HERMÈS Cape Cod Crépuscule

ในปี 1991 นาฬิการุ่น Cape Cod ได้ถือกำเนิดขึ้นภายใต้ลายเส้นดินสอหนาและหนักแน่นของ Henry d’Origny ด้วยตัวเรือนสี่เหลี่ยมจัตุรัสในสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่สร้างรูปขึ้นโดยมีข้อต่อเชื่อมสายทรงโซ่สมอสองชิ้นทั้งด้านบนและล่างของตัวเรือน และในวันนี้ Cape Cod ก็ได้รังสรรค์หน้าปัดอันงดงามใหม่ที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว และเผยให้เห็นถึงสองโลกอันแสนโดดเด่นพิเศษขึ้นอีกครั้ง

 

Cape Cod crepuscule copyright DavidMarchon

 

ในปี 2018 HERMÈS ได้ริเริ่มการประชุมร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนา ที่เชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์และไมโครเทคโนโลยีของสวิส (Swiss Center for Electronics and Microtechnology (CSEM)) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เนอชาแตล โดยเป็นส่วนหนึ่งของการวิจัยและเสาะหานวัตกรรม ด้านเทคโนโลยีที่ช่วยในการริเริ่มสร้างสรรค์ และการประชุมครั้งนั้นได้มอบซึ่งการเริ่มต้นโครงการสำหรับรังสรรค์หน้าปัดชนิดใหม่

 

Cape Cod crepuscule3 copyright DavidMarchon

 

เป็นหน้าปัดที่ผลิตขึ้นจากเวเฟอร์ซิลิคอน (Silicon Wafer) และนำมาสู่ผลลัพธ์ของลวดลายเครปูสกูล (Crépuscule) ซึ่งมีความหมายว่าพลบค่ำ ที่มีทั้งความวิจิตร ความประณีต และความละเอียดอ่อน โดยเป็นภาพจากศิลปินนักออกแบบกราฟฟิค Thanh-Phong Lê (แทง-ฟอง เล) ที่สามารถสร้างสรรค์ให้เกิดคุณภาพอย่างครบถ้วนตามที่ต้องการอย่างบริสุทธิ์ จากการนำวัสดุชนิดนี้มาใช้ผลิตเป็นหน้าปัดครั้งแรกของวงการ

 Cape Cod crepuscule1 copyright DavidMarchon

 

เวเฟอร์ซิลิคอนกับกระบวนการไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ที่มอบคุณภาพด้านความสวยงามอันบริสุทธิ์ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปริมาณของวัสดุที่เติมเข้าไปในระหว่างกระบวนการผลิต โดยจะมอบทั้งความแตกต่างของสีสัน ความลุ่มลึก และแถบเฉดสีอันมีเอกลักษณ์เฉพาะอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งกระบวนการทางเทคโนโลยีขั้นสูงนี้ จะดำเนินการโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญภายในห้องปฏิบัติการต่างๆ ของ CSEM

 

3333

 

ความสวยงามของหน้าปัดนาฬิกา Cape Cod Crépuscule นี้สร้างสรรค์มาจากแผ่นวัสดุชิ้นเดี่ยวที่มีความหนาเพียง 0.5 มิลลิเมตร และถูกเคลือบผ่านกระบวนการอันมีความแม่นยำด้านการผลิตสูงด้วยฟิล์มบางๆ ในระดับ 72 นาโนเมตร ของซิลิคอนไนไตรด์ (Silicon Nitride) เพื่อให้ได้มาซึ่งเฉดสีน้ำเงินเข้มตามต้องการ และตามภาพต้นแบบของศิลปินนักออกแบบกราฟฟิค

 

145

 

จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนของการพิมพ์ด้วยแสงหรือโฟโตลิโทกราฟี (Photolithography) ในระหว่างที่เวเฟอร์ถูกวางอยู่ท่ามกลางแสงสีน้ำเงินเพื่อพิมพ์ลวดลาย โดยต้องผ่านขั้นตอนการอาบแสดงหลายขั้นต่อเนื่องกัน ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการเคลือบทอง และตามมาด้วยการอาบชนิดอื่นๆ เพื่อขจัดวัสดุอื่นๆ ที่ติดมาพร้อมกับขั้นตอนก่อนหน้า ก่อนที่สุดท้ายนั้นแผ่นสำหรับหน้าปัดนี้จะถูกตัดตามรูปทรงของตัวเรือน

 

2222

 

หน้าปัดพร้อมด้วยชุดเข็มชี้อันเรียวยาวนี้ ได้เผยให้เห็นเฉดสีน้ำเงินอันมีมิติหลากหลายที่โปรยปรายไปด้วยเยลโลโกลด์ ซึ่งได้มาจากวิธีการเฉพาะหนึ่งเดียวที่ผสมผสาน ระหว่างความคิดสร้างสรรค์และนาโนเทคโนโลยี ทั้งยังจับคู่มากับสายนาฬิกาแบบแถวเดียว หรือสายพันรอบข้อมือแบบสองแถว ที่ผลิตจากหนังวัวสีน้ำเงินเข้ม ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตและพิถีพิถันภายในห้องปฏิบัติการ HERMÈS Horloger เอง

1111