอีกหนึ่งรุ่นดีไซน์พิเศษที่มีตารางดีคอมเพรสชั่นสเกล (Decompression Scale) ไล่ระดับสีจากสีเหลืองไปสีส้ม

 

MIDO Multifort M 1

 

MIDO Ocean Star Nerea 1

 

สำหรับ Baroncelli Chronograph Moonphaseมาในขนาดตัวเรือน 42 มิลลิเมตรพร้อมฟังก์ชันโครโนกราฟมูนเฟส ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ A05.221ให้พลังสำรองลาน 60ชั่วโมง พร้อมฝาหลังแบบเปลือย และบาลานซ์สปริงนิวาครอง™ที่มีคุณสมบัติในการต้านทานต่อสนามแม่เหล็กและแรงกระแทก มาใน 2 ดีไซน์ทั้งตัวเรือนสตีลขัดเงา หน้าปัดซันเรย์ขัดลายซาตินสีน้ำเงินเข้าคู่กับสายยางสีน้ำเงิน และตัวเรือนสตีลพีวีดีสีโรสโกล์ดที่จับคู่มากับสายยางสีดำ พร้อมการกรุด้วยกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนสองชั้นทั้งสองด้าน ส่วนคอลเลคชั่นต่อมาคือ Multifort Powerwindนาฬิกาสไตล์วินเทจเรือนใหม่ที่ยังคงกลิ่นอายความย้อนยุค ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 โดยดีไซน์หน้าปัดแบบซันเรย์ขัดลายซาตินทรงโดม ในขนาดตัวเรือน40มิลลิเมตร โดดเด่นด้วยตัวเลขอารบิกที่ใช้ในการอ่านค่าเวลา พร้อมเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา®และอินเด็กซ์ทรงเหลี่ยมเพชร ในตัวเรือนสตีลขัดเงาสลับลายซาตินและกรุด้วยกระจกแซฟไฟร์

 

MIDO Ocean Star Decompression Worldtimer Special Edition 3

 MIDO Ocean Star Decompression Worldtimer Special Edition 2

 

ส่วนนาฬิกาสำหรับคุณสุภาพสตรีจะมีใน 2 คอลเลคชั่นด้วยกันคือ Ocean Star Nerea ที่ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 80.611 ให้พลังสำรองลานนาน 80 ชั่วโมงกับตัวเรือนขนาด 36.5มิลลิเมตร พร้อมขอบเบเซิลทรงโดมแบบหมุนได้ โดยมีทั้งแบบหน้าปัดสีน้ำเงินและสีดำซันเรย์ขัดลายซาติน เคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา®ที่เข็มแสดงเวลา และตัวเรือนมีทั้งแบบที่ผลิตจากสตีลพร้อมสายสตีล และตัวเรือนสตีลพีวีดีสีโรสโกลด์ประดับเพชรแท้จำนวน11เม็ดบริเวณอินเด็กซ์ ซึ่งมาพร้อมสายยางลายคลื่นแบบเปลี่ยนได้ง่าย และ Commander Lady ที่มาในขนาดตัวเรือน 35 มิลลิเมตร ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ 72 ที่ให้พลังสำรองลานนานถึง72ชั่วโมง ในตัวเรือนสตีลขัดลายซาตินและขอบตัวเรือนขัดเงา กรุด้วยกระจกแซฟไฟร์แบบเหลี่ยมเพชร บนหน้าปัดสีอ่อนลายซันเรย์แบบทวิสต์ ที่ประดับด้วยอินเด็กซ์แบบขีดหรือแบบเพชร 11 เม็ด โดยมีอีกหนึ่งดีไซน์พิเศษกับหน้าปัดสีขาวมุกพร้อมการประดับเพชร 11 เม็ด โดยมีทั้งสายแบบสตีลและสายหนังสุดคลาสสิค

Screen Shot 2566 03 17 at 00.13.08

Screen Shot 2566 03 17 at 00.13.26

Screen Shot 2566 03 16 at 23.55.32

 Screen Shot 2566 03 16 at 23.55.48

 

 

 

Screen Shot 2566 03 16 at 23.18.01