MAURICE LACROIX Pontos Collection 2013

 

Maurice Lacorix จัดเป็นนาฬิกาที่คนไทยรู้จักและนิยมกันมากอีกแบรนด์หนึ่ง สำหรับในงาน Baselworld 2013 นี้ เค้าเปิดตัวนาฬิกาคอลเลคชั่นใหม่หลายรุ่นด้วยกัน แต่ที่มากันหลากหลายหน่อยก็เห็นจะเป็นคอลเลคชั่นนาฬิกาแนวสปอร์ตขายดีอย่าง Pontos ที่เค้าออกเวอร์ชั่นใหม่ๆ มาเพิ่มเติม และยังมีรุ่นใหม่ถอดด้ามในมาดวินเทจอีกรุ่นหนึ่งด้วย มาชมกันเลยดีกว่าครับว่า Pontos เวอร์ชั่นต่างๆ ที่ออกมาใหม่ในปี 2013 นี้ มีอะไรกันบ้าง เชื่อได้ว่าแฟนๆ จะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน 

 

 

Pontos S Extreme

 

คงจำกันได้ว่าเมื่อปีที่แล้วทาง Maurice Lacroix ได้เพิ่มเติมไลน์ Pontos S Chronograph ขึ้นมาในคอลเลคชั่น ซึ่งจากคุณสมบัติและหน้าตาแล้วก็ต้องบอกว่าเป็น Pontos ไลน์ที่มีความสปอร์ตกว่า Pontos รุ่นเดิม มากับเม็ดมะยมแบบขันเกลียว พร้อมขอบหน้าปัดที่มีสเกลแต้มสารเรืองแสงสำหรับใช้ในการดำน้ำซึ่งปรับตั้งด้วยการหมุนเม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกาโดยเป็นการออกแบบอย่างชาญฉลาดให้อยู่ร่วมกับปุ่มกดจับเวลา และก็กันน้ำได้ในระดับ 200 เมตรซึ่งลึกขึ้นกว่าที่เคย จึงเรียกได้ว่าเป็นนาฬิกาสำหรับดำน้ำได้อย่างเต็มปาก

 

มาในปีนี้ก็ได้ออกเวอร์ชั่น Extreme มาเพิ่มเติมให้กับ Pontos S อีกครั้ง โดยมีการเพิ่มเติมคุณสมบัติพิเศษเข้าไป โดยเฉพาะด้านวัสดุของตัวเรือนที่มากับวัสดุโลหะชนิดใหม่ที่เรียกว่าเพาเวอร์ไลท์ (Powerlite) ซึ่งเป็นโลหะผสมชนิดใหม่ที่ทาง Maurice Lacroix นำมาใช้ โดยเป็นส่วนผสมของธาตุต่างๆ 5 ชนิด คือ อลูมิเนียม, แม็กนีเซี่ยม, ไทเทเนี่ยม, เซอร์โคเนี่ยม และเซรามิก คุณสมบัติเด่นของวัสดุ Powerlite คือ มีน้ำหนักเบา ตัวเม็ดมะยม ปุ่มกด และฝาหลังจะทำจากไทเทเนี่ยม และด้วยคุณสมบัติเฉพาะของวัสดุตัวเรือนชนิดนี้จึงสามารถทำอโนไดซ์ให้ตัวเรือนกลายเป็นสีต่างๆ แตกต่างกันได้ด้วย ซึ่งสำหรับชุดแรกที่ออกมานี้ จะมีทั้งสีดำ สีเขียวกากี และสีน้ำเงินให้เลือก (สีดำจะเป็นรุ่นผลิตจำนวนจำกัด Henrik Fisker Limited Edition) ซึ่งข้อดีของการทำอโนไดซ์ก็คือจะไม่หลุดลอกหรือถลอกเป็นรอยเห็นพื้นผิววัสดุด้านในเหมือนการเคลือบพีวีดีที่ใช้กันทั่วไปเพราะการทำอโนไดซ์นี้ สีจะซึมผ่านรูพรุนบนผิวลงไปในเนื้อวัสดุซึ่งต่างจากการเคลือบพีวีดีที่สีเคลือบจะอยู่บนพื้นผิวด้านนอกเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดงานตกแต่งด้วยสีเดียวกับตัวเรือนบนเม็ดมะยมตำแหน่ง 2 นาฬิกา แถบสีบนสเกลดำน้ำ ปลายเข็มนาทีกับวินาทีจับเวลา และด้ายที่เย็บบนสายอีกด้วย ยกเว้นรุ่นตัวเรือนสีดำที่จะใช้งานตกแต่งรายละเอียดเป็นสีแดงสด 

