MAURICE LACROIX Manufacture Visit 2022
จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นของ MAURICE LACROIX ในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้แบรนด์ตัดสินใจนำเสนอพร้อมเลือกให้ประเทศไทย เป็นอีกหนึ่งในตลาดหลักของแบรนด์ ตั้งแต่การเปิดตัวนาฬิการุ่น AIKON Urban Tribe มาจนถึง AIKON #Tide Benzilla และ AIKON Skeleton 39mm ที่จำหน่ายหมดลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งยังสามารถสร้างกระแสความต้องการของตลาด และทำให้นาฬิกาในหลากหลายรุ่นของแบรนด์ ต่างก็เป็นที่ต้องการของผู้คนจำนวนมากในขณะนี้
ทั้งนี้กระแสส่วนหนึ่งมาจากการรวมตัวของคนรักนาฬิกา MAURICE LACROIX ที่นำโดยคุณอรุณ ซุกลา, คุณชลิต สุนทรพลิน, คุณอารยา วทัญญุภาพ, คุณอรรจนรัชต์ สีพยา, คุณสุวัฒน์ สุขกาย และ ดร.ปราโมทย์ เหรียญเจริญสุข กับเพจ MAURICE LACROIX Club Thailand ที่ประสบความสำเร็จและสามารถรวบรวมผู้คน ที่รักและสนใจในนาฬิกาแบรนด์นี้ได้มากถึงกว่า5,000 คนในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปี พร้อมทั้งยังมีผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลเข้าสู่เพจนี้ในทุกวัน
และเป็นที่มาของการเชื้อเชิญให้ทีมฟาวเดอร์ของ ML Club Thailand ไปเยี่ยมชมงาน Geneva Watch Days 2022 ที่แบรนด์นาฬิกา MAURICE LACROIX เข้าร่วมงาน พร้อมกันนั้นยังนำชมโรงงานของแบรนด์ที่ตั้งอยู่ที่เซนจ์นเนอเลจีเออร์ โดย iamwatch.net ได้รับเกียรติเข้าร่วมการเยี่ยมชมโรงงานในครั้งนี้แบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมเหล่าฟาวเดอร์ของ ML Club Thailand ซึ่งนำทีมโดยคุณรวิศ เหตานุรักษ์ แบรนด์เมเนเจอร์นาฬิกา MAURIC LACROIX ประจำประเทศไทย
พร้อมทั้ง Mr. Marcel Gut, Global Sales Director ในการนำคณะทั้งหมดเดินทางเข้าสู่เจนีวา และเข้าพัก ณ โรงแรม Eastwest สถานที่ๆ MAURICE LACROIX ใช้จัดงานแสดงในสองปีที่ผ่านมา พร้อมอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งจัดการเข้าเยี่ยมชมงาน Geneva Watch Days 2022 ณ พาวิลเลี่ยนริมทะเลสาบเจนีวา อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งทานอาหารเย็นแบบหรูหราที่ห้องอาหาร Le Grill โรงแรม Fairmont ตรงข้ามกับพาวิลเลี่ยนของงาน
โดยเช้าวันรุ่งขึ้นเป็นเวลาในการเข้าเยี่ยมชมโรงงาน MAURICE LACROIX ที่เมืองเซนจ์นเนอเลจีเออร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ตั้งอยู่ในแถบภูเขาจูรา อันเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานนาฬิกาต่างๆ มากมาย โดยโรงงานแห่งนี้เดิมเป็นโรงงานที่มุ่งผลิตชิ้นส่วนต่างๆ รวมทั้งงานการประกอบนาฬิกาเป็นเรือนสำเร็จ จนกระทั่งผันมาเป็นโรงงานของแบรนด์นาฬิกา MAURICE LACROIX ในภายหลัง ซึ่งในปัจจุบันทีมออกแบบนาฬิกา ทีมออกแบบกลไก ทีมพัฒนาด้านการตลาด ทีมวิจัย และทีมการผลิต ต่างรวมตัวกันอยู่ ณ โรงงานแห่งนี้