 

PT6028 ALB11 331PT6028 ALB21 331

 

 Pontos S Extreme ใช้กลไกอัตโนมัติโครโนกราฟ Calibre ML 112 จับเวลาได้ 12 ชั่วโมง พร้อมแสดงวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ซึ่งทางแบรนด์ได้นำเครื่องเบส Valjoux 7750 ยอดนิยมมาพัฒนาและปรับปรุงตามแนวทางของตน โดยยังคงมากับเคาน์เตอร์ย่อย 3 วงพื้นลายสเนลในรูปแบบที่คุ้นเคยล้อมขอบด้วยกรอบสีเงิน พื้นหน้าปัดนั้นจะใช้สีดำด้านลายซันบรัชด์ ติดตั้งหลักชั่วโมงแบบแท่งสีเงินแต้มสารเรืองแสงพร้อมเข็มสีเงินแต้มสารเรืองแสง

 

PT6028 ALB01 331

 

 สำหรับ Pontos S Extreme รุ่นตัวเรือนสีดำนั้นถือเป็นรุ่นพิเศษซึ่งผลิตในแบบจำนวนจำกัด 999 เรือนที่ได้รับการออกแบบงานตกแต่งรายละเอียดโดยดีไซเนอร์รถยนต์ชื่อดัง Henrik Fisker ผู้ซึ่งมีผลงานเด่นเป็นที่ยอมรับในระดับโลกไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ใช้ชื่อของตนเอง หรือจะเป็นรถยนต์ BMW และ Aston Martin รุ่นต่างๆ ที่เขาเคยออกแบบก็ตาม โดยนอกจากจะใช้สีแดงสดในการตกแต่งแถบสีบนสเกลดำน้ำ เข็มนาทีและวินาทีจับเวลา เม็ดมะยมที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา และด้ายที่เย็บบนสายแล้ว ตัวสายด้านบนยังถูกประกบด้วยหนังผิวด้านแบบเจาะรูได้อารมณ์มอเตอร์สปอร์ตอีกด้วย

  

 

Pontos S Diver

 

Pontos S Diver เป็นรุ่นใหม่ถอดด้ามจากตระกูล Pontos โดยวางบทบาทให้เป็นนาฬิกาดำน้ำระดับโปรเฟสชั่นแนลที่กันน้ำได้ลึกถึงระดับ 600 เมตร ทั้งยังมาในลุคส์วินเทจด้วยการออกแบบสไตล์เรโทรย้อนยุคอีกต่างหาก ดูแล้วน่าจะถูกใจแฟนๆ ที่ชื่นชอบนาฬิกาแนววินเทจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว มากับตัวเรือนสตีลขนาด 43 มิลลิเมตรกำลังเหมาะข้อมือไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไปพร้อมกระจกแซฟไฟร์เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน ติดตั้งฮีเลี่ยมเอสเคปวาล์วแบบอัตโนมัติกันนาฬิกาเสียหายยามขึ้นสู่ผิวน้ำเอาไว้ที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา ใช้หน้าปัดสีดำลายซันบรัชด์ที่ติดตั้งหลักชั่วโมงแบบแท่งแต้มสารเรืองแสงซูเปอร์ลูมิโนว่า ส่วนเข็มก็มีการแต้มสารเรืองแสงเช่นกันแต่จะมีความแตกต่างกันที่สีของเข็มเพื่อให้อ่านค่าได้ไม่ผิดพลาดโดยเข็มนาทีกับวินาทีจะเคลือบปลายเป็นสีแดง และยังมีหน้าต่างแสดงวันที่อยู่ที่ 6 นาฬิกาให้มาด้วย เดินด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre ML 115 กำลังสำรอง 38 ชั่วโมง 