อาคารแห่งนี้มีการปรับปรุงโครงสร้างมาโดยตลอด เพื่อให้มีความเหมาะสมกับการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบการไหลเวียนของอากาศ และระบบการขจัดฝุ่นซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายของงานการประกอบชุดกลไก โดยมีแผนกอะไหล่และระบบการเตรียมความพร้อม ในการจัดอะไหล่อย่างครบถ้วนตามมาตราฐานการผลิตนาฬิกาของสวิส และระบบการจัดการด้านมาตรฐานต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านความเที่ยงตรงของชุดกลไก ก่อนที่จะนำชุดกลไกเข้าสู่กระบวนการประกอบกับตัวเรือน
ความพิถีพิถันในงานด้านการควบคุมมาตรฐานนี้ ถือเป็นงานหลักส่วนหนึ่งของ MAURICE LACROIX จากการเลือกใช้กลไกพื้นฐานจากภายนอกในนาฬิกาหลายรุ่น โดยจะมีช่างนาฬิกาจำนวนหนึ่งที่จะเป็นสเปเชียลลิสท์เฉพาะสำหรับกลไกอินเฮ้าส์ ในการประกอบและควบคุมมาตรฐาน พร้อมกับบรรยากาศอันแสนงดงามของสวิตเซอร์แลนด์นอกหน้าต่าง ที่มีหน้าที่ในการทำให้จิตใจและสมองของช่างนาฬิกา มีความปลอดโปร่งและมีสมาธิในการสร้างงานที่ดีที่สุดให้เกิดขึ้นได้
ซึ่งในส่วนของการประกอบชุดกลไก จะเป็นพื้นที่พิเศษที่ต้องรัดกุมในด้านการขจัดฝุ่นมากขึ้น โดยในห้องจะมีระบบดูดและรับอากาศจากภายนอกเข้ามาอย่างเหมาะสม พร้อมการกรองอากาศเข้าในห้องอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งคณะต้องสวมใส่ชุดกาวน์เพื่อป้องกันฝุ่นอีกชั้นหนึ่งด้วย จากนั้นจึงถึงส่วนของทีมผู้ออกแบบกลไก ซึ่งหนึ่งในกลไกที่นำมาให้ชมคือกลไกชุดพิเศษ ที่ไม่เคยมีใครสร้างและใช้มาก่อน นั่นก็คือกลไกอินเฮ้าส์คาลิเบอร์ ML225 ที่อยู่ในนาฬิกา AIKON Mercury
สำหรับนาฬิการุ่นนี้ ถือเป็นนาฬิการุ่นที่มีความสลับซับซ้อนสูงสุด และเกิดจากแนวคิดของทีมออกแบบกลไก ที่ต้องการสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น จากรูปแบบการแสดงเวลาทั่วๆ ไป โดยมีความเหนือชั้นในการใช้งาน เพื่อให้เจ้าของนาฬิกาจะเป็นผู้เดียวที่จะสามารถอ่านค่าเวลาได้ โดยช่างนาฬิกาผู้ออกแบบกลไกมีการนำเสนองานผ่านมอคอัพขนาดใหญ่ ให้คณะได้เห็นการทำงานของลีเวอร์แบบพิเศษ ที่ทำให้เข็มสามารถรวบกันได้ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกาเมื่อไม่ได้อยู่ในตำแหน่งยกขึ้นมองเวลา
สุดท้ายคือโชว์รูมและตู้โชว์นาฬิกาในรูปแบบต่างๆ ที่นำเสนอให้เห็นสไตล์ของนาฬิกา MAURICE LACROIX โดยคอนเซ็ปท์ของบูติคในประเทศไทยจะเป็นรูปแบบใหม่ล่าสุดของโลก ในขณะที่คณะเดินทางรู้สึกอิ่มเอมไปกับงานการผลิต และช่วยเติมเต็มประสบการณ์ได้มากกว่าแค่การได้เพียงสัมผัส