 

PT6248 SS001 330 PR A

 

แน่นอนว่าเมื่อเป็นนาฬิกาดำน้ำก็ต้องมีสเกลหมุนได้สำหรับการดำน้ำให้มาด้วย สเกลนี้ก็จะถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงโดยอยู่บนพื้นวงแหวนอลูมิเนียมผิวทรายสีดำเช่นเดียวกับหน้าปัดซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณขอบหน้าปัดโดยหมุนได้ด้วยเม็ดมะยมขนาดใหญ่จับถนัดนิ้ว นาฬิกาจะมาพร้อมสายนาโต้วัสดุหนังวัวหรือสายสตีลแบบสามแถว 

 

PT6248 SS001 330 PR XY

  

 

Pontos Chronographe

 

เวอร์ชั่นใหม่ของ Pontos Chronographe นาฬิกาสปอร์ตยอดนิยมขายดีตลอดกาลในปีนี้ มาในมาดนาฬิกาสปอร์ตร่วมสมัยสุดเท่ห์ด้วยการตกแต่งหน้าปัดในแบบทู-โทน ที่มีให้เลือกหลายรูปแบบ ได้แก่ แบบพื้นหน้าปัดลายซันบรัชด์สีดำ พร้อมหลักชั่วโมงแบบแท่งและเข็มเคลือบสีพิ้งค์โกลด์แต้มสารเรืองแสง ล้อมขอบเคาน์เตอร์ย่อยสีดำลายสเนลด้วยกรอบหนาสีเงิน หรือพื้นหน้าปัดลายซันบรัชด์สีเงิน-เคาน์เตอร์สีเงินลายสเนลล้อมด้วยกรอบสีเงิน หรือจะเป็นแนวอารมณ์รีโทรด้วยพื้นหน้าปัดหลักลงแล็กเกอร์สีดำหรือสีขาวที่มาพร้อมสเกลทาคีมิเตอร์รอบหน้าปัดพร้อมแต่งเส้นขอบสเกลด้วยสีแดง-ฟ้า และใช้เข็มวินาทีจับเวลาสีฟ้าปลายแดง โดยใช้พื้นเคาน์เตอร์ย่อยเป็นสีขาวหรือสีดำตรงข้ามกับหน้าปัดหลักล้อมด้วยกรอบหนาสีเงิน

 

PT6188 SS001 332 PR

 

สำหรับตัวเรือนจะใช้วัสดุสเตนเลสสตีลขัดซาตินสลับขัดเงาขนาด 43 มิลลิเมตร กันน้ำได้ 50 เมตร กระจกหน้าปัดเป็นแซฟไฟร์เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน โดยในแบบหน้าปัดดำหลักชั่วโมงสีทอง จะมากับปุ่มกดทรงเรียวคล้ายเป็นส่วนหนึ่งของตัวเรือนเหมือนกับเป็นบ่าปกป้องเม็ดมะยมเช่นเดียวกับสไตล์ของ Pontos Chronographe ที่เคยเป็นมา ส่วนในแบบพื้นหน้าปัดต่างสีแนวเรโทรจะถูกปรับมาใช้เป็นรูปแบบแป้นกดทรงกลมขนาดใหญ่ให้อารมณ์เรโทร ด้านฝาหลังยังคงกรุด้วยแซฟไฟร์เพื่อให้มองเห็นเสน่ห์แห่งกลไกจักรกลที่ถูกเคลือบโรเดียมพร้อมงานขัดแต่งลายเซอร์คูลาร์เกรนด์-โค้ตเดอเชอแนฟด้วยมือของนาฬิการุ่นนี้ นาฬิกาจะมาคู่กับสายสตีลหรือสายหนังจระเข้หรูซึ่งในรุ่นหน้าปัดเรโทรจะมีสายหนังวัวให้เลือกด้วย นอกจากนี้ตามสเป็คที่แจ้งมายังมีรุ่นตัวเรือนสตีลที่ใช้ขอบตัวเรือนเป็นพิ้งค์โกลด์ 18k ให้เลือกด้วย ด้านขุมกำลังก็ยังคงใช้กลไกอัตโนมัติโครโนกราฟจับเวลา 12 ชั่วโมง 3 เคาน์เตอร์ย่อย พร้อมแสดงวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง Calibre ML 112 กำลังสำรอง 46 ชั่วโมง ที่โมดิฟายด์จากกลไก Valjoux 7750 ตามธรรมเนียมปฏิบัติของรุ่นตั้งแต่ถือกำเนิดเมื่อปี 2004 เหมือนเช่นเคย 

 

PT6288 SS001 330 PR A PT6288 SS001 130 PR A

 

  

Pontos Day/Date

 

มาดู Pontos Day/Date นาฬิกาสปอร์ตเรียบหรูขายดีของไลน์กันบ้าง ปีนี้ Day/Date ได้รับการอัพเดทหน้าตาใหม่อีกครั้งโดยมีให้เลือกในหลายรูปแบบด้วยกันไม่ว่าจะเป็นแบบสไตล์เรโทรหน้าปัดสีเงิน หรือสีดำ ที่ตกแต่งเส้นขอบสเกลด้วยสีแดง-ฟ้า และใช้เส้นขอบหน้าต่างกับเข็มวินาทีสีฟ้า พร้อมหลักชั่วโมงแบบแท่งกับเข็มสีเงิน หรือแบบทูโทนซึ่งใช้หน้าปัดสีเงิน สีเทาแบล็กโกลด์ หรือสีดำ ร่วมกับหลักชั่วโมงแบบแท่งกับเข็มเคลือบพิ้งค์โกลด์ โดยที่ส่วนปลายของแท่งหลักชั่วโมงของ Day/Date ยังมีการแต้มสารเรืองแสงเอาไว้เช่นเดียวกับที่ปลายเข็มเพื่อการมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นในสภาพแสงน้อย จัดวางอย่างงดงามบนพื้นหน้าปัดลายซันบรัชด์ที่ออกแบบพื้นผิวใหม่ให้สอดรับกับช่องหน้าต่างแสดงวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และช่องหน้าต่างแสดงวันทรงโค้งใต้โลโก้ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา อย่างลงตัว ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ Calibre ML 155 กำลังสำรอง 38 ชั่วโมง เคลือบโรเดียม ขัดแต่งลายเซอร์คูลาร์เกรน-สเนล-โค้ตเดอเชอแนฟ 

 

PT6158 PS101 13EPT6158 PS103 13E

 

PT6158 PVB11 33EPT6158 SS001 03EPT6158 SS001 131PT6158 SS001 331

 

ตัวเรือนขัดเงาสลับขัดซาตินของ Pontos Day/Date มีขนาด 40 มิลลิเมตร กระจกหน้าปัดเป็นแซฟไฟร์เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน มีให้เลือกทั้งในแบบตัวเรือนสตีล, ตัวเรือนสตีล-ขอบตัวเรือนพิ้งค์โกลด์ 18k หรือตัวเรือนสตีลเคลือบพีวีดีดำ-ขอบตัวเรือนเคลือบพิ้งค์โกลด์พีวีดี 

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเหล่า Pontos ใหม่ประจำปีนี้ของ Maurice Lacroix เชื่อว่าด้วยความหลากหลายที่ออกมานี้ น่าจะมีรุ่นที่โดนใจคุณๆ อย่างแน่นอน ไม่นานก็คงได้เจอตัวจริงกันในประเทศไทยกันแล้ว เตรียมจัดสรรงบประมาณกันได้เลยครับ

 

By: Viracharn T.